อุทยานแห่งชาติภูผาเหล็ก ไปกางเต็นท์รับลมหนาว ดูวิวทิวทัศน์บนภูผา ชมดาวที่หอส่องดาวกันค่ะ อุทยานแห่งชาติภูผาเหล็กตั้งอยู่ที่บ้านท่าวัด ต.ปทุมวาปี อ.ส่องดาว จ.สกลนคร เป็นอุทยานแห่งชาติที่ครอบคลุมพื้นที่ในส่วนของอำเภอส่องดาว อำเภอวาริชภูมิ อำเภอนิคมน้ำอูน อำเภอกุดบาก จังหวัดสกลนคร อำเภอสามหมอ จังหวัดอุดรธานี และอำเภอสมเด็จ อำเภอคำม่วง จังหวัดกาฬสินธุ์ มีเนื้อที่ประมาณ 261,875 ไร่ หรือประมาณ 419 ตารางกิโลเมตร ลักษณะภูมิประเทศเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาภูพาน ภูเขาที่สูงที่สุดคือ ภูอ่างสอ สภาพป่าเป็นป่าเต็งรัง ป่าเบญจพรรณ ป่าดิบแล้ง ไผ่หลายชนิด และสมุนไพรชนิดต่าง ๆ สัตว์ป่าที่พบเห็นได้แก่ หมูป่า เก้ง กระจง นกชนิดต่าง ๆแหล่งท่องเที่ยวบนยอดภูผาเหล็กโดยเฉพาะบริเวณหน้าผาต่าง ๆ หอส่องดาว สามารถใช้รถยนต์ขึ้นไปตามถนน รพช. จากที่ทำการอุทยานฯ ถึงหอส่องดาวระยะทาง 5.5 กิโลเมตร และใช้เส้นทางเดินเท้าสู่จุดท่องเที่ยว สถานที่น่าสนใจในเขตอุทยานฯ ผาสุริยันต์ เป็นหน้าผาสูงอยู่บนยอดเขาสูงสุดของภูผาเหล็ก เป็นจุดชมวิวที่สวยงาม และเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้า ผาดงก่อ ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูผาเหล็กประมาณ 1 กิโลเมตร […]
Read MoreMonth: December 2014
ปราสาทพระธาตุนารายณ์เจงเวง หรือ “อรดีมายานารายณ์เจงเวง” ตั้งอยู่ภายในบริเวณวัดพระธาตุนารายณ์เจงเวง บ้านธาตุ ตำบลพังกว้าง อำเภอเมือง สกลนคร พระธาตุองค์นี้เป็นพระธาตุเก่าแก่ สมัยเดียวกันกับพระธาตุเชิงชุม เป็นพระธาตุประกอบด้วยปรางค์องค์เดียว สร้างด้วยศิลาแลง แบบเดียวกับปราสาทหินพิมาย คือเป็นหินทรายบนฐานศิลาแลงขนาดใหญ่ สลักลวดลายลงบนเนื้อหิน มีทับหลังจำหลักภาพพระกฤษณะฆ่าสิงห์ ในรูปแบบศิลปะเขมร สมัยบาปวน องค์เจดีย์เป็นเจดีย์ทรงสี่เหลี่ยม ส่วนที่เป็นหลังคาและยอด ปัจจุบันหักพังหมดแล้ว ยังคงเหลือแต่องค์พระธาตุ ซึ่งมีประตูและซุ้มประตูด้านละประตู ซึ่งภายใต้ซุ้มประตูสลักรวดลายที่สวยงาม ข้างบน สลักรูปพระนารายณ์บรรทมสินธุ์ ภายในพระธาตุมีพระพุทธรูปและของมีค่าต่างๆ ตำนานพระธาตุนารายณ์เจงเวง ตามตำนานอุรังคธาตุกล่าวถึงโบราณสถานแห่งนี้ว่า เมื่อพระมหากัสสปเถระและบริวารเดินทางมาถึงเมืองหนองหานหลวง กลุ่มสตรีชาวเมืองหนองหานได้ทูลขอแบ่งอุรังคธาตุ (กระดูกหน้าอก)ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่พระมหาเถระผู้ใหญ่มิได้ทรงอนุญาตด้วยผิดวัตถุประสงค์ที่พระพุทธองค์ที่ตรัสไว้ให้นำอุรังคธาตุไปประดิษฐานบรรจุเจดีย์ที่ภูกำพร้า กลางลำน้ำโขง(พระธาตุพนม) แต่มิให้เสียศรัทธา พระมหากัสสัปะเถระผู้ใหญ่จึงมอบให้พระอรหันต์รูปหนึ่งไปนำพระอังคารธาตุจากที่ถวายเพลิงพระศพสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาประดิษฐานไว้ในพระเจดีย์แห่งนี้ จึงนับว่าพระธาตุนารายณ์เจงเวงเป็นโบราณสถานที่สำคัญของเมืองสกลนคร ปราสาทนารายเจงเวงนี้มีพระนางเจงเวงเป็นเจ้าศรัทธาสร้างโดยแข่งขันกับฝ่ายชายซึ่งสร้างพระธาตุภูเพ็ก โดยถือเกณฑ์เมื่อดาวประกายพรึกโผล่พ้นขอบฟ้าเป็นเวลาสิ้นสุดการก่อสร้าง เมื่อพอตกกลางคืนฝ่ายหญิงก็เอาโคมไปแขวนไว้บนไม้สูง ให้ฝ่ายชายเข้าใจว่าดาวประกายพรึกขึ้นแล้ว ฝ่ายชายจึงสร้างยังไม่เสร็จสร้าง ต้องยอมแพ้ไป ส่วนฝ่ายหญิงทำเสร็จเพราะทำได้เต็มเวลาและยังมีฝ่ายชายมาช่วยสร้างด้วยเป็นจำนวนมากด้วย ชาวบ้านเชื่อว่าแม่นางเจงเวงเป็นผู้ที่รักษาพระธาตุแห่งนี้จนถึงปัจุบัน [adsense-2] เมื่อครั้งปี พ.ศ. 2449 สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพเมื่อครั้งทรงดำรงตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงมหาดไทย พระองค์ได้เสด็จตรวจราชการมณฑลนครราชสีมา และมณฑลอุดรอีสาน รวม 56 วัน โดยได้นิพนธ์ไว้ในหนังสือเรื่องเที่ยวที่ต่าง […]
Read Moreสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงใหม่ มีมติให้จัดตั้ง “นันทบุรี เฉลิมพระเกียรติฯ” ขึ้นเป็นอำเภอที่ 26 ของจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา สร้างความสนใจให้กับผู้คนทั่วไปแม้แต่ชาวเชียงใหม่เอง การจะก้าวขึ้นเป็นอำเภอนั้นต้องผ่านระเบียบหลักเกณฑ์ของกระทรวงมหาดไทยและขั้นตอนอื่นๆ อีกมาก ที่สำคัญ “นันทบุรี” มีพื้นที่ในการดูแลเพียงแค่ 2 ตำบล จำนวนของประชากรก็ยังไม่ถึงเกณฑ์ที่กำหนดไว้ การเสนอขอขึ้นเป็นอำเภอใหม่ จึงต้องทำเป็น “กรณีพิเศษ” ด้วยเหตุผลสำคัญ 3 ประการ หนึ่ง การเป็นพื้นที่ทรงงานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ สอง อยู่ห่างไกลจากตัวอำเภออมก๋อย 76 กม. และห่างตัวจังหวัด 280 กม. ทำให้ไม่ได้รับความสะดวกในการเดินทางเพื่อเข้าไปติดต่อราชการ หรือเข้าถึงระบบสาธารณูปโภคต่างๆ สาม สถานที่แห่งนี้มีแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญและสวยงามทางธรรมชาติ เปรียบเทียบความสวยงามของ “นันทบุรี” เสมือน “สวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย” ด้วยความงดงามของยอดดอยต่างๆ อย่าง “ดอยม่อนจอง” หรือ ดอยหัวสิงห์ ทุ่งหญ้าเหนือสันเขาที่ทอดยาวสุดตาจรดขอบฟ้า แหล่งพำนักของกวางผา หรือม้าเทวดา สัตว์ป่าสงวนฯที่เกือบสูญพันธุ์ไปจากโลก “ดอยม่อนจอง” […]
