พิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกร

พิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกร ตั้งอยู่บนถนนมาลัยแมน อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี สร้างขึ้นจากความคิด นายบรรหาร ศิลปอาชา ขณะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 21 ของประเทศไทย ก่อตั้งขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสที่ประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีนมีความสัมพันธ์ทางการทูตครบ 20 ปี เมื่อปี พ.ศ. 2539 พิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกรออกแบบขึ้นเพื่อนำเสนอเรื่องราวประวัติศาสตร์ของอารยธรรมจีนที่ยาวนานถึง 5,000 ปี ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันว่าเป็นอารยธรรมที่เก่าแก่และสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ภายใต้รูปแบบมังกรสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ที่รู้จักกันดี

ภายในห้องจัดแสดงเรื่องราวประวัติศาสตร์จีนซึ่งแบ่งเป็น 21 ห้อง ตั้งแต่สมัยตำนานการสร้างโลกยุคแรกเริ่มทางประวัติศาสตร์ ลำดับราชวงศ์ตั้งแต่ยุคหวงตี้ถึงราชวงศ์ชิง ซึ่งเป็นราชวงศ์สุดท้าย สมัยเปลี่ยนแปลงการปกครองที่ ดร. ซุนยัดเซ็น ยึดอำนาจจากจักรพรรดิและสถาปนาระบอบประชาธิปไตย และช่วงเวลาชิงอำนาจระหว่างฝ่ายประชาธิปไตย คือ เจียงไคเช็คกับฝ่ายคอมมิวนิสต์ที่นำโดยเหมาเจ๋อตุง จนมาถึงการสถาปนาสาธารณรัฐจีน

ทั้งนี้ ตัวมังกรมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ความยาว 135 เมตร สูง 35 เมตร กว้าง 18 เมตร ภายนอกออกแบบอย่างถูกต้องตามลักษณะความเชื่อของคนจีนแต่โบราณ ภายใต้ตัวมังกรเป็นที่ตั้งของ “พิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกร”

ซึ่งห้องจัดแสดงเรื่องราวประวัติศาสตร์จีน ตั้งแต่สมัยตำนานการสร้างโลกยุคแรก เริ่มทางประวัติศาสตร์ ลำดับราชวงศ์ตั้งแต่ยุคหวงตี้ ถึงราชวงศ์ชิง ซึ่งเป็นราชวงศ์สุดท้าย สมัยเปลี่ยนแปลงการปกครอง และการแสดงประวัติความเป็นมา ของพี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีนในประเทศไทย ด้วยเทคนิคนำเสนอทันสมัย จำนวน 21 ห้อง ได้แก่…

1. ห้องฉายภาพยนตร์

2. ห้องเทพนิยาย (กำเนิดโลก) ชาวจีนเชื่อว่าโลกถูกสร้างขึ้นโดยเทพบิดร “ผานกู่” ซึ่งสละชีวิตแยกแผ่นดินแผ่นฟ้าออกจากกัน ธรรมชาติต่าง ๆ เป็นต้นว่า พระอาทิตย์ พระจันทร์ ขุนเขา สายน้ำ ฯลฯ มาจากเลือดเนื้อ ร่างกายของ “ผานกู่” สรรพสิ่งทั้งปวงในโลกนี้ ล้วนกำเนิดจากที่มาเดียวกัน

3. ห้องเทพนิยาย (กำเนิดมนุษย์) เทพธิดาหนี่วาปั้นมนุษย์ชาย – หญิงคู่แรก ซึ่งเป้นบรรพบุรุษของพี่น้องชาวจีน ขึ้นจากดินแม่น้ำเหลืองแล้วทรงชุบเสกให้มีชีวิต สืบลูกหลานต่อมาถึงปัจจุบัน เป็นเหตุผลว่าทำไมชาวจีนถึงมีผิวเหลือง

4. ห้องตำนาน (เสินหนง) บิดาแห่งสมุนไพร เชื่อกันว่าเป็นบุคคลเดียวกับเอี๋ยนตี๋ 1 ใน 2 ปฐมกษัตริย์จีน และยังเป็นผู้ค้นพบใบชา ซึ่งกลายมาเป็นเครื่องดื่มประจำชาติจีนในปัจจุบัน

