น้ำตกเอราวัณ เดิมชื่อ “น้ำตกสะด่องม่องลาย” ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเอราวัณ หมู่ที่ 4 ตำบลท่ากระดาน อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของจังหวัดกาญจนบุรี แต่ละวันมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวเป็นจำนวนมากทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ น้ำตกมีความสวยงามอยู่ท่ามกลางป่าธรรมชาติ เดินไปยังน้ำตกไม่ไกล ไม่ลำบาก น้ำใส และมีแอ่งน้ำเหมาะกับการเล่นน้ำท่ามกลางแมกไม้ มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายสำหรับนักท่องเที่ยว สามารถโดยสารรถประจำทางไปได้ เพราะอยู่ไม่ไกลจากตัวจังหวัดเมืองกาญจน์มากนัก น้ำตกเอราวัณเป็นน้ำตกขนาดใหญ่ สายน้ำไหลลงมาจากยอดเขาสูง ผ่านโขดหินผา และป่าที่ปกคลุมด้วยแมกไม้นานาชนิด มารวมกันเป็นแอ่งน้ำเป็นช่วงๆ ทำให้เกิดเป็นชั้นของน้ำตก ที่มีความสวยงามแตกต่างกันไป น้ำตกมีด้วยกันทั้งหมด 7 ชั้น มีชื่อเรียกแต่ละชั้นคล้องจองกัน จากชั้นแรกถึงชั้นที่เจ็ดคือ “ไหลคืนรัง วังมัจฉา ผาน้ำตก อกนางผีเสื้อ เบื่อไม่ลง ดงพฤกษา ภูผาเอราวัณ” น้ำตกแต่ละชั้นมีระยะทางแตกต่างกันตั้งแต่ ชั้นต้นๆ เดินไปแค่ไม่กี่ร้อยเมตร จนถึงชั้นบนสุด 1,520 เมตร ซึ่งต้องใช้เวลาเกือบชั่วโมงในการเดินผ่านป่าขึ้นไปจนถึงชั้นบนสุด เป็นหน้าผาทะลุเปิดโล่ง บางช่วงค่อนข้างลำบาก ชัน และลื่นบ้าง ชั้นบนสุดหลายคนบอกว่ารูปร่างผามองดูแล้วคล้ายกับหัวช้างสามเศียรเอราวัณ จนเป็นที่มาของชื่อน้ำตกเอราวัณนั่นเอง น้ำตกเอราวัณมีลักษณะสวยงามเป็นพิเศษ ตรงที่สีของน้ำเป็นสีฟ้าใส เหมือนสระว่ายน้ำ เนื่องจากเป็นน้ำที่ผ่านมาจากเขาหินปูน ที่มีแคลเซียมคาร์บอเนตสูง มีคุณสมบัติทำให้สารแขวนลอยตกตะกอน […]
Read MoreTag: กาญจนบุรี
น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น หรือ “น้ำตกห้วยขมิ้น” ตั้งอยู่บริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ ตำบลท่ากระดาน อำเภอศรีสวัสดิ์ จ.หาญจนบุรี เป็นน้ำตกหินปูนขนาดใหญ่ หนึ่งในน้ำตกที่สวยงามที่สุดในประเทศไทย ด้วยความงามของม่านน้ำตกที่ไหลลดหลั่นกันลงมาเป็นชั้นเล็กชั้นน้อย ด้วยสภาพพื้นที่