Tag: สุพรรณบุรี

สามชุกตลาดร้อยปี

สามชุกตลาดร้อยปี ตั้งอยู่ที่อำเภอสามชุก จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นตลาดห้องแถวไม้ 2 ชั้นขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำสุพรรณบุรี(ท่าจีน) และรายล้อมด้วยบรรยากาศของบ้านเรือนรวมถึงเรื่องราวของผู้คนในอดีต โดยแทบไม่มีการดัดแปลงเสริมแต่ง ย้อนอดีตกลับไปยุคสมัยที่ตลาดสามชุกเฟื่องฟู ยุคนั้นชาวบ้านจะนำของพื้นเมือง รวมทั้ง เกลือ ฝ้าย แร่ สมุนไพร มาแลกเปลี่ยนซื้อขายให้กับพ่อค้าที่เป็นชาวเรือ ต่อมาเมื่อริมแม่น้ำสุพรรณ กลายเป็นแหล่งทำนาที่สำคัญ มีโรงสีไฟขนาดใหญ่เกิดขึ้นหลายแห่ง ตลาดสามชุกก็กลายเป็นตลาดข้าวที่สำคัญ มีการค้าขายกันอย่างคึกคัก ทำให้ตลาดสามชุกไม่จำกัดบริเวณอยู่เฉพาะริมน้ำ แต่ยังขยายมาถึงริมฝั่ง โดยแต่ละปีมีการเก็บภาษีได้จำนวนมาก พร้อมๆกับมีการตั้งนายอากรคนแรก ชื่อ “ขุนจำนง จีนารักษ์” ช่วงเวลาเฟื่องฟูของตลาดสามชุกกินเวลานานหลายสิบปี แต่หลังจากที่มีการตัดถนนผ่านสามชุก ผู้คนเปลี่ยนไปใช้ถนนเป็นเส้นทางสัญจรมากขึ้น ส่งผลให้ วิถีชีวิต ความเป็นอยู่ และการค้าที่ตลาดสามชุกเริ่มซบเซา แต่ตลาดสามชุกก็ยังคงดำเนินวิถีของตลาดห้องแถวไปอย่างต่อเนื่อง ด้วยความที่ วิถีชีวิตและลักษณะทางกายภาพของชุมชนตลาดสามชุกมีกาลเปลี่ยนแปลงน้อยมาก แม้ว่าจะผ่านกาลเวลามานับร้อยปี เหตุนี้ประชาคมชาวตลาดสามชุกจึงได้มีการปรับปรุง ฟื้นฟู และร่วมกันอนุรักษ์สถาปัตยกรรมไม้ของตลาดสามชุกไว้เป็นมรดกทางวัฒนธรรม รวมทั้งพัฒนาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และแหล่งเรียนรู้ของชุมชน เพื่อให้ตลาดสามชุกกลับมีชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้ง สิ่งที่น่าสนใจ อาคารพิพิธภัณฑ์ เป็นอาคารไม้โบราณติดลูกไม้ขนาด 3 ชั้นของขุนจำนงค์ จีนารักษ์ นายภาษีเก่า ซึ่งท่านเจ้าของตลาดมอบให้เป็นแหล่งรวบรวมภาพถ่ายวิถีชีวิตของผู้คนในสมัยก่อน ร้านถ่ายรูปโบราณที่ยังมีกล้องถ่ายภาพเก่าแก่อายุกว่าร้อยปีให้บริการ ร้านขายยาสมุนไพร และเพลิดเพลินกับขนม […]