Read Moreถ้ำเสรีไทย ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติภูพาน เป็นอุทยานแห่งชาตินี้ตั้งอยู่ในจังหวัดสกลนครและจังหวัดกาฬสินธุ์ ในเขตภูเขาผาบ่อง ซึ่งเป็นเทือกเขาผีปันน้ำ ลักษณะลึกเข้าไปในภูเขา ความกว้างประมาณ 5 เมตร ความสูงประมาณ 4 เมตร และมีรูถ้ำแยกกันไปหลายทาง บางแห่งมีแหล่งลำธารน้ำไหลเย็นมาก หินงอกหินย้อย ระยิบระยับสวยงามมาก โดยตำแหน่งของปากถ้ำอยู่บนหน้าผาสูงประมาณ 15 เมตร สามารถมองเห็นข้าศึกได้และมีภูเขาผาด่าน เป็นป้อมปราการล้อมรอบ สามารถป้องกันการโจมตีของฝ่ายตรงข้ามได้เป็นอย่างดี เพราะมีหน้าผาสูงมากอยู่ในบริเวณนั้น สามารถใช้ติดตั้งสถานีวิทยุสื่อสารสัญญาณติดต่อกับหน่วยบัญชาการต่างๆได้ชัดเจนมาก สำหรับท่านที่จะเข้าชมต้องเดินเข้าไปถึงตัวถ้ำอีกประมาณ 800 เมตร ในป่าเขตอุทยานแห่งชาติ ตามเส้นทางระหว่างทางมีลำธารและป่าไม้ที่ร่มรื่น พอถึงปากถ้ำก็จะมีจุพักก่อนเข้าถึงถ้ำสำหรับท่านที่ยังไม่หายเหนื่อย ภายในถ้ำจะมีหินงอกหินย้อย อากาศเย็นแม้ถ้ำจะมืดมาก แต่อากาศไม่อับชื้นเหมือนถ้ำทั่วไป แสดงให้เห็นว่า ภายในถ้ำต้องมีช่องระบายอากาศหลายช่อง ขบวนการเสรีไทยจึงใช้สถานที่นี้ในการบัญชาการได้อย่างสบาย ถ้ำเสรีไทยเป็นแหล่งสะสมอาวุธยุทธภัณฑ์ไปต่อสู้กับกองทัพญี่ปุ่น ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ของขบวนการเสรีไทย ซึ่งมีนายเตียง ศิริขันธ์ เป็นหัวหน้าขบวนการเสรีไทยสายสกลนคร ถ้ามองจากที่สูงจะเป็นลานหินธรรมดาจะไม่รู้ว่าเป็นถ้ำ ทำให้หลุดพ้นจากการซุ่มโจมตีจากฝ่ายศัตรู และบริเวณเดียวกันมีร่องรอยการขุดแต่งเป็นสนามบินลับด้วย จากนั้นเดินทางต่อไปยังจุดชมวิว จะเห็นธรรมชาติที่สวยงามของเทือกเขาภูพาน กล้วยไม้ตามโขดหิน ดอกหญ้าริมทางเดิน แสดงให้เห็นถึงความสมบูรณ์ของธรรมชาติที่ยังหลงเหลืออยู่อีกมาก ประวัตินายเตียง ศิริขันธ์ หัวหน้าขบวนการเสรีไทย นายเตียง ศิริขันธ์ เป็นชาวสกลนครโดยกำเนิด […]
