พระพุทธรูปแกะสลักเขาชีจรรย์ สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดชลบุรี เริ่มมีการกล่าวขานมากขึ้น เมื่อได้มีการจัดสร้างพระพุทธรูปแกะสลักในลักษณะพระพุทธฉายที่ใหญ่ที่สุดในโลกเพื่อเป็นพระพุทธรูปประจำรัชกาลที่ 9 น้อมเกล้าถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวโรกาสทรงครองสิริราชสมบัติปีที่ 50 ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิ พลอดุลยเดช พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ พระราชทานนามพระพุทธรูปแกะสลักด้วยเลเซอร์บนหน้าผาเขาชีจรรย์ วัดญาณสังวรารามวรมหาวิหาร อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ว่า ” พระพุทธมหาวชิร อุตตโมภาสศาสดา ” มีความหมายว่า “พระพุทธเจ้าทรงเป็นศาสดาที่รุ่งเรือง สว่าง ประเสริฐดุจดังมหาวชิระ” พระพุทธรูปประทับนั่งปางมารวิชัย เลียนแบบพระพุทธนวราชบพิตร ศิลปะสุโขทัยผสมล้านนา ขนาดความสูง 109 เมตร หน้าตักกว้าง 70 เมตร ฐานบัวหรือบัวบัลลังก์สูง 21 เมตร รวมความสูงขององค์พระและบัลลังก์ทั้งสิ้น 130 เมตร โดยลายเส้นแกะสลักลงในเนื้อหินเป็นร่องลึก ขนาดความกว้าง 30-40 เซนติเมตร ลึก 10 เซนติเมตร ฝังด้วยกระเบื้องโมเสกสีทองเต็มร่อง เป็นพระพุทธรูปแกะสลัก ในลักษณะพระพุทธฉายที่ใหญ่ที่สุดในโลก สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสทรงครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี ในวันที่ 9 มิถุนายน […]
Read MoreTag: ชลบุรี
น้ำตกชันตาเถร ตั้งอยู่ที่ตำบลบางพระ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี เป็นน้ำตกในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาเขียว-เขาชมภู่ เมื่อถึงลานจอดรถต้องเดินเท้าอีก 700 เมตร สามารถเช่ารถสองแถวจากตลาดบางพระได้ น้ำตกแห่งนี้มีความสูงถึง 5 ชั้น ชั้นที่ 4 มีความสวยงามที่สุด ซึ่งต้องเดินเท้าประมาณ 1 กิโลเมตร ส่วนชั้นที่ 5 ต้องปีนป่ายขึ้นไป มีน้ำเฉพาะช่วงเดือนสิงหาคม-พฤศจิกายน จะมีน้ำมากและน้ำหลากในช่วงฤดูฝนที่มีฝนตกชุกเท่านั้น ส่วนในหน้าแล้งน้ำจะแห้งขอดจะมีไหลเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงมกราคมเหมาะที่จะมาดูนก โดยเฉพาะนกเงือก น้ำตกชันตาเถร มีระบบนิเวศน์ที่ค่อนข้างจะสมบูรณ์ระดับหนึ่ง เมื่อเทียบกับแหล่งต้นน้ำอื่นๆในอำเภอศรีราชา และยังเป็นผืนป่าแห่งเดียวที่ใหญ่ที่สุดในอำเภอศรีราชา ซึ่งเหมาะแก่การเดินทางไปศึกษาทาด้านระบบนิเวศน์วิทยา บริเวณน้ำตกมีพืชพันธุ์ไม้หลากหลายสายพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็นเฟิร์น หวายป่า ผักหวานป่า ไผ่ต่างๆ นอกจากนี้ยังมีสัตว์ป่าเช่น หมูป่า กระรอก กระถิก กระแต ตะกอง นกโพระดก นกโพระดกตีทอง นกขุนทอง รวมถึงปูชนิดหนึ่งที่ชอบอาศัยอยู่ในน้ำตกในภูเขาซึ่งมีลำตัวใหญ่กว่าปูนา [adsense-2] ช่วงเวลาที่เปิดให้เข้าเที่ยวชม เปิดทุกวัน เวลา 6.00–16.00 น. ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม ททท. ภาคกลาง เขต […]