Read More

สวนเฉลิมภัทรราชินี

สวนเฉลิมภัทรราชินี ตั้งอยู่ใจกลางเมืองสุพรรณบุรี บนถนนนางพิม ตำบลท่าพี่เลี้ยง ภายในสวนมี หอคอยบรรหาร-แจ่มใส เป็นหอคอยชมวิวแห่งแรก และสูงที่สุดในประเทศไทยมองเห็นโดดเด่นอยู่กลางเมือง มีความสูงถึง 123.25 เมตร ฐานกว้าง 30 เมตร การขึ้นเที่ยวชมหอคอย จะมีจุดแวะพักชมวิว 4 ชั้น โดยชั้นที่ 1 เป็นที่จำหน่ายบัตรและของที่ระลึก ส่วนชั้นที่ 2 เป็นร้านจำหน่ายเครื่องดื่มอาหารว่างและจุดนั่งชมสวน ชั้นที่ 3 เป็นร้านจำหน่ายของที่ระลึกและจุดชมตัวเมือง และชั้นที่ 4 อยู่ในระดับสูงสุด 78.75 เมตร เป็นจุดชมทิวทัศน์ของจังหวัดสุพรรณบุรีโดยรอบ มีกล้องส่องทางไกลบริการ ผนังห้องแสดงภาพวาดสีน้ำมันเกี่ยวกับสมเด็จพระนเรศวรมหาราช หอคอยบรรหาร-แจ่มใส นอกจากนั้นยังมีสวนน้ำสไลเดอร์ น้ำพุดนตรี และบริเวณให้พักผ่อนหย่อนใจค่ะ [adsense-2] ช่วงเวลาที่เปิดให้เข้าชม  เปิดให้เข้าชมวันอังคาร-ศุกร์ เวลา 10.00-19.00 น. ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 10.00-20.30 น. อัตราค่าเข้าชม สวนเฉลิมภัทรราชินี ผู้ใหญ่ 10 บาท เด็ก 5 […]

Read More

วัดไผ่โรงวัว

วัดไผ่โรงวัว ตั้งอยู่ที่ ตำบลบางตาเถร อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี วัดนี้สร้างเมื่อ พ.ศ. 2469 เป็นวัดที่มีพุทธ-ศาสนิกชน และบุคคลทั่วไป นิยมไปเที่ยวชมกันมาก หลวงพ่อขอม ได้ดำเนินการก่อสร้าง “พระพุทธโคดม” เป็นพระพุทธรูปโลหะสำริดองค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เริ่มก่อสร้างตั้งแต่ปี พ.ศ. 2502 ใช้เวลาก่อสร้างนานถึง 17 ปี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จพระราชดำเนินมาทรงยกพระเกตุมาลา เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2512 สิ่งที่น่าสนใจภายในวัด สังเวชนียสถาน 4 ตำบล ประกอบด้วยสิ่งก่อสร้างซึ่งจำลองจากสถานที่สำคัญทางพุทธศาสนาสี่แห่งใน ประเทศอินเดียและเนปาล ได้แก่ สวนลุมพินีสถานที่ประสูติซึ่งปัจจุบันอยู่ในเนปาล เจดีย์พุทธคยาสถานที่ตรัสรู้ สถูปเมืองสารนาถซึ่งเป็นที่ตั้งของป่าอิสิปตนมฤคทายวันสถานที่แสดงปฐมเทศนา โปรดปัญจวัคคีย์ และกุสินาราสถานที่ปรินิพพานของพระพุทธองค์ และมีงานประติมากรรมหรือภาพปั้นเรื่องราวเกี่ยวกับพุทธประวัตินรกภูมิ รวมทั้งวรรณคดีและประวัติศาสตร์ พระพุทธโคดม เป็นพระพุทธรูปโลหะสำริดองค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เริ่มก่อสร้างตั้งแต่ปี พ.ศ. 2502 ใช้เวลาก่อสร้างนานถึง 17 ปี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จพระราชดำเนินมาทรงยกพระเกตุมาลา เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2512 พระกกุสันโธ […]