5. ห้องตำนาน (ปฐมกษัตริย์) “หวงตี้” – “เอี๋ยนตี้” 2 ผู้นำชนเผ่า ผู้ร่วมก่อร่างสร้างแผ่นดินจีน เมื่อ 5,000 ปี ที่ผ่านมา ถือเป็นปฐมกษัตริย์ที่ชาวจีนยกย่องให้เป็นบรพบุรุษ เรียกตนเองว่า “ลูกหลานเอี๋ยน – หวง”

6. ห้องพระราชวงศ์เซี่ย – ซาง ตำนานปลาหลีฮื้อกลายเป็นมังกร “ต้าอวี่” ผู้ค้นพบการแก้ปัญหาอุทกภัยแม่น้ำเหลืองยุคแห่งการค้นพบสำริด และอักษรกระดอกเต่าอักษรจีนยุคแรกในประวัติศาสตร์

7. ห้องราชวงศ์โจว ยุคแห่งนักคิด นักปราชญ์ “ร้อยสำนักประชัน” เล่าจื้อ ผุ้ให้กำเนิดลัทธิเต๋า ซุนอู่ ผู้แต่งตำราพิชัยสงคราม “รู้เขา รู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง” ไซซ๊ 1 ใน 4 หญิงงามผู้ได้รับการเปรียบเปรยว่า “มัจฉาจมวารี” ขงจื้อ ผู้สอนให้มนุษย์ปฏิบัติต่อกันด้วยความรัก คำสอนของขงจื้อยังคงอิทธิพลต่อชาวจีนถึงปัจจุบัน ฌีหยวน กวีผู้รักชาติ ต้นกำเนิดขนมบะจ่างและประเพณีการแข่งเรือมังกร

8. ห้องราชวงศ์ฉิน จิ๋นซีฮ่องเต้ ฮ่องเต้องค์แรกในประวัติศาสตร์ผู้สร้างกำแพงเมืองจีน สิ่งก่อสร้างอันน่ามหัศจรรย์ สุสานทหารดินเผาที่เลื่องลือไปทั่วโลก ผู้ปฏิรูปให้อักษรจีน และระบบเงินตราหลากหลายรูปแบบเป็นมาตรฐานเดียวกัน

9. ห้องราชวงศ์ฮั่น ยุคแห่งความรุ่งเรือง และความภาคภูมิใจทำให้ชาวจีนเรียกตนเองว่า “ชาวฮั่น” จุดเริ่มของศาสนาพุทะนิกายมหายานในประเทศจีน เส้นทางสายแพรไหมที่เชื่อมต่อการค้าของโลกยุคโบราณ ยุคแห่งการค้นพบกระดาษ และหวังเจาจวิน หญิงงามผู้ได้รับการเปรียบเปรยว่า “ปักษีตกนภา”

10. ห้องสามก๊ก จากวรรณกรรมอิงประวัติศาสตร์อันเป็นอมตะ ซึ่งแต่งขึ้นในสมัยราชวงศ์หมิง บอกเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปลายราชวงศ์ฮั่น ช่วงที่แผ่นดินจีนแตกออกเป็นสามก๊ก นำเสนอเหตุการณ์สำคัญ ที่ได้รับการเล่าขานกันต่อมาไม่รู้จบยุทะนาวีที่ผาแดง “โจโฉแตกทัพเรือ”

11. ห้องราชวงศ์สุย ปกครองแผ่นดินจีนเพียงช่วงระยะเวลาสั้น ๆ ฝากผลงานสำคัญไว้ในแผ่นดินคือการขุดคลอง “ต้าอวิ่นเหอ” นับพันกิโลเมตร ถือเป็นคลองขุดที่ยาวที่สุดในประเทศจีน เพื่อเป็นเส้นทางประพาสของฮ่องเต้ กระทั้งกลายเป็นเส้นทางการค้าทางน้ำที่สำคัญที่สุดในเวลาต่อมา