Read Moreตลาดน้ำ 4 ภาค(พัทยา) ตั้งอยู่เลขที่451/304 หมู่ 12 ถ.สุขุมวิท-พัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เป็นตลาดน้ำที่ถูกสร้างขึ้น โดยมุ่งเน้นที่จะรวบรวมเอาบรรยากาศของตลาดน้ำเป็นหลัก ประกอบด้วยบ้านเรือนซึ่งสร้างขึ้นมาให้เป็นตามแบบเอกลักษณ์ของบ้านไม้ในแต่ละภาคซึ่งปัจจุบันจะหาดูได้ยากยิ่ง ในอาคารที่เชื่อมต่อกันด้วยสะพานทางเดินเหนือน้ำ จัดรูปแบบให้เป็นร้านค้าขายสินค้าต่างๆ ซึ่งเป็นของดีของเด่นในแต่ละภาค แบ่งออกเป็น 4 ภาค คือ ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคอีสาน และ ภาคใต้ นอกเหนือไปจากสินค้าของใช้ของประดับบ้าน เสื้อผ้า ก็จะมีอาหารชนิดต่างๆ ให้เลือกชิมเลือกซื้อกันตามอัธยาศัย มีทั้งเป็นร้าน มีทั้งขายในเรือ พายไปพายมาอยู่ในพื้นที่ นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาตินิยมจะมาที่นี่และสัมผัสวิถีชีวิตความเป็นอยู่การค้าขายโดยทางเรือ ที่ตลาดน้ำ 4 ภาค พัทยา เหมือนได้ไปเที่ยว ตลาดโบราณในภาคต่างๆ ทั่วประเทศ ภายในตลาดน้ำแห่งนี้มีพิพิธภัณฑ์ ๑ สยาม ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมงานฝีมือหัตถกรรม ไม้สักทองแกะสลักไว้มากมาย ไม้สักทองทั้งหมดเป็นไม้ที่มีอายุเก่าแก่ ซึ่งช่างไม้ได้นำมาแกะสลักตามคติความเชื่อ ขนบธรรมเนียมและวัฒนธรรมไทย และถ่ายทอดออกมาได้อย่างวิจิตรงดงาม ทั้งยังมีอาหารและสินค้าฝีมือหัตถกรรมหลากหลายที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละภาค จัดจำหน่ายให้เลือกซื้อและรับประทานทั้งในเรือนชานและบนเรือ ขณะเดียวกันนักท่องเที่ยวสามารถชมการแสดงต่างๆระหว่างที่เยี่ยมชมหาซื้อ อาหารและสินค้าต่างๆของแต่ละภาค ได้แก่ ฟ้อนสาวไหม รำต้นวรเชษฐ์ […]
Read Moreตลาดเก่าอ่างศิลา ไปเลือกซื้ออาหารทะเลทั้งสดทั้งแห้ง ในราคาไม่แพง และอย่าลืมซื้อ ครกหินอ่างศิลา สินค้าขึ้นชื่อของที่นี่ค่ะ ตั้งอยู่ที่ตำบลอ่างศิลา อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี เป็นหมู่บ้านชาวประมงและตลาดโบราณ มีของกินของใช้มากมาย ผู้ที่เดินทางมาเที่ยวที่จ.ชลบุรี ก่อนกลับจะแวะมาที่ตลาดเก่าแห่งนี้ พ่อค้าแม่ค้าใจดีมากค่ะ มีทั้งของฝากประเภทอาหารทะเลสด หรือปรุงสำเร็จ ขนมไทยโบราณ สามารถเดินชิมความอร่อยได้ทุกร้าน ราคาสบายกระเป๋า เดิมตลาดอ่างศิลามีถนนเพียงสายเดียว สร้างในสมัยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เมื่อ พ.