Read More

วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร

วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร  ตั้งอยู่ที่ริมถนนมาลัยแมน ตำบลรั้วใหญ่ อำเภอเมือง อยู่ทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำสุพรรณบุรี ห่างจากศาลากลางจังหวัดประมาณ 4 กิโลเมตร เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดวรวิหาร เป็นวัดเก่าแก่ คาดว่าจะมีอายุราว 1200 ปี โดยน่าจะสร้างขึ้นสมัยที่เมืองสุพรรณบุรีรุ่งเรือง ในพงศาวดารเหนือกล่าวว่า พระเจ้ากาแตทรงให้มอญน้อยมาบูรณะวัดป่าเลไลยก์ในปีพศ.1724 ภายในวิหาร เป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อโต ปางป่าเลไลยก์ สิ่งที่น่าสนใจภายในวัด หลวงพ่อโต เป็นพระพุทธรูปปางป่าเลไลยก์ ศิลปะสมัยอู่ทอง สุพรรณภูมิ (คือประทับนั่งห้อยพระบาท) มีนักปราชญ์หลายท่านว่า เดิมคงเป็นพระพุทธรูปปางปฐมเทศนา สร้างไว้กลางแจ้งอย่างพระพนัญเชิงสมัยแรกต่อมาได้มีการบูรณะ ซ่อมแซมใหม่ และทำเป็นปางป่าเลไลยก์ ดังที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ภายในองค์พระพุทธรูปบรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ 36 องค์ ที่ได้มาจากพระมหาเถรไลยลาย หน้าบันของวิหาร มีเครื่องหมายพระมหามกุฎอยู่ระหว่างฉัตรคู่ บอกให้ทราบว่าพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จธุดงค์มาพบสมัยยังทรงผนวชอยู่ เมื่อเสด็จขึ้นครองราชย์แล้วจึงทรงมาปฏิสังขรณ์ เรือนขุนช้าง เป็นเรือนไทยแบบโบราณ ตั้งอยู่ภายในบริเวณวัดป่าเลไลยก์ สร้างเป็นเรือนไทยไม้สักหลังใหญ่กว้างขวาง ตามเรือนของขุนช้างในวรรณคดีเรื่องขุนช้างขุนแผน ขึ้นไปบนเรือนจะเห็นภาพวาดตัวละครขุนช้าง นักท่องเที่ยวสามารถถ่ายรูปเป็นที่ระลึก แต่ละห้องจะมีภาพบรรยายเล่าเรื่องขุนช้างขุนแผน มีการจัดแสดงเครื่องใช้ต่างๆในสมัยก่อน มีการตกแต่บริเวณโดยรอบสวยงามน่าเที่ยวชม ในเสภาขุนช้างขุนแผน เมื่อนางทองประศรี พาพลายแก้วไปอยู่เมืองกาญจน์เก็บหอมรอมริบ จนกระทั่งมีฐานะเป็นเศรษฐี และเมื่อพลายแก้วเติบโตก็ได้บรรพชาเป็นสามเณรและได้มาเรียนคาถาอาคม […]

Read More

วัดทับกระดาน

วัดทับกระดาน เป็นที่เก็บรักษาสิ่งของต่างๆของพุ่มพวง ดวงจันทร์ นักร้องเพลงลูกทุ่งชื่อดังตำแหน่ง “ราชินีลูกทุ่ง” ทื่เสียชีวิตไปแล้ว เพื่อให้ผู้ที่ยังรักและคิดถึงพุ่มพวงได้แวะเวียนมาระลึกถึง วัดตั้งอยู่ในอำเภอสองพี่น้อง ซึ่งเป็นอำเภอบ้านเกิดของเธอ พุ่มพวงคุ้นเคยกับวัดนี้ตั้งแต่เด็ก ที่วัดมีการเก็บรวบรวมเสื้อผ้าข้าวของเครื่องใช้ในการร้องเพลง รวมทั้งรูปถ่ายจากข่าวหนังสือพิมพ์ไว้ในโบสถ์ของวัด นอกจากนี้บริเวณศาลาท่าน้ำจะมีรูปวาดของพุ่มพวง ดวงจันทร์ ที่มีคนนำมาให้เพื่อแก้บน ด้านหน้าวัดมีร้านขายของสด-แห้งต่างๆ เช่น น้ำพริก หน่อไม้ ผลไม้ ที่ศาลาริมสระน้ำของวัดมีการสร้างหุ่นพุ่มพวงเอาไว้ โดยทางวัดจะมีการจัดงานรำลึกถึงพุ่มพวง ช่วงประมาณวันที่ 13 มิถุนายน ของทุกปี ซึ่งเป็นวันครบรอบการเสียชีวิตของเธอ ประวัติของพุ่มพวง ดวงจันทร์ พุ่มพวง ดวงจันทร์ มีชื่อจริงว่า “รำพึง จิตรหาญ” ชื่อเล่นชื่อ ผึ้ง เกิดเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม พ.ศ.2504 ณ ตำบลบ่อสุพรรณ อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี ครอบครัวมีอาชีพรับจ้างทำไร่อ้อย เจ้าตัวชื่นชอบการร้องเพลงลูกทุ่งตั้งแต่เด็ก เดินสายประกวดร้องเพลงลูกทุ่งโดยใช้ชื่อว่าน้ำผึ้ง ณ ไร่อ้อย ต่อมาได้รับการฝากฝังให้เป็นบุตรบุญธรรมของ ไวพจน์ เพชรสุพรรณ ก่อนที่ไวพจน์ จะแต่งเพลงและอัดแผ่นเสียงชุดแรกให้ ชื่อเพลง แก้วรอพี่ […]