Read Moreสกลนคร “พระธาตุเชิงชุมคู่บ้าน พระตำหนักภูพานคู่เมือง งามลือเลื่องหนองหาน แลตระการปราสาทผึ้ง สวยสุดซึ้งสาวภูไท ถิ่นมั่นในพุทธธรรม” เทศกาล/ประเพณี งานเซิ้งผีโขน จัดเป็นประจำทุกปีในช่วงวันขึ้น 14 ค่ำ เดือน 4 (ประมาณเดือนมีนาคม) ณ บริเวณ ต.ไฮหย่อง อ.พังโคน ประเพณีแห่ปราสาทผึ้งและแข่งขันเรือยาวชิงถ้วยพระราชทาน จัดเป็นประจำทุกปีในช่วงวันออกพรรษา หรือช่วงเดือนตุลาคม ณ บริเวณสนามมิ่งเมืองและวัดพระธาตุเชิงชุม อ.เมือง แห่ดาวคริสต์มาสจังหวัดสกลนคร จัดเป็นประจำทุกปีในวันที่ 25 ธันวาคม ณ บริเวณสำนักมิสซังโรมันคาทอลิกท่าแร่-หนองแสง(โรงเรียนเซนต์โยเซฟสกลนคร) อ.เมือง การเดินทาง รถทัวร์ จากสถานีขนส่งหมอชิต 2 มีรถเที่ยวเวลา 06:00-21:30 น. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 7 ชั่วโมง ค่าโดยสารประมาณ 390-850 บาท ข้อมูลเพิ่มเติมโทร 1490 เครื่องบิน มีเที่ยวบินมาลงที่สนามบินสกลนคร M109-B3 สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ พระธาตุภูเพ็ก ปราสาทขอมโบราณที่ไม่ใช่เพียงศาสนสถานธรรมดา แต่ยังมีความพิเศษหลายอย่าง เช่น เป็นสถานที่ที่มีอุปกรณ์ดาราศาสตร์ที่เรียกว่าสุริยะปฏิทิน ที่สามารถบ่งชี้ตำแหน่งดวงอาทิตย์ในจักรราศรีสำคัญได้อย่างแม่นยำ และสถานที่ตั้งของปราสาทภูเพ็ก […]
Read Moreศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำศรีสะเกษ ไปท่องโลกใต้น้ำแบบง่ายๆเดินชิลๆชมปลาในอุโมงค์แก้วใต้น้ำกันค่ะ ศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำศรีสะเกษ ตั้งอยู่ภายในสวนเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา (เกาะห้วยน้ำคำ) ถ.เลียงเมือง ต.หนองครก อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ เป็นอาคารแสดงพันธุ์สัตว์น้ำในการดูแลของเทศบาลเมืองศรีสะเกษ ซึ่งมีแนวคิดมุ่งเน้นการพัฒนาให้ความรู้ สร้างความเพลิดเพลิน ส่งเสริมการท่องเที่ยวแก่เยาวชน นักเรียน นักศึกษาและประชาชนทั่วไป นอกเหนือจากการเรียนรู้ในตำรา หรือในห้องเรียน ศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำศรีสะเกษ ใช้งบประมาณในการก่อสร้างประมาณ 100 ล้านบาทเศษ ใช้เวลาในการก่อสร้างกว่า 1 ปี เปิดให้เข้าชมครั้งแรกเมื่อวันที่ 8 มกราคม 2554 ซึ่งตรงกับวันเด็กแห่งชาติ จัดแสดงทั้งพันธุ์สัตว์น้ำจืดและน้ำเค็ม ภายในอาคารได้จัดโซนปลาทะเล ปลาน้ำจืด ปลาสวยงาม โดยมีปลาน้ำจืด 79 ชนิด และปลาทะเล 22 ชนิด จำนวนกว่า 4,000 ตัว ตกแต่งในบรรยากาศไดโนเสาร์โลกล้านปีที่แปลกใหม่ ทั้งยังมีอุโมงค์แก้วใต้น้ำที่มีความยาวถึง 24 เมตร ซึ่งจะทำให้ผู้ชมได้สัมผัสกับฝูงปลาที่แหวกว่ายได้อย่างใกล้ชิด อีกทั้งบริเวณภายในยังมีการจำลองอุทยานไดโนเสาร์โลกล้านปีในแบบแปลกใหม่อีกด้วยค่ะ [adsense-2] ช่วงเวลาที่เปิดให้เข้าชม เปิดให้เข้าชมในวันอังคาร-วันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 10.00-16.00 น. ปิดทำการทุกวันจันทร์ […]
