เขาหน่อ เขาแก้ว

เขาหน่อ – เขาแก้ว ตั้งอยู่ริมทางหลวงสายพหลโยธิน ช่วงนครสวรรค์ – กำแพงเพชร ห่างจากถนนใหญ่เข้าไป 2 ก.ม. ในท้องที่ตำบลบ้านแดน อำเภอบรรพตพิสัย จังหวัดนครสวรค์ ติดกับพื้นที่ของตำบลสลกบาตร อำเภอขาณุวรลักษบุรี จังหวัดกำแพงเพชร (ห่างจากสลกบาตร 10 กม.) ระยะทางจากตัวจังหวัดประมาณ 45 กิโลเมตร และจากที่ว่าการอำเภอบรรพตพิสัยประมาณ 18 กิโลเมตร

เขาหน่อ เป็นเขาหินปูนที่มีวัดและโรงเรียนอยู่เชิงเขา ปัจจุบันโรงเรียนร้างไปแล้ว แบ่งเป็น ๒ ส่วนสำคัญคือ

1. เขานางพันธุรัตหรือเขาลูกเล็ก มีบันไดขึ้นสู่ยอดเขาซึ่งเป็นจุดชมวิว 60 ขั้น ระหว่างทางขึ้นยอดเขา มีถ้ำขนาดเล็กแห่งหนึ่ง ด้านหน้าประดิษฐานพระพุทธรูปนอนองค์ใหญ่อยู่หน้าปากถ้ำ และมีพระพุทธรูปองค์เล็กอีก 4-5 องค์อยู่ข้าง หากจะเข้าถ้ำต้องเดินอ้อมหลังพระพุทธรูปเข้าไป ภายในถ้ำมีลักษณะเปียกชื้น การเดินให้ระวังลื่นหกล้ม นักท่องเที่ยวควรมีไฟฉายหรือเทียนไขติดตัว ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นถ้ำพญานาค เมื่อเดินเข้าไปในถ้ำจะมีลักษณะเรียวเล็กลง ๆ จนไม่สามารถเดินต่อไปได้ ต้องเดินย้อนกลับมาทางเดิม แล้วสามารถเดินทะลุออกไปอีกทางหนึ่งเพื่อเดินขึ้นยอดเขาไปชมทัศนียภาพของวัด ณ ลานเผานางพันธุรัตได้ การปีนเขาลูกเล็กเหมาะสำหรับเด็กและคนชราที่ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง

2. เขาพระพุทธบาทหรือเขาลูกใหญ่ ด้านหน้ามีโรงเรียนร้างเป็นจุดสังเกต อยู่ห่างจากเขานางพันธุรัตประมาณ 300 เมตร ด้านบนเป็นที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทและเจดีย์เก่าอายุประมาณ 400 ปี คาดว่าสร้างในสมัยอยุธยาตอนปลาย มีระฆังที่นำไปแขวนใหม่ประมาณ 20 ใบ มีบันไดสำหรับเดินขึ้นไปนมัสการรอยพระพุทธบาท 700 ขั้น ก่อนถึงยอดเขาจะต้องปีนบันไดลิงอีก 5 ช่วง ในอดีตเคยเป็นที่จัดแข่งขัน Walking Rally แข่งขันพิชิตยอดเขาหน่อเป็นคนแรก การปีนเขาลูกใหญ่เหมาะสำหรับหนุ่มสาวที่ร่างกายแข็งแรง

เขาแก้ว อยู่ในบริเวณเดียวกันกับเขาหน่อ ปัจจุบันมีถนนคั่นกลางแบ่งเขตกันอย่างชัดเจน ส่วนที่เป็นที่ตั้งวัดกับโรงเรียนคือเขาหน่อ ส่วนที่เป็นถ้ำค้างคาวคือเขาแก้ว เขาแก้วมีถ้ำหลายถ้ำซึ่งเป็นที่อยู่ของค้างคาวมากมาย ในเวลาเย็นใกล้พลบค่ำฝูงค้างคาวจะพากันบินออกหากินนับล้านตัว ค้างคาวบินออกหากินจากถ้ำ 30 นาทีก็ยังออกจากถ้ำไม่หมด ปัจจุบัน อบต.บ้านแดนพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว โดยสร้างศาลาไว้ชมค้างคาวไว้บริการนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ จะมีผู้คนจากต่างถิ่นมาชมค้างคาวและรับประทานอาหารค่ำ มีชาวบ้านนำอาหารมาจำหน่ายไว้บริการ เมื่อครั้งพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 เสด็จภาคเหนือทางชลมารคสายแม่น้ำปิง ได้เคยเสด็จประพาสบริเวณเขาหน่อเมื่อปี 2449