Read More

วัดเดิมบาง

วัดเดิมบาง ตั้งอยู่เลขที่ 233 หมู่ที่ 1 ตำบลเดิมบางนางบวช อำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี วัดแห่งนี้สร้างขึ้นในปีพศ. 2425 คาดว่าน่าจะสร้างในสมัยเดียวกับวัดใต้ วัดบนยอดเขาใหญ่ ต่อมาในปีพศ. 2451 ระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้เสด็จมาประทับที่หน้าวัดเดิมบาง และพระราชทานนามวัดว่า “วัดคงคาราม” สิ่งที่น่าสนใจภายในวัด ธรรมาสน์ ที่สร้างโดยช่างชาวจีน เป็นศิลปะไทยผสมจีน แกะสลักจากไม้ขนุน สร้างเมื่อ พ.ศ. 2458 แต่มาแล้วเสร็จ พ.ศ. 2466 ปัจจุบันเก็บไว้บนศาลาการเปรียญ หอสวดมนต์ ภายในมีการเก็บของมีค่าของวัดไว้ 3 ชิ้น ได้แก่ ฝาบาตรมุก ตาลปัตร และปิ่นโต ซึ่งรัชกาลที่ 5 พระราชทานแก่วัด ทางวัดเก็บรักษาไว้อยู่ในสภาพดี มณฑปหลวงพ่อแจ่ม – หลวงพ่อแบน ภายในยอดมณฑป ได้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และมีรอนพระพุทธบาทจำลองที่มีอายุนานกว่า 100 ปี หอระฆัง หอนี้ได้รับก่อสร้างอย่างประณีตสวยงาม พระอุโบสถ ที่ได้รับการบูรณะใหม่ ภายในมีพระประธานปางป่าเลไลยก์ที่งดงามเป็นอย่างมาก ผนังร้อบพระอุโบสถก็มีภาพจิตรกรรมฝาผนังสภาพสมบูรณ์ […]

Read More

วัดแค

วัดแค เป็นวัดเก่าแก่ที่มีชื่อปรากฏในวรรณคดี เรื่อง “ขุนช้างขุนแผน” อยู่ในอำเภอเมืองสุพรรณบุรี ไปทางเหนือ ห่างจากวัดพระศรีรัตนมหาธาตุประมาณ 2 กิโลเมตร ภายในวัดนี้มีต้นมะขามใหญ่วัดโคนต้นโดยรอบได้ประมาณ 10 เมตร เชื่อกันว่าขุนแผนได้เรียนวิชาเสกใบมะขามจากต้นมะขามต้นนี้ ให้เป็นตัวต่อตัวแตนจากท่านอาจารย์คงไว้โจมตีข้าศึก นอกจากนี้ทางจังหวัดได้สร้างเรือนไทยทรงโบราณเรียกว่า “คุ้มขุนแผน” ไว้ใกล้กับต้นมะขามยักษ์นี้อีกด้วย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เคยเสด็จประพาสวัดแคเมื่อ พ.ศ. 2447 วัดนี้มีโบราณวัตถุที่น่าสนใจ ได้แก่ พระพุทธบาทสี่รอย ทำด้วยทองเหลืองกว้าง 1.40 เมตร ยาว 2.80 เมตร สร้างซ้อนกันไว้ในรอยใหญ่ นอกจากนี้ยังมี พระพุทธรูปปางมารวิชัย ขัดสมาธิราบศิลปรัตนโกสินทร์ จีวรและอังสะเป็นลายดอกพิกุลงดงามมาก ประดิษฐานอยู่ในวิหารหน้าพระประธาน สิ่งที่น่าสนใจอื่น ๆ เช่น ระฆังทองเหลือง หม้อต้มกรักทองเหลือง ตู้ใส่หนังสือที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงถวายเมื่อปี พ.ศ. 2412 สิ่งที่น่าสนใจภายในวัด มณฑปบูรพาจริยานุสรณ์ เป็นอาคารทรงไทยโดดเด่นเป็นสง่าอยู่ส่วนหน้าของวัดแค ลานจอดรถของวัดแคอยู่หน้ามณฑปบูรพาจริยานุสรณ์แห่งนี้ เป็นลานกว้างขวางมาก ลักษณะที่เราเห็นในวัดเราก็รู้ได้ว่าเป็นวัดที่มีประชาชนเดินทางมาไหว้พระ สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และทำบุญกันมากวัดหนึ่ง ศาลาพระพุทธบาทสี่รอยวัดแค ศาลาหลังนี้สร้างอยู่ด้านข้างของมณฑปบูรพาจริยานุสรณ์ เป็นแบบทรงไทยที่กลมกลืนกัน พระพุทธบาทสี่รอยวัดแค เป็นรอยพระพุทธบาทยุคต้นรัตนโกสินทร์ […]