12. ห้องราชวงศ์ถัง ยุคแห่งความรุ่งเรือง เฟื่องฟู ตำนาน วัดเส้าหลิน แหล่งกำเนิดวิทยายุทธ์ ที่สืบทอดจากปรมาจารย์ตั๊กม้อบูเชคเทียน ฮ่องเต้หญิงองค์แรกและองค์เดียวในประวัติศาสตร์จีน หยางกุยเฟย หญิงงามผู้ได้รับการเปรียบเปรยว่า “มวลผกาละอายนาง”

13. ห้องราชวงศ์ซ่งเหนือ (เปาบุ้นจิ้น) ผู้ทรงความยุติธรรมแห่งศาลไคฟง ตำนานแห่งเครื่องประหารหัวสุนัข พยัคฆ์ และมังกร ชมการตัดสินคดีประหารราชบุตรเขยอันตื่นเต้น เร้าใจ

14. ห้องราชวงศ์ซ่งใต้ (งักฮุย) ขุนพลผู้รักชาติ ถูกกังฉินใส่ร้ายจนเสียชีวิตด้วยสุราพิษพระราชทาน ที่มาแห่งขนมปาท่องโก๋ หรือ “อิ้วจาก้วย” ที่ใช้แป้งเป็นสัญลักษณ์แทนกังฉินผัวเมีย นำมาทอดน้ำมันขบเคี้ยวระบายความแค้น

15. ห้องราชวงศ์หยวน เมื่อชาวจีนถูกปกครอง โดยพวกดมองโลกอย่างกดขี่ จึงรวมตัวกันลุกฮือขึ้นต่อต้าน สอดสาส์นลับใส่ขนมเพื่อนัดหมายก่อการโค่นล้มมองโกล ตำนานที่มาแห่งขนมไหว้พระจันทร์ ชมสะพานมาร์โคโปโลสถานที่สำคัญในประวัติศาสตร์ และหมู่บ้านจำลองที่มีอายุราว 700 ปี

16. ห้องราชวงศ์หมิง (เจิ้งเหอ) เจิ้งเหอ มหาขันทีผู้รับบัญชาฮ่องเต้ ผู้นำกองเรือมหาสมบัติ “เป่าฉวน” พร้อมลูกเรือกว่า 20,000 ชีวิต ออกสมุทรยาตราทั่วโลกถึง 7 ครั้ง ได้รับการยกย่องว่าเป็นนักเดินเรือคนสำคัญของโลก ตำนานแห่งเทพเจ้าซำปอกง

17. ห้องราชวงศ์หมิง (เครื่องลายคราม) เครื่องกระเบื้องเคลือบสีขาวเขียนลายน้ำเงิน เอกลักษณ์อันโดดเด่นที่รู้จักกันทั่วโลก ชมการจัดสวนสไตล์จีน และเครื่องเรือนอันงดงามด้วยศิลปะ

18. ห้องราชวงศ์ชิง (โรงงิ้ว – โรงฝิ่น) งิ้วหรืออุปรากรจีน เป็นศิลปะการแสดงอันงดงามวิจิตร ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นนาฏศิลป์สำหรับแขนงหนึ่งของโลก ชมเหตุการณ์ปลายราชวงศ์ชิงเ มื่อฝิ่นกลายเป็นสาเหตุที่ทำให้ชาวจีน กลายเป็นคนป่วยแห่งเอชียตะวันออก ก่อให้เกิดสงครามฝิ่นอันนำไปสู่การปล่อยเกาะฮ่องกงให้เช่านานถึง 99 ปี

19. ราชวงศ์ชิง (จักรพรรดิ์องค์สุดท้าย) “ปูยี” ฮ่องเต้วัย 3 ชันษา จากการแต่งตั้งของซูสีไทเฮา ฮ่องเต้องค์สุดท้ายในประวัติศาสตร์ ผู้ปิดตำนานการปกครองระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ “โอรสแห่งสวรรค์” อันยาวนานกว่า 2,000 ปี