[adsense-2]

สิ่งที่น่าสนใจ

1. พระพุทธบาท ๔ รอย พระพุทธบาทคือรอยเท้าของพระพุทธเจ้า ถ้ามีรอยพระพุทธบาทที่ใดแสดงว่าพระพุทธศาสนาแผ่ไปถึงที่นั่นแล้ว พระพุทธบาทที่ยอดเขาหน่อมี ๔ รอยซ้อนกัน มีมณฑปเก่าครอบเอาไว้ พระพุทธบาทเขาหน่อมีความยาว ๓ ศอก กว้าง ๑ ศอก ๕ นิ้ว พระพุทธบาท ๔ รอยซ้อนกันในทางศาสนาถือว่า สถานที่แห่งนี้ในอดีตพระพุทธเจ้าเคยเสด็จมาแล้ว ๔ พระองค์คือ พระพุทธกกุสันธะ พระพุทธโกนาคมน์ พระพุทธกัสปะ และพระพุทธโคดม

พระพุทธบาทโดยทั่วไปจะมีแค่รอยเดียว แต่ถ้าที่ใดมีรอยพระพุทธบาทมากถึง ๔ รอยก็จะมีความสำคัญหรือศักดิ์สิทธิ์ยิ่งขึ้นไปอีก พระพุทธบาทที่มีสี่รอยในประเทศไทยมีอยู่ไม่มากนัก แต่ที่ขึ้นชื่อที่สุดในประเทศอยู่ที่ วัดพระพุทธบาทสี่รอย ต.สะลวง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ดังนั้นรอยพระพุทธบาทที่เขาหน่อจึงถือว่ามีความศักดิ์สิทธิ์และสำคัญ ที่จังหวัดนครสวรรค์นอกจากที่นี่แล้ว ยังมีอีกแห่งหนึ่งคือวัดจอมคีรีนาคพรต

ข้อแตกต่างระหว่างพระพุทธสี่รอยทั้งสองแห่งก็คือ ที่เชียงใหม่เป็นรอยพระบาทใหญ่และเล็กลงตามลำดับ สังเกตเห็นได้ง่าย (ดูรูป) แต่ที่เขาหน่อ พระพุทธบาททั้ง ๔ รอยมีขนาดเท่ากัน สังเกตเห็นได้ยาก แต่มีจุดให้รู้ว่าเป็นพระพุทธบาทสี่รอยตรงปลายของส้นเท้า (ดูรูป)

2. เจดีย์โบราณ เจดีย์องค์นี้ตั้งอยู่ ณ จุดที่สูงที่สุดของเขาหน่อ อยู่ติดกับมณฑปครอบรอยพระพุทธบาท ดูจากลักษณะที่ตั้งแล้วเจดีย์องค์นี้สันนิฐานว่าน่าจะบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ พระธาตุ หรือสิ่งของสำคัญในทางศาสนาอย่างใดอย่างหนึ่ง ปัจจุบันเป็นซากปรักหักพังชำรุดทรุดโทรมไปตามกาลเวลา เป็นเพียงกองดินขนาดใหญ่ แต่ก็สิ่งที่พอจะให้สังเกตเห็นได้ว่าเป็นเจดีย์เก่า เพราะมีอิฐศิลาแลงโบราณขนาดใหญ่อยู่ภายใน ดูจากอิฐที่ก่อสร้างเจดีย์แล้วน่าจะอายุหลายร้อยปี รอยพระพุทธบาทและเจดีย์นี้ ประดิษฐานบนเขาหน่อลูกใหญ่ มีทางขึ้นที่หลังโรงเรียน (ปัจจุบันร้างแล้ว)

3. ลีลาวดีพันปี (ลั่นทมพันปี) บนยอดเขาหน่อลูกใหญ่ จะมีต้นลีลาวดีซึ่งจะออกดอกทั้งปีโดยไม่เลือกฤดูกาล นักท่องเที่ยวมาเขาหน่อเวลาไหนก็จะเห็นลีลาวดีออกดอกทุกฤดู ต้นลีลาวดีที่เขาหน่อแม้ว่าจะมีขนาดเล็กเพราะแคระแกรน เนื่องจากอยู่ตามซอกเหลือบเขา แต่ก็มีอายุนับร้อยปีนับพันปี ต้นลีลาวดีที่นี่จึงต่างจากต้นลีลาวดีตามที่ทั่วไป และที่สำคัญต้นลีลาวดีที่เขาหน่อเกิดอยู่ในจุดที่สูงกว่าต้นไม้ชนิดอื่น ดังนั้นจึงได้รับสมญานามว่า “ราชินีแห่งเขาหน่อ” ออกดอกชูช่อเพื่อบูชาพระพุทธบาท

