อุทยานวรรณคดีลิลิตพระลอ

อุทยานลิลิตพระลอ ตั้งอยู่ที่เมืองสอง จังหวัดแพร่ ระหว่างทางจากแพร่ไปอำเภองาวจังหวัดลำปาง ก่อนผ่านไปพะเยา เชียงราย ระหว่างทางจะผ่านอำเภอสงบๆ เล็กๆ ชื่อว่าอำเภอสอง ที่อำเภอนี้มีความเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ และเรื่องราวของลิลิตพระลอ ในที่สุดปี พ.ศ. 2551 ได้มีการสร้างสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ขึ้นคืออุทยาลิลิตพระลอ มีอนุสาวรีย์พระลอ พระเพื่อน พระแพง ที่ยืนตายสามคน

ลิลิตพระลอเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่าง 2 เมืองคือเมืองสรวงเจ้าครองเมืองชื่อว่าท้าวแมนสรวงและ พระนางบุญเหลือมีโอรสพระองค์หนึ่งรูปงามมาก นามว่า “พระลอ” ส่วนอีกเมืองหนี่งคือเมืองสรองเจ้าเมืองชื่อท้าวพิมพิสาคร โอรสชื่อ ท้าวพิชัยพิษณุกร ซึ่งมีธิดา 2 พระองค์จากชายาชื่อพระนางดาราวดีคือ“พระเพื่อน”และ“พระแพง” ในคราวหนึ่งท้าวแมนสรวงได้ยกทัพไปตีเมืองสรอง ท้าวพิมพิสาครสิ้นชีพ ท้าวพิชัยพิษณุกรนำพระศพเข้าเมืองและขึ้นครองเมืองสืบต่อจากพระบิดา โดยมีพระเพื่อนและพระแพงทำหน้าที่ปรนนิบัติเจ้ายู้เคยเป็นชายาท้าวพิมพิสาคร ส่วนทางเมืองสรวง ท้าวแมนสรวงได้ไปขอพระนางลักษณาวดีให้แก่พระลอเมื่อท้าวแมนสรวสิ้นพระชนม์พระลอก็ได้ครองราชย์สมบัติ สืบต่อมา

ความงามของพระลอเลื่องลือไปทั่ว พระเพื่อน พระแพงได้ทราบข่าวเกิดการหลงรักขึ้นทันที มีอาการกินไม่ได้โศกเศร้าอยากเห็นหน้าพระลอให้ได้ จนนางรื่นนางโรยเกิดความสงสาร ติดต่อหมอผีทำเสน่ห์หลายคนแต่ไม่สำเร็จสุดท้ายไปให้ปู่เจ้าสมิงพรายช่วย ปู่เจ้าได้เล็งญาณแล้วทราบว่าบุคคลทั้ง 3 ต้องมาชดใช้กรรมกันในชาตินี้ จึงรับช่วยโดยการทำเสนห์ ครั้งแรกใช้ลูกลมลงอาคมติดเหนือยอดยางเจ็ดคนโอบไม่สำเร็จ ทำซ้ำโดยใช้ธงสามชายลงอาคมปักขึ้นยอดตะเตียนใหญ่ เก้าคนโอบเมืองสรวงได้หมอสิทธิชัยช่วยแก้ได้ก็ไม่สำเร็จอีก ครั้งสุดท้ายเสกหมากสลาเหิรให้พระลอหยิบขึ้นมาเคี้ยว ไม่สัมฤทธิ์ผล พระลอยกพลออกจากเมือง ข้ามแม่น้ำกาหลง พร้อมกับอธิษฐานจิตเสี่ยงน้ำปรากฏว่าน้ำไหลวน สีแดงเป็นลางร้ายแต่ด้วยขัติยะมานะไม่ถอยกลับและปู่เจ้าได้คัดเลือกไก่ที่สวยงามและเสกผีเข้าสิงไก่ให้พระลอหลงตามเข้ามาในสวนของพระเพื่อน พระแพง พระลอได้ส่งคนสนิทคือนายแก้ว นายขวัญปลอมตัวเป็นนักท่องเที่ยวชื่อนายรัตน์ นายรามเข้าตีสนิทนางรื่น นางโรย จนเกิดรักใคร่ได้เสียกันและพาพระลอไปพบกับ พระเพื่อน พระแพงในสวนพบรักกันพร้อมกับหลบซ่อนลอบรักอยู่ในที่ประทับของพระเพื่อน พระแพงได้ครึ่งเดือน