20. ห้องยุคสาธารณรัฐ จากซุนยัดเซ็นผู้นำการปฏิวัติ โค่นล้มระบอบฮ่องเต้ เปลี่ยนจีนเข้าสู่ยุคสาธารณรัฐ มาถึงเหมาเจ๋อตุงผู้นำประเทศจีนเข้าสู่สังคมนิยม เปลี่ยนผ่านสู่เติ้งเสี่ยวผิง ผู้ปฏิวัติจีนสู่ยุค 4 ทันสมัย กระทั่งกลายเป็นมหาอำนาจของโลกประเทศหนึ่งในปัจจุบัน

21. ห้องชาวไทยในประเทศสยาม ประวัติความเป้นมาของพี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีนในประเทศไทย ต้นกำเนิดตระกูลแซ่ต่าง ๆ จากบรรพชนสู่อภิชาตบุตรลงหลักปักฐาน สร้างฐานะเป็นปึกแผ่นภายใต้พระบรมโพธิสมภาร ความภาคภูมิใจของลูกหลานพันธุ์มังกร

[adsense-2]

ช่วงเวลาที่เปิดให้เข้าชม เปิดให้เข้าชมวันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 10.00-16.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น. ปิดทุกวันอังคาร เข้าชมเป็นรอบ ๆ มีชุดหูฟังเสียงบรรยายภาษาอังกฤษและจีนให้บริการ

อัตราค่าเข้าชม ชาวไทย ผู้ใหญ่ 299 บาท เด็ก 149 บาท ชาวต่างประเทศ ผู้ใหญ่ 499 บาท เด็กต่างประเทศ 299 บาท

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม

ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสุพรรณบุรี : พิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกร โทรศัพท์ (035) 526 211
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานสุพรรณบุรี โทร.(035) 536 030, (035) 535 789
สำนักงานจังหวัด (035) 535 376
ประชาสัมพันธ์จังหวัด (035) 535 423
เทศบาลเมืองสุพรรณบุรี (035) 522 974
องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุพรรณบุรี (035) 525 777
ศูนย์ประสานงานการท่องเที่ยวจังหวัดสุพรรณบุรี (035) 536 030
สถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองสุพรรณบุรี (035) 525 583-4
ตำรวจทางหลวง โทร 1193
แขวงการทางสุพรรณบุรี โทร (035) 522 133
สถานีตำรวจภูธร (035) 525 583-4
บขส.สุพรรณบุรี (035) 522 373
สถานีรถไฟสุพรรณบุรี (035) 511 950

การเดินทาง

รถยนต์ส่วนตัว เส้นทางที่สะดวกที่สุดคือใช้ถนนรัตนาธิเบศร์ ที่เชื่อมกับวงแหวนรอบนอก (ถนนกาญจนาภิเษก) ไปทางอำเภอบางบัวทอง จากนั้นเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 340 ผ่านจังหวัดพระนครศรีอยุทธยา เข้าสู่เขตจังหวัดสุพรรณบุรีที่อำเภอบางปลาม้า ถนนเข้าเมืองสุพรรณบุรี เป็นถนนสี่เลนกว้างขวางและสะอาดตา

รถโดยสารประจำทาง สามารถใช้บริการของรถโดยสารประจำทาง ซึ่งออกจากสถานีขนส่งหมอชิต (ถนนกำแพงเพชร) และสถานีขนส่งสายใต้ (ถนนบรมราชชนนี) ทุกวัน

รถไฟ ถ้าต้องการบรรยากาศการท่องเที่ยวโดยรถไฟ การรถไฟแห่งประเทศไทยก็มีขบวนรถไฟไปยังจังหวัดสุพรรณบุรี รถออกเวลา 16.40 น. ทุกวัน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง

รถสองแถว (บริการเฉพาะภายในตัวเมืองสุพรรณ) การเดินทางในตัวเมืองสุพรรณมีรถสองแถวให้บริการ โดยขึ้นบริเวณสี่แยกนางพิม หากต้องการเดินทางออกนอกตัวเมือง ติดต่อสอบถามที่คิวรถบริเวณสี่แยกนางพิมได้เลย

ความเห็น

ความเห็น