4. ถ้ำพระนอน ถ้ำจรเข้ ถ้ำชีปะขาว ถ้ำทั้ง 3 นี้คือถ้ำเดียวกัน แต่เรียกสามชื่อก็เพราะว่า

  • ภายนอกถ้ำมีพระนอนขนาดใหญ่ เลยเรียกว่า “ถ้ำพระนอน”
  • ภายในถ้ำมีหินก้อนใหญ่คล้ายจรเข้ เลยเรียกว่า “ถ้ำจรเข้”
  • ภายในถ้ำเคยมีชีปะขาวอาศัยอยู่ เลยเรียกว่า “ถ้ำชีปะขาว”

ภายในถ้ำแห่งนี้ เหมาะสำหรับเด็ก ๆ หรือผู้ใหญ่นักสำรวจ เพราะมีขนาดไม่ใหญ่นัก ถ้าเข้าไปควรมีไฟฉายหรือเทียนติดตัวไปด้วย เอาไว้ส่องนำทาง เมื่อเดินเข้าไป ทางจะแคบลงเรื่อย ๆ จนเข้าไม่ได้ ไม่มีอันตรายใด ๆ จะมีเพียงแต่ระวังการลื่นหกล้มเท่านั้น

5. พระปางไสยาสน์ คือพระนอนขนาดใหญ่หน้าถ้ำ ชาวบ้านหรือนักท่องเที่ยวนิยมมากราบขอพร ต้องเดินขึ้นบันไดจากเชิงเขามาอีกประมาณ 60 ขั้น ด้านหลังองค์พระเป็นถ้ำพระนอน หากไม่ประสงค์เข้าไปเที่ยวในถ้ำ เดินไปทางซ้ายมือไปเรื่อย ๆ จะเป็นทางเดินไปลานเผาศพนางพันธุรัต

6. ลานเผานางพันธุรัต เดิมเป็นเจดีย์เก่าตั้งแต่สมัยอยุธยา บรรจุพระบรมสารีริกธาตุและของมีค่าต่าง ๆ อาทิ แก้ว แหวน เงิน ทอง เป็นต้น ต่อมาชำรุดทรุดโทรมเหลือเพียงฐานเท่านั้น ชาวบ้านและผู้ที่ขึ้นไปสำรวจไม่ทราบว่าเป็นอะไร เห็นเป็นสิ่งอัศจรรย์เพราะมีลักษณะพิเศษคือ เป็นลานดินที่แข็งมาก ตอกตะปูหรือขุดหลุมแทบจะไม่เข้า ต้นไม้ใบหญ้าไม่งอกขึ้น เป็นอย่างนี้ตลอดปีตลอดชาติไม่ว่าจะฤดูไหน ๆ ชาวบ้านเห็นเป็นสิ่งประหลาดแต่หาคำตอบไม่ได้ จึงได้โยงไปถึงวรรณคดีเรื่องสังข์ทอง บอกว่าเป็นลานเผาศพนางพันธุรัต

แต่ความจริงก็คือ สถานที่แห่งนี้เป็นเจดีย์เก่าแก่ บรรจุของมีค่าในพระศาสนาเอาไว้ ตอนนั้นฝนยังไม่ได้ชะล้างหน้าดินออกไป ทำให้ไม่เห็นอิฐและหินอยู่ด้านใต้ฐาน แต่เมื่อเวลาผ่านไปนานนับสิบปี ฝนได้ชะล้างหน้าดินออกไป ทำให้ทราบว่า ลานเผานางพันธุรัต ความจริงคือเจดีย์เก่าแก่สมัยอยุธยา