[adsense-2]

ความทราบถึงท้าวพิชัยพิษณุกรผู้เป็นบิดา ลอบดูเหตุการณ์เมื่อเห็นพระลอเกิดความรักและเมตตาทรงอภัยให้และตรัสว่าเมื่อได้ฤกษ์งายามดีจะทำพิธีอภิเษกให้ แต่เจ้าย่ารู้ข่าวเกิดความแค้นและผูกใจเจ็บ สั่งทหารกำจัดพระลอเสีย โดยอ้างว่าท้าวพิชัยพิษณุให้สิทธิ์โดยดำเนินการเป็นความลับ ตกดึกให้ทหารล้อมจับพระลอ พระลอคิดสู้ ทุกคนยอมตาย พระเพื่อน พระแพง นางรื่น นางโรยแต่งกายคล้ายชายถือดาบเข้ารบกับทหารพร้อมกับหนีไปด้วย สุดท้ายถึงประตูประสาทไม่อาจต้านทานกำลังทหารได้ ทหารยิงหน้าไม้อาบยาพิษใส่พระลอ พระเพื่อน พระแพง จนทั้งสามสิ้นใจทั้งๆที่ยังยืนอิงกันหันหน้าสู้อยู่จนดูเหมือนกับว่ายังไม่ตาย ท้าวพิชัยพิษณุกรทราบข่าวสั่งให้จับทหารและเจ้าย่าเลี้ยงของพระเพื่อน พระแพง ไปประหารพร้อมกับแจ้งข่าวไปยังเมืองแมนสรวง พระนางบุญเหลือแต่งทูตพร้อมเครื่องบูชาศพเดินทางไปยังเมืองสรอง เมื่อถวายเพลิงศพแล้วก็ให้สร้างสถูปขึ้นสามองค์ เพื่อบรรจุอัฐิอังคารสามกษัตริย์และพระพี่เลี้ยงนับแต่นั้นมา เมืองสรวงและเมืองสรองกลับมามีไมตรีต่อกัน

พระธาตุพระลอ (พระธาตุหินล้ม) เป็นพระธาตุที่มีอายุเก่าแก่ประมาณ 400 ปี มีสถูปบรรจุพระอัฐิของพระลอ พระเพื่อน พระแพง และมีการสร้างอนุสาวรีย์ของพระลอ พระเพื่อน พระแพงหันหน้าไปทางแม่น้ำกาหลง (แม่น้ำสอง)โดยกรมศิลปากร เป็นอนุสรณ์สถานของนครแมนสรวง และเมืองสรวงที่จูงใจให้น้อมรำลึกถึงความรักอมตะของพระลอ และพระเพื่อน พระแพง โดยรอบบริเวณตกแต่งเป็นสวนสาธารณะร่มรื่นสวยงาม

การเดินทาง

รถยนต์
ไปตามเส้นทางหลวงหมาย 101 ประมาณ 24 กิโลเมตร แยกซ้ายเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 103 อีกราว 18 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวขวาสู่อำเภอสองใช้เส้นทางหมายเลข 1154 จากนั้นเลี้ยวซ้ายไปอีก 3 กิโลเมตรถึงพระธาตุพระลอ (พระธาตุหินล้ม)

แผนที่อุทยานวรรณคดีลิลิตพระลอ

ความเห็น

ความเห็น