ศ. 2501 ต่อมาจึงมีการสร้างถนนสายลงทะเลขึ้นอีกสายหนึ่ง และเชื่อมต่อยาวไปจนถึงเขา สามมุข อาคารบ้านเรือนทั้งสองฝั่งถนนในตลาดเก่ามีจำนวนประมาณ 180 หลัง ด้วยลักษณะทางธรณีวิทยาในเขตอ่างศิลาประกอบด้วยหินแกรนิตซึ่งมีสีขาวนวลและ สีเหลืองอ่อน มีความแกร่งมาก ทำให้เกิดเป็นอาชีพการทำ “ครกหิน” ปัจจุบันเป็นสินค้าที่ระลึกที่ขึ้นชื่อที่สุดของอ่างศิลา เดิมอ่างศิลาคนพื้นที่ดั้งเดิมเรียกกันว่า อ่างหิน สมัยรัชกาลที่ 3 ชาวตะวันตกและคนบางกอก มาพักตากอากาศกันมาก ชื่ออ่างหินก็เริ่มเปลี่ยนแปลงให้ดูเป็นสากลมากขึ้น โดยมีหลักฐานบันทึกถึงชื่อ อ่างศิลา ดังนี้ เมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จประพาสจังหวัดชลบุรี ได้ประทับแรมที่อ่างศิลา โดยมีลายพระราชหัตถเลขา ลงวันที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2419 พรรณนา […]
Read Moreเกาะสีชัง ตั้งอยู่โดดเด่นบริเวณปากอ่าวอันเป็นบริเวณที่เชื่อมต่อระหว่างทะเลอ่าวไทยและทะเลหลวงภายนอก จึงเปรียบเสมือนประตูผ่านเข้าอ่าวไทยจากทะเลใหญ่ และการเป็นสัญลักษณ์ของการมาถึง หรือออกจากประเทศไทย ในอดีตมีพระเจ้าแผ่นดินถึง 3 พระองค์ คือ รัชกาลที่ 4, รัชกาลที่ 5 และ รัชกาลที่ 6 เสด็จประพาสมาพักผ่อน และรัชกาลที่ 5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระราชฐานบนเกาะขึ้นเป็นแห่งแรก เพื่อเป็นสถานที่ประทับในฤดูร้อน และพระราชทานนามว่า “พระจุฑาธุชราชฐาน” ตามพระนามพระราชโอรสที่ประสูติ บนเกาะสีชังแห่งนี้ เกาะสีชังเป็นสถานตากอากาศที่มีชื่อเสียงมานานนับร้อยปีจนถึงปัจจุบัน มีธรรมชาติความงดงามแตกต่างไปจากสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ มีบรรยากาศที่สงบเงียบ อากาศบริสุทธิ์ มีสถานที่ ท่องเที่ยวอันงดงาม เป็นเกาะที่น่าท่องเที่ยวในบรรยากาศแบบท้องถิ่นซึ่งสามารถแวะ ท่องเที่ยวในวันเดียวหรือพักค้างคืนก็ได้ สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจบนเกาะสีชัง 1.พระจุฑาธุชราชฐาน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของเกาะสีชัง ห่างจากท่าเทววงศ์ลงมาทางใต้ของเกาะ สร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 เพื่อเป็นที่ประทับในฤดูร้อน มีสิ่งก่อสร้างตั้งอยู่ตามชั้นเนินเขาที่สูงต่ำลดหลั่นกันอย่างงดงามประกอบด้วยพระที่นั่ง 4 องค์ พระตำหนัก 14 หลัง ศาลา 1 หลัง มีสวนดอกไม้ สระ ธารน้ำ น้ำพุ ถ้ำและหน้าผา ภายในบริเวณมีสภาพ ภูมิทัศน์ที่งดงามตกแต่งตามลักษณะอุทยานในพระราชวังของ […]