Read More

วัดเขานางบวช

วัดเขานางบวช ตั้งอยู่บนเขานางบวช มีทิวทัศน์ที่สวยงาม และเป็นวัดสำคัญที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน และเรื่องราวราวเล่าขานที่น่าสนใจ มีทั้งทางราดยางและบันได 249 ขั้น ขึ้นไปจนถึงยอดเขา เป็นวัดของพระอาจารย์ ธรรมโชติ ผู้ทรงคุณวุฒเครื่องรางของขลังสมัยศึกบางระจัน ชาวบ้านบางระจันได้นิมนต์ไปเป็นกำลังใจการสู้รบ กับพม่า มีรอยพระพุทธบาทอยู่ในวิหาร พระอาจารย์ธรรมโชติ ด้านหลังเป็นเจดีย์แผ่นหิน รูปปั้นอาจารย์ธรรมโชติ ภายในศาลามีพระพุทธรูปสมัยรัชกาลที่ 5 ประวัติ และที่มาของวัดเขานางบวช ราวปี 1826 มีหญิงชื่อชบา เป็นสนมแห่งพระร่วงเจ้า กรุงสุโขทัย เกิดเบื่อหน่ายในเพศฆราวาส จึงออกบวชสละทางโลกเข้าจำพรรษารักษาศีลอยู่ในถ้ำบนยอดเขาแห่งนี้ คนทั้งหลายจึงเรียกเขาแห่งนี้ว่า “เขานางบวช” (ถ้ำอยู่ด้านหลังศาลา) ปัจจุบันปากถ้ำทรุดไม่สามารถเข้าไปได้ เล่ากันว่าภายในถ้ำมีข้าวของ เครื่องประดับจำนวนมาก สันนิฐานว่าเป็นของพวกที่ติดตามนางสนมชบา แต่ของเหล่านั้นได้สูญหายไปเมื่อปี พ.ศ.2402 และบางช่วงเวลา วัดแห่งนี้ได้เป็นวัดร้างในบางปีด้วยเครื่อประดับชิ้นสุดท้ายที่พบบริเวณปากถ้ำ เมื่อปี พ.ศ. 2539 เป็นกำไรหยกหัวพญานาค แต่ผู้พบมิได้ถวายเป็นสมบัติวัด สิ่งที่น่าสนใจภายในวัด ศาลาพระอาจารย์ธรรมโชติ ภายในเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปเนื้อสำริด ปางห้ามสมุทร สมัยอยุธยาตอนต้น อายุกว่า 700 ปี เป็นพระพุทธรูปที่รับกาลที่ 5 ทรงโปรดรับสั่งให้นำกลับพระราชวัง […]

