อนุสาวรีย์พระศรีพนมมาศ

อนุสาวรีย์พระศรีพนมมาศ อยู่ที่สี่แยกตลาดลับแล อำมาตย์ตรี พระศรีพนมมาศ (ทองอิน แซ่ตัน) (พ.ศ. 2404 – 12 มีนาคม พ.ศ. 2465) อดีตนายอำเภอลับแลในสมัยรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ท่านได้สร้างความเจริญให้แก่อำเภอลับแลเป็นอย่างมาก เช่น เป็นผู้วางผังเมืองลับแล สร้างฝายหลวง พัฒนาการศึกษา รวมทั้งส่งเสริมการเกษตร เป็นบุคคลที่คนอำเภอลับแลให้ความเคารพนับถือสืบมาจนกระทั่งปัจจุบัน

พระศรีพนมมาศ เดิมชื่อ “นายทองอิน” มีบิดาเป็นชาวจีน ชื่อ “ตั้วตี๋ แซ่ตัน” มีมารดาชื่อ “นิ่ม” เป็นชาวอำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม พระศรีพนมมาศเกิดที่บ้านยางกะได เมืองลับแล เมื่อ พ.ศ. 2404 เมื่อเล็กๆ บิดามารดาได้ยกให้เป็นลูกของหลวงพ่อน้อย วัดป่ายาง หลวงพ่อน้อยได้ตั้งชื่อให้ว่า “ทองอิน” เมื่อมีอายุได้ 12 ปี บิดามารดาก็นำไปฝากวัดไว้โดยอยู่กับหลวงพ่อต้น วัดน้ำใส เพื่อให้เข้าศึกษาเล่าเรียน เมื่ออายุครบที่จะบวช ได้อุปสมบทที่วัดน้ำใส ในเมืองลับแล 1 พรรษา แล้วสึกออกมาช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพ

อาชีพเริ่มแรกของนายทองอินคือการค้าขาย เริ่มต้นแต่หาบแร่ของไปขายยังชุมชนต่าง ๆ ในท้องที่อำเภอลับแล และบางครั้งก็ไปจนถึงอำเภอหาดเสี้ยว ซึ่งได้แก่อำเภอศรีสัชนาลัยในปัจจุบัน ทำงานเช่นนี้อยู่ 5 ปี ก็ได้เข้าทำงานเป็นนายอากรโรงต้มกลั่นอำเภอหาดเสี้ยว เป็นเวลานานถึง 10 ปี กิจการเจริญขึ้นเป็นลำดับ จนมีคนรู้จักและนับหน้าถือตาเป็นจำนวนมากยิ่งขึ้น

นายทองอิน มีภรรยาหลายคน แต่ไม่มีบุตรเลยนอกจากจะมีบุตรบุญธรรม ซึ่งนำมาเลี้ยงไว้หลายคน เท่าที่พอจะสืบทราบมาได้ก็ เช่น ขุนอำไพพานิช (บุย สีหาอำไพ) (ซึ่งเป็นบิดาของ หลวงนิตย์เวชวิศิษฏ์ นายกฤษณ์ อินทโกศัย หลวงพรรณานิคมเขต นายบ้วน อินทชัยศรี และนายประวิทย์ ธรรมโกวิทย์)

นายทองอิน เป็นคนที่มีความคิดก้าวหน้ายิ่งกว่าคนอื่นในเขตเดียวกัน เมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จประพาสเมืองอุตรดิตถ์ และเมืองลับแลเมื่อวันที่ 23 ถึง 26 ตุลาคม พ.ศ. 2444 ทางอำเภอลับแลได้ตั้งพลับพลารับเสด็จบน “ม่อนจำศีล” นายทองอินได้เป็นหัวหน้าคนสำคัญในการรับเสด็จในครั้งนี้ โดยจัดขบวนแห่บั้งไฟ และปราสาทผึ้ง มีช้างแห่ไปในขบวนถึง 25 เชือก และมีการแสดงพระธรรมเทศนา เรื่อง พระแท่นศิลาอาสน์ด้วย

[adsense-2]

ในการเสด็จประพาสจังหวัดอุตรดิตถ์และเมืองลับแลในครั้งนี้ นายทองอินได้จัดการรับเสด็จเป็นที่พอพระราชหฤทัยเป็นอย่างยิ่ง และได้เข้าเฝ้าอย่างใกล้ชิดเบื้องพระยุคลบาทด้วยความจงรักภักดี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงทราบข่าวการได้ทำงานต่างๆ ซึ่งเป็นการทำประโยชน์ให้กับเมืองลับแล เช่น การสร้างถนน การสร้างเหมืองฝายของ นายทองอิน อีกทั้งทรงทราบนิสัยของนายทองอินอีกด้วยว่าเป็นคนดีราษฏรรักใคร่นับถือมาก สมควรที่จะได้ความชอบเป็นพิเศษ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้นายทองอิน เป็น “ขุนพิศาลจีนะกิจ” พระราชทานนามถนนสายที่นายทองอินเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการจัดสร้างเพื่อรับเสด็จว่า ถนนอินใจมี

ต่อมาในวันที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2447 นายทองอินได้รับการเลื่อนบรรดาศักดิ์และพระราชทานบรรดาศักดิ์ให้เป็น “หลวงศรีพนมมาศ” ตำแหน่งเจ้าเมืองลับแล ขึ้นตรงต่อเมืองพิชัย ถือศักดินา 1,000 ไร่ บังคับบัญชาปลัดยกกระบัตรกรรมการเมืองและบรรดาราษฏรอยู่ในแขวงเมืองลับแลทั้งสิ้น และในวันที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2451 นายทองอินได้รับการโปรดเกล้าฯ ให้เลื่อนบรรดาศักดิ์เป็น “พระศรีพนมมาศ” ตำแหน่งนายอำเภอเมืองพิชัย ถือศักดินา 1,000 ไร่ ให้ทำหน้าที่ช่วยผู้ว่าราชการเมืองพิชัย ภายหลังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานยศเป็น “อำมาตย์ตรี” ดำรงตำแหน่งเกษตรมณฑลพิษณุโลก ในราชทินนามเดิม

พระศรีพนมมาศ ได้ถึงแก่กรรมด้วยโรคลมปัจจุบัน อันเนื่องมาจากโรคเบาหวานเมื่อวันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2464 รวมอายุได้ 60 ปี โดยได้รับพระราชทานเพลิงศพ เมื่อ วันพุธที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2465 ณ ประรำพิธีซึ่งตั้งขึ้น ข้างบ้านพระศรีพนมมาศ โดย พระกัลยาวัฒนวิศิษฐ์ เป็นประธานการจัดงาน และพร้อมด้วยบุตรหลานและภริยาของท่าน

การเดินทาง

รถยนต์ส่วนตัว

อยู่ห่างจากตัวเมืองอุตรดิตถ์เพียง 9 กิโลเมตร ไปตามทางหลวงหมายเลข 102 ประมาณ 3 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวขวาไปตามทางหลวงหมายเลข 1041 อีก 6 กิโลเมตร

แผนที่

ความเห็น

ความเห็น