Read MoreWonder farm ตั้งอยู่ที่ตำบลห้วยใหญ่ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี อยู่ใกล้กลับวิหารเซียน วันเดอร์ฟาร์มในส่วนที่เปิดบริการนักท่องเที่ยวมีพื้นที่ประมาณ 10 ไร่ แบ่งเป็นพื้นที่ฟาร์มเลี้ยงสัตว์ ร้านกาแฟ สนามเด็กเล่น และจุดนั่งพักต่างๆ ส่วนของฟาร์มประกอบด้วย คอกเลี้ยงม้าและแพะ พื้นที่สำหรับเลี้ยงกระต่าย และสระน้ำสำหรับเลี้ยงหงส์และปลา ที่นี่ไม่ได้เป็นฟาร์มสำหรับเลี้ยงสัตว์เพื่อการค้าโดยเฉพาะ แต่เป็นฟาร์มเชิงท่องเที่ยวที่เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับสัตว์ที่เลี้ยงในฟาร์มได้อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งสนุกเพลิดเพลินกับการให้อาหารสัตว์ ในวันเดอร์ฟาร์มยังมีร้านกาแฟ ชื่อ กะลา Muffin & Coffee ตัวร้านสีส้มสะดุดตามี 2 ชั้น ตกแต่งสวยงาม เก๋ไก๋ ด้านในเป็นห้องแอร์ ด้านนอกมีโต๊ะเก้าอี้ให้นั่งโดยรอบ ด้านบนที่นั่งชมวิว เมนูเครื่องดื่มในร้านได้แก่ เอสเพรสโซ่ อเมริกาโน่ ลาเต้ คาปูชิโน่ มอคค่า ชาเขียว ชาไทย ชานมเย็น ชาดำเย็น ชามะนาว โกโก้ นมสด และน้ำผลไม้ปั่น นอกจากนี้ยังมีเค้กหลายรสชาติให้เลือกรับประทานอีกด้วย ถึงแม้มีพื้นที่จะไม่กว้างขวางใหญ่โต แต่ที่ วันเดอร์ฟาร์ม มีอะไรน่าสนใจให้คุณและครอบครัวได้ทำกิจกรรมร่วมกัน และ ไฮไลท์ของที่นี่ คือสวนสัตว์ย่อมๆ ที่มีทั้งปลา […]
Read Moreหาดนางรำ ตั้งอยู่ภายในท่าเรือจุกเสม็ด การท่าเรือสัตหีบ ฐานทัพเรือสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวที่มีทะเลน้ำใสสีฟ้าคราม สวยงาม อยู่ในเขตทหาร ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ภายใน หาดนางรำ มีสิ่งอำนวยความสะดวกเช่น สโมสรร้านอาหาร เครื่องดื่ม อาคารพักรับรอง ทั้งห้องปรับอากาศและธรรมดา ที่หาดมีเก้าอี้ผ้าใบ เสื่อ ให้เช่า สามารถเช่าเรือพายเล่นในทะเล หรือจะเล่นบานาน่าโบ๊ทก็มีให้บริการ หาดนางรำ มีความยาวชายฝั่งประมาณ 200 เมตร สุดปลายหาดคือแหลมนางรำมีรูปปั้นพระอภัยมณีและผีเสื้อสมุทรเลยจากแหลมนางรำไปก็จะเป็นหาดนางรองสามารถเดินไปได้ครับ หาดนางรองจะเงียบๆและมีความเป็นส่วนตัวมากกว่า เดิมชายหาดแห่งนี้ ไม่มีชื่อเรียกขานแต่อย่างใด แต่เหตุที่มีชื่อเรียกว่า “หาดนางรำ” นั้น ตามตำนานเรื่องเล่าที่ชาวบ้านได้บอกต่อๆ กันมานั้นกล่าวว่า หาดนางรำแท้จริงแล้วเป็นชื่อ ที่เรียกกันตามชื่อเกาะแห่งนี้เดิมที่ไม่มีชื่อเรียก เป็นเกาะที่ไม่มีผู้คนอาศัย อยู่และ ไม่มีใครนิยมเดินทางไปเที่ยวชมมากนัก จะมีบ้างก็เพียงแค่ไปนั่งชมวิวทิวทัศน์รอบ ๆ เกาะ หรือไม่ก็ไปนั่งตกปลาเท่านั้น อยู่มา วันหนึ่งก็มีเสียงดนตรีมโหรีดังกึกก้องมาจากเกาะแห่งนี้ คล้ายเสียงดนตรีที่ใช้ประกอบในการร่ายรำ จากนั้นวันดีคืนดีก็มีเสียงดนตรี เช่นนี้ดังมาจากเกาะนี้อีก ชาวบ้านจึงเรียกเกาะแห่งนี้ว่า “เกาะนางรำ”และเรียก ชายหาดฝั่งตรงข้ามว่า “หาดนางรำ” เรื่อยมา จนตราบเท่าทุกวันนี้ กิจกรรมทางน้ำ […]