ในอดีตที่ทางวัดยังไม่ได้ทำทางคอนกรีตขึ้นไป การขึ้นไปลานเผานางพันธุรัตทำได้ยากมาก เพราะต้องปีนป่ายหินขึ้นไป ปัจจุบันทางวัดได้จัดทำทางเดินอย่างดี เมื่อนักท่องเที่ยวมาที่นี่แล้ว ควรขึ้นไปชมลานเผานางพันธุรัตในวรรณคดีเรื่องสังข์ทองให้ได้ เพราะทัศนียภาพงดงามมาก เหมาะสำหรับคนที่ไม่ค่อยแข็งแรง ส่วนคนที่มีแรงมากควรปีนเขาหน่อลูกใหญ่ไปนมัสการรอยพระพุทธบาท

7. โบสถ์ ภายในมีจิตรกรรมฝาผนังพุทธประวัติสวยงามมาก สมเด็จพระเทพฯ เคยเสด็จมาทำพิธีฉลองโบสถ์

8. สระเสด็จ อยู่ใกล้ ๆ โบสถ์ ที่ชื่อว่าสระเสด็จเพราะพระพุทธเจ้าหลวง (ร.5) เคยเสด็จมาสรงน้ำเมื่อครั้งทรงประภาสที่นี่ นักท่องเที่ยวเมื่อให้อาหารลิงเสร็จแล้ว ควรให้อาหารปลาก่อนกลับ

9. เขาแก้ว เป็นเขาที่มีชื่อคล้องจองกับเขาหน่อ ไม่สามารถเข้าไปเที่ยวโดยตรงได้เพราะอยู่สูง เป็นสถานที่นักท่องเที่ยวนิยมแวะมาดูค้างคาวบินออกจากถ้ำเพื่อหากินในเวลาประมาณ 17.30 – 18.30 น. แล้วแต่ฤดูกาล ค้างคาวที่นี่มีนับล้านตัว บินออกจากถ้ำเป็น 2 สายยาวมาก และจะมีนกเหยี่ยวมาคอยโฉบจับค้างคาวกินกลางอากาศทุกวัน วันละหลาย ๆ ตัว แต่ก็ไม่เคยหมดเพราค้างคาวมีเยอะ หากอยากเห็นชัด ๆ ควรมีกล้องส่องทางไกลติดตัวมาด้วย

10. ลิง ลิงที่นี่มีมาแต่โบราณตั้งแต่สมัยเป็นป่าดงดิบ ต่อมาเมื่อมีคนมีจำนวนมากขึ้น ป่าเขาหมดไป ลิงไม่มีที่อยู่ที่อาศัยก็อพยพหลบภัยมาอยู่ในวัดออกลูกออกหลานเต็มไปหมด อาหารไม่พอกิน ต้องขยายอาณาเขตหากินไปไกล ลิงในปัจจุบันก็เลยค่อนข้างจะไร้มารยาทและดื้อพอสมควร ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่ค่อนข้างจะเกรงคน

11. รูปเหมือนหลวงปู่โต พรหมรังสี ในอดีตสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังสี เคยธุงดงค์ผ่านมาพักและเรียนวิชาอาคมกับชีปะขาวที่ถ้ำแห่งนี้ ทางวัดจึงได้สร้างรูปท่านไว้เป็นอนุสรณ์

ในช่วงต้นเดือนมิถุนายนของทุกปี ทางจังหวัดนครสวรรค์ได้จัดกิจกรรม “ปีนเขาหน่อ รอนางพันธุรัต” ซึ่งเป็นกิจกรรมท่องเที่ยวสนุกสนานในรูปแบบของการผจญภัย โดยนักท่องเที่ยวจะได้ร่วมกิจกรรม Walk Rally , จักรยาน Rally , ร่วมท้าทายแข่งขันพิชิตเขาพระพุทธบาท (เขาหน่อ) สัมผัสกับป่าหินที่สวยงาม สัมผัสกับตำนานนิทานพื้นบ้านพระสังข์ทอง และชมฝูงค้างคาวจำนวนนับล้านตัว พร้อมรับประทานอาหารแบบขันโตก และชมการแสดงระบำพื้นบ้าน อาทิ ระบำธานญบุรี บอกเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ของชาวบรรพตพิสัย การแสดงละครรำ “สังข์ทอง” การแสดงระบำค้างคาว และการประกวดนางพันธุรัต รายได้ของการจัดงานจะนำมาเป็นกองทุนอาหารลิง ซึ่งมีลิงอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากในบริเวณแหล่งท่องเที่ยวเขาหน่อ-เขาแก้ว

ติดต่อสอบถาม

อบต.บ้านแดน 056-279-320
http://www.tourismthailand.org/uthaithani

แผนที่เขาหน่อ เขาแก้ว

ความเห็น

ความเห็น