Read Moreวัดเมืองจันทร์ ตั้งอยู่เลขที่ 1 หมู่ที่ 2 บ้านเมืองจันทร์ ตำบลเมืองจันทร์ อำเภอเมืองจันทร์ จังหวัดศรีสะเกษ เป็นวัดที่มีโบราณสถานที่น่าสนใจมากมาย อีกทั้งยังมีพระธาตุศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นที่เคารพสักการะของชาวเมืองศรีสะเกษอีกด้วยค่ะ สิ่งที่น่าสนใจภายในวัด พระธาตุเมืองจันทร์ รูปแบบเป็นเจดีย์เพิ่มมุมไม้ 12 เรือนธาตุมีซุ้มจระนำทั้ง 4 ด้าน ส่วนบนเป็นการจำลองเรือนธาตุซ้อนลดหลั่นกันขึ้นไป 3 ชั้น สภาพส่วนใหญ่ยังคงสมบูรณ์อยู่ส่วนฐานพังทลายไปเล็กน้อย ส่วนเรือนธาตุและส่วนยอดยังคงสมบูรณ์ โดยส่วนยอดมีการจำลองส่วนเรือนธาตุให้มีขนาดเล็กลงเรียงลดหลั่นกันขึ้นไปสามชั้น ปลียอดสอบแหลม บนสุดทำเป็นยอดเรียวกลมตัวเรือนธาตุก่ออิฐทึบ ยังคงพบลวดลายปูนปั้นรูปกลีบบัวที่ประดับอยู่บนหัวเสาติดผนังที่รองรับกรอบหน้าบัน กำหนดอายุราวพุทธศตวรรษที่ 23 ศิลปะล้านช้างผสมขอมแบบท้องถิ่น เปรียบเทียบได้กับปราสาทบ้านปราสาท ตำบลบ้านปราสาท อำเภอห้วยทับทัน จังหวัดศรีสะเกษ สิมโบราณ มีลักษณะเป็นโบสถ์หลังเล็ก มีเสมาอยู่ภายในตัวโบสถ์ เป็นศิลปอีสานพื้นถิ่นกำหนดอายุราวพุทธศตวรรษที่ 25 ก่อด้วยอิฐฉาบปูนขาว มีฐานสูงและบันไดทางขึ้นส่วนบนชำรุดหักพัง ประตูและบันไดทางขึ้นอยู่ทางทิศตะวันตก หลังคาพังทลาย ด้านข้างเจาะช่องเป็นหน้าต่าง ภายในมีใบเสมาหินสลักเป็นลวดลายคล้าย ดอกบัวตูมปักเรียงตามแนวยาวทั้ง 8 ทิศ และได้มีการบูรณะซ่อมแซมโดยทำหลังคามุงสังกะสีครอบไว้ ใช้เป็นสถานที่ประกอบศาสนกิจและทำสังฆกรรม ปราสาทบ้านเมืองจันทร์ เป็นปราสาท หรือ ปรางค์เดี่ยว ฐานเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส ขนาด 3.40 […]
Read Moreพระพุทธบาทภูสิงห์ ตั้งอยู่ที่ ยอดเขาภูสิงห์ภายในวัดพระพุทธบาทภูสิงห์ บ้านศาลา ตำบลโคกตาล อำเภอภูสิงห์ ที่วัดแห่งนี้มีรอยพระพุทธบาทศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้คนมากมายหลั่งไหลมากราบไหว้ เป็นรอยเท้าด้านซ้ายลักษณะเรียบ ปลายเท้าชี้ไปทางทิศตะวันออก ในขณะที่พบปรากฏรอยกงจักรอยู่กลางรอยพระพุทธบาทอย่างชัดเจน