Read More

วัดเขาดีสลัก

วัดเขาดีสลัก ตั้งอยู่หมู่ที่ 5 ตำบลดอนคา ห่างจากอำเภออู่ทอง 8 กิโลเมตร ภายในวัดมีรอยพระพุทธบาทจำลอง ซึ่งในปี พ.ศ. 2535 ฯพณฯบรรหาร ศิลปอาชา ให้กรมศิลปากรมาพิสูจน์รอยพระพุทธบาท สรุปได้ว่าเป็นสมัยใกล้เคียงกับพระพุทธบาทที่จังหวัดสระบุรี เลยให้มีการสร้างมณฑปบนยอดเขาและสร้างถนนขึ้นเขา พัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเสร็จใช้เวลา 5 ปี สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เสด็จพระราชดำเนินไปเปิดเมื่อปี พ.ศ.2542 สิ่งที่น่าสนใจภายในวัด  รอยพระพุทธบาทวัดเขาดีสลัก เป็นรอยพระพุทธบาทจำลองสร้างด้วยหินทรายแดง มีลักษณะแตกต่างจากรอยพระพุทธบาทที่พบตามที่อื่นๆ คือ เป็นรอยพระพุทธบาทนูนต่ำ ขนาดกว้างประมาณ 65.5 ซม. ยาว 141.5 ซม.บริเวณฝ่าพระบาททำเป็นรูปธรรมจักรขนาดเล็กมีกงล้อธรรมจักรจำนวน 16 ซี่ อยู่กลางฝ่าเท้าและรายล้อมด้วยภาพสลักรูปมงคล 108 ประการ อยู่ในกรอบวงกลม มีลักษณะแตกต่างจากรอยพระพุทธบาทที่พบที่อื่น คือ รอยพระพุทธบาทนูน ขนาดกว้างประมาณ 65.5 เซนติเมตร ยาว 141.5 เซนติเมตร อายุประมาณพุทธศตวรรษที่ 14-16 มีทางรถขึ้นไปชมรอยพระพุทธบาทบนยอดเขา ระยะทาง 2 กิโลเมตร ทางวัดปรับปรุงภูมิทัศน์บนยอดเขา มองเห็นวิวทิวทัศน์สวยงามในเขตอำเภออู่ทองโดยรอบ […]

Read More

น้ำตกตะเพินคี่

น้ำตกตะเพินคี่ ตั้งอยู่ในเขตพิ้นที่ของอุทยานแห่งชาติพุเตย อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี  เป็นน้ำตก 2 ชั้น มีน้ำไหลตลอดปี ผืนป่าและต้นน้ำตะเพินคี่ยังคงสภาพสมบูรณ์ มีชาวกะเหรี่ยงอาศัยอยู่มากว่า 200 ปี เป็นป่าที่ยังคงสภาพความเป็นธรรมชาติอย่างสวยงาม เหมาะสำหรับการ ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย โดยตัวน้ำตกนั้นอยู่เลยไปจากน้ำตกพุกระทิง โดยใช้เส้นทางจากทุ่งมะกอกไปบ้านป่าผากแล้วเลี้ยวซ้ายขึ้นเขาไปบ้านตะเพินคลี่ ซึ่งเป็นหมู่บ้านชาวกระเหรี่ยงเก่าแก่ อยู่ติดเขตแนวกันชนมรดกโลก เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วย ขาแข้ง เป็นหมู่บ้านปลอดอาวุธทุกประเภท น้ำตกตะเพินคี่ อยู่ห่างจากหมู่บ้านเล็กน้อย เป็นน้ำตกที่สวยงามที่สุดมีน้ำตกไหลตลอดปี มองจากน้ำตกจะเห็นยอดเขาเทวดาสูง 1,123 เมตร น้ำตกแห่งนี้เคยมีการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวที่สำคัญของทางจังหวัดสุพรรณบุรี น้ำตกแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ น้ำตกตะเพินคี่น้อย น้ำตกขนาดเล็กใกล้หมู่บ้านกะเหรี่ยงตะเพินคี่ ที่มีความสวยงามเป็นธรรมชาติอันเกิดจากสายน้ำไหล ลัดเลาะ ลงมาตามผาหินน้อยใหญ่ ซับซ้อน สู่ลำธารด้านล่างทั้งมีสภาพแวดล้อมโดยรอบชุ่มชื่นอุดมสมบูรณ์เหมาะแก่การ ท่องเที่ยวเชิงนิเวศและผจญภัย น้ำตกตะเพินคี่ใหญ่ ตั้งอยู่บริเวณขึ้นหมู่บ้านกะเหรี่ยงตะเพินคี่ ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติพุเตย ประมาณ 18 กิโลเมตร เป็นน้ำตกที่มีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ และความหลากหลายทางชีวภาพสูง ซึ่งลำธารสายนี้เกิดจากผืนป่าตะเพินคี่อันอุดมสมบูรณ์ นักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสความเป็นธรรมชาติ ควรเดินทางท่องเที่ยวในช่วง ปลายฝน ถึง ต้นหนาว ตั้งแต่เดือน กันยายน […]

Read More