Read Moreศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล กองทัพเรือ ไปดูพ่อเต่าแม่เต่าตัวโต๊โต ดูลูกเต่าตัวเล็กๆน่ารัก และศึกษาธรรมชาติของเจ้าเต่าน้อยกันค่ะ ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล กองทัพเรือ ตั้งอยู่ริมหาดจุกเสม็ด ในเขตหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยาน และรักษาชายฝั่ง ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เป็นสถานที่ที่ให้ความรู้ทางด้านชีววิทยา เกี่ยวกับวงจรชีวิตของเต่าทะเล เปิดให้นักเรียน นักศึกษาและประชาชนทั่วไปเข้าเยี่ยมชม โดยทางศูนย์ฯ ได้จัดวิทยากรให้คำบรรยาย ชมวีดีทัศน์และนำชมนิทรรศการ และชม ความน่ารักของเต่าทะเลที่บ่ออนุบาล ผู้เยี่ยมชมจะได้สัมผัสกับวงจรชีวิตของเต่าทะเล ซึ่งทางศูนย์ฯ มุ่งเน้นให้เกิดความรู้สึกรัก และหวงแหนทรัพยากรเต่าทะเลของไทยที่กำลังจะสูญพันธุ์ ภายในศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเลได้ถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วนใหญ่ ๆ ด้วยกัน คือ ส่วนที่ 1 เป็นอาคารบรรยายให้ความรู้แก่ผู้มาเที่ยวชมศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเลเกี่ยวกับ วงจรชีวิตของเต่าทะเล โดยจัดให้มีการฉาย วีดิทัศน์ขนาดความยาว 7 นาที และ 12 นาที อีกทั้งจัดให้มีห้องแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับเต่าทะเล ในส่วนของรายชะเอียดด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลของแหล่งวางไข่เต่าทะเลในประเทศไทย ลักษณะเฉพาะ ของเต่าทะเลแต่ละชนิด การดูแลรักษา หรือข่าวคราว ต่าง ๆ เกี่ยวกับสถานการณ์เต่าทะเลในประเทศไทย ส่วนที่ 2 […]
Read Moreวิหารหลวงพ่อดำ ตั้งอยู่ที่ วัดช่องแสมสาร หมู่ 2 หมู่ ตำบลแสมสาร อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี หลวงพ่อดำ หรือ พระสัมพุทธมหามุนีศรีคุณาศุภนิมิต เป็นพระพุทธปฏิมากรศักดิ์สิทธิ์องค์ของชาวประมงภาคตะวันออก ซึ่งชาวประมงต่างเลื่อมใสศรัทธา โดยทุกครั้งก่อนที่ออกทะเลมักจะไปนมัสการและขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคล พระสัมพุทธมหามุนีศรีคุณาศุภนิมิต หรือ หลวงพ่อดำประดิษฐานในพระวิหารวัดช่องแสมสารเป็นพระพุทธรูปปางสมาธิสูง 5 เมตร มีรูปใบหน้าอิ่มเอิบดวงตาทอดต่ำลงแผ่เมตตาให้กับผู้คนที่เดินทางมากราบไหว้ ตำนานหลวงพ่อดำ หรือ พระสัมพุทธมหามุนีศรีคุณาศุภนิมิต ระบุว่า เมื่อปีพุทธศักราช 2501 หลวงพ่อดำรง คุณาสโภ ได้เดินทางจาก จังหวัดสุพรรณบุรี มาปักกลด ณ บริเวณพระเจดีย์เก่าบนเขาของวัดช่องแสมสาร หลวงพ่อดำรง คุณาสโภ ได้เล่าให้ญาติโยมที่ไปกราบนมัสการให้ฟังว่า ท่านจำพรรษาอยู่วัดเขาขึ้น อำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี สาเหตุที่เดินทางมายังสถานที่แห่งนี้ เพราะได้ฝันว่าเทพยดาองค์หนึ่งบอกให้ไปสร้างพระพุทธรูปไว้ใกล้ๆพระเจดีย์เก่าองค์หนึ่ง บนเขาชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก “ในภายภาคหน้า พระประธานองค์นี้จะกลายเป็นพระที่ศักดิ์สิทธิ์ และมีประชาชนให้ความเคารพนับถือเดินทางมากราบไหว้กันเป็นจำนวนมาก เนื่องจากบริเวณแห่งนี้มีความเหมาะสมที่จะบูรณะให้กลายเป็น แหล่งรักษาศีลและความสงบให้กับชาวพุทธศาสนิกชนเป็นอย่างมาก…” หลวงพ่อดำรง จึงได้ออกเดินทางจากวัดเขาขึ้นกว่าจะถึงวัดช่องแสมสารเป็นเวลาหลายวัน เมื่อครั้นจนถึงบ้านช่องแสมสาร ท่านทราบว่าเป็นสถานที่มีภูมิทัศน์ตรงกับสภาพที่ท่านนิมิตฝัน ท่านจึงชักชวนญาติโยมช่วยกันบริจาควัสดุในการสร้างพระพุทธปฏิมากร ซึ่งได้รับศรัทธาร่วมมือด้วยดี ในสมัยนั้นยังไม่มีทางรถยนต์ จึงจำเป็นต้องใช้แรงงานคนแบกขนวัสดุขึ้นไป […]
Read Moreเรือรบหลวงจักรีนฤเบศร จอดเทียบท่าเรือจุกเสม็ด ฐานทัพเรือสัตหีบ เป็นเรือบรรทุกเครื่องบินขึ้นลงทางดิ่งและ เฮลิคอปเตอร์ ของราชนาวีไทย เป็นเรือรบที่มีขนาดใหญ่ที่สุดที่มีมาในกองทัพเรือไทย. เรือลำนี้ได้ต่อขึ้น ณ อู่ต่อเรือบาซาน เมืองโรตา ในประเทศสเปน และได้เดินทางถึงประเทศไทยเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2540 ในยามปรกติ เรือจักรีนฤเบศร์จะเป็นฐานปฏิบัติ การคุ้มครอง ประโยชน์ของชาติทางทะเล ช่วยเหลือผู้ประสบภัย และรักษาสิ่งแวดล้อมในทะเล. ในยามสงคราม เรือจักรีนฤเบศร์ จะเป็นเรือธง คือ เรือที่ทำหน้าที่ควบคุมและบังคับบัญชากองเรือในทะเล เพื่อควบคุมการปฏิบัติงานป้องกันภัยทางอากาศ, การต่อสู้ทางน้ำ และปราบเรือดำน้ำของผู้ที่เข้ามารุกรานประเทศ เรือรบหลวงจักรีนฤเบศร ได้รับพระราชทานชื่อจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวว่า “จักรีนฤเบศร์” หมายถึง ผู้ยิ่งใหญ่แห่ง ราชวงศ์จักรี แนวความคิดในการว่าจ้างสร้างเรือหลวงจักรีนฤเบศรได้เริ่มต้นขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2532 หลังจาก “พายุใต้ฝุ่นเกย์” ได้เข้าพัดถล่มอ่าวไทยบริเวณจังหวัดชุมพร กองทัพเรือซึ่งเป็นหน่วยงานหลักที่มีหน้าที่ค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยยังไม่มีเรือขนาดใหญ่พอจะทนทานต่อสภาพคลื่นลมของท้องทะเลในขณะที่เกิดพายุไต้ฝุ่นได้ ทำให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่บนแท่นขุดเจาะก๊าซธรรมชาติและชาวประมงเป็นไปด้วยความยากลำบากและไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควร ประกอบกับเขตเศรษฐกิจจำเพาะของประเทศไทยที่ได้ขยายออกไปถึง 200 ไมล์ทะเล กองทัพเรือจึงเล็งเห็นว่าควรจัดซื้อจัดสร้างเรือขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อใช้ในภารกิจการกู้ภัยและภารกิจการปกป้องรักษาอธิปไตยของประเทศชาติ จนท้ายที่สุดคณะรัฐมนตรีในยุคสมัยนั้นก็ได้มีมติอนุมัติให้มีการว่าจ้างสร้างเรือบรรทุกอากาศยานในลักษณะรัฐบาลต่อรัฐบาลเป็นจำนวน 1 ลำ ในวงเงิน 7,100 ล้านบาท เมื่อวันที่ 17 […]
Read More