ต่อมาภายหลังประชาชนมานมัสการรอยพระพุทธบาทจำนวนมาก ได้ตักเอาน้ำมนต์และสิ่งมงคลอื่นตามความเชื่อทำให้รอยกงจักรที่ปรากฏ อยู่กลางรอยพระพุทธบาทลบเลือนจางหายไป สิ่งที่น่าสนใจภายในวัด รอยพระพุทธบาท เป็นรอยพระบาทข้างขวาขนาด ใหญ่ที่สลักลงในเนื้อหินทรายลึก 5 ซม. ยาว 1.47 ม. กว้าง 57 ซม. ที่กลางพระบาทเป็นรูปตราธรรมจักร อยู่ในช่วงสมัยทวารวดี บรรยากาศโดยรอบเงียบสงบ อยู่ท่ามกลางธรรมชาติป่าไม้เบญจพรรณ เป็นที่ตั้ง ของสำนักสงฆ์ กรมศิลปกรนครราชสีมาได้ทำการศึกษาวิจัยรอยพระพุทธบาทนี้ พบว่ามีอายุประมาณ 1,500 -1,700 ปีมาแล้ว บ่อน้ำทิพย์ บ่อน้ำทิพย์แห่งนี้อยู่บริเวณในป่าห่างจากรอยพระพุทธบาทไปประมาณ ๓๐๐ เมตร แต่เดิมได้เคยเหือดแห้งมาเป็นเวลานาน แล้ว กลับมาผุดขึ้นมาจากดินอีกครั้งเมื่อประมาณ ๑๐ ปีก่อน(ก่อนที่คณะของอาจารย์ยุทธนันท์ ประวงษ์จะมาทำบุญที่วัดนี้เล็กน้อย) ลักษณะของน้ำผุดนี้ ตามที่ผู้พิมพ์ไปพบมาคือมีลักษณะ เป็นน้ำพุที่ผุดขึ้นจากพื้นดินสูงประมาณ ๐.๕ – ๑ นิ้ว มีน้ำนองทั่วในบริเวณนั้น น้ำมีลักษณะใสสะอาด ล่าสุดปี ๒๕๕๑ หลังจากกลับไปที่นั่นอีกครั้ง ปรากฏว่าได้ไปสอบถามเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบันเกี่ยวกับน้ำ ทิพย์ผุดปรากฏว่าเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบันไม่ทราบเรื่องนี้มาก่อนเลย จึงเป็นที่น่าแปลกใจว่า […]
Read Moreวัดป่ามหาเจดีย์แก้ว หรือวัดล้านขวด ตั้งอยู่ในเขตสุขาภิบาล สิ่งปลูกสร้างภายในตกแต่งด้วยขวดแก้วหลากสีหลายแบบนับล้านใบที่ชาวบ้านได้ช่วยกันบริจาค เป็นวัดที่มีลักษณะสวยงามแปลกตา โดยเฉพาะศาลาใหญ่ที่เรียกว่า ศาลาฐานสโม มหาเจดีย์แก้ว และนอกจากนี้ยังมีสิม (โบสถ์) อยู่กลางน้ำภายในเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปหยกขาว ซึ่งมีความวิจิตรงดงามมาก สิ่งที่น่าสนใจภายในวัด สิ่งปลูกสร้างภายในวัดทำด้วยขวดทั้งหมด ผู้มาเยือนจะตื่นตาตื่นใจกับสิ่งปลูกสร้างทุกอย่างภายในบริเวณวัด ทำด้วยขวดนับล้าน ๆใบ เรียงรายสวยงาม ประดับประดาบนซุ้มประตูวัด เจดีย์ ศาลา กุฏี ถังเก็บน้ำฝน ห้องน้ำห้องส้วม ตลอดจนเมรุเผาศพ อุโบสถ เป็นทรงจตุรมุขที่สวยงามโดดเด่นอยู่กลางสระน้ำ และบริเวณโดยรอบเป็นลานโล่งกว้างเห็นได้เด่นชัด มีสะพานทางเดินเชื่อมไปยังอุโบสถ 2 ทาง ด้านหน้าและด้านข้าง การสร้างที่วิจิตรตระการตาจนไม่น่าเชื่อว่าโดยรอบเป็นเพียงขวดไร้ค่าที่ได้มาจากการซื้อของเก่า และการบริจาคเข้ามาให้ทางวัดอย่างต่อเนื่องด้วยแรงศรัทธาจากประชาชนทุกสารทิศ พระพุทธรูปหินหยกขาว พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์แห่งวัดล้านขวด ประดิษฐานอยู่ภายในอุโบสถ เป็นหินหยกขาวนำเข้ามาจากประเทศพม่า แกะสลักโดยช่างอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ศาลาฐานสโมมหาเจดีย์แก้ว เป็นศาลา 2 ชั้นประดับด้วยขวดทั้งหลัง เริ่มตั้งแต่บันไดเป็นต้นไปอยู่ด้านหลังของเจดีย์ทรงกลม ข้างๆ ศาลาเอนกประสงค์ฐานสโม ด้านหลังของศาลาฐานสโมมหาเจดีย์แก้ว สร้างเจดีย์เชื่อมต่อกับศาลาทางด้านหลัง เป็นเจดีย์ทรงกลมบนฐานสี่เหลี่ยมมองเห็นยอดสูงเลยศาลาขึ้นมาได้ชัดเจนเป็นที่สะดุดตาผู้มาพบเห็น ศาลาเอนกประสงค์ฐานสโม เป็นศาลาที่มีหลังคาโค้งรูปทรงศาลายาว สำหรับประชาชนที่เดินทางมาที่วัดล้านขวดได้เข้าไปทำบุญไหว้พระ และถวายสังฆทานในศาลาแห่งนี้ ความโดดเด่นของการสร้างวัดป่ามหาเจดีย์แก้ว หรือวัดล้านขวดจะเห็นได้ชัดมากขึ้นเมื่อเข้ามาในศาลาหลังนี้ และได้เห็นภาพประดับอยู่บนฝาผนังรูปต่างๆ สร้างด้วยฝาขวดเครื่องดื่มหลายชนิดจนเป็นภาพที่สวยงาม ประวัติความเป็นมาของวัด […]
Read Moreวัดบูรพามหาพุทธาราม หรือ วัดเขียนบูรพาราม ตั้งอยู่ที่ บ้านพราน ม. 4 ต.ห้วยเหนือ อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยต้นรัตนโกสินทร์ มีพระอุโบสถเก่าแก่ลักษณะเป็นสิมอีสาน ภายในประดิษฐานพระประธาน คือ หลวงพ่อโต เล่ากันว่า 200 กว่าปีก่อน พระยาไกรภักดีศรีลำดวน เจ้าเมืองขุขันธ์คนที่ 2 อพยพชาวบ้านมาสร้างเมืองใหม่ ณ บริเวณวัดเขียนบูรพารามปัจจุบัน ช่วยกันถากถางป่าพบหินสีแดงมีลักษณะคล้ายพระพุทธรูปโผล่ขึ้นบนจอมปลวก จึงสั่งบัญชาการให้ชาวบ้านตกแต่งทั่วบริเวณแล้วสร้างเสริมเป็นฐานพระ จากนั้นสร้างองค์พระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดใหญ่ขึ้นครอบองค์พระ ต่อมามีผู้ศรัทธาบูรณะองค์พระก่ออิฐถือปูนหุ้มหลวงพ่อโตให้ใหญ่ขึ้นอีก พระพุทธรูปศิลปะผสมผสานระหว่างล้านช้างและอยุธยาตอนปลาย ปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง 3.50 เมตร สูง 6.80 เมตร สิ่งที่น่าสนใจภายในวัด เจดีย์ธาตุโบราณ 4 องค์ อยู่ทั้ง 4 มุมของพระอุโบสถ เป็นเจดีย์ สี่เหลี่ยมย่อมุมก่อด้วยอิฐสูงประมาณ 7 เมตร ยอดเจดีย์ทำเป็นชั้นซ้อนกันถึง 3 ชั้น ปัจจุบันเหลือเพียง 2 องค์ด้านหน้าพระอุโบสถเท่านั้นที่สมบูรณ์ ส่วน 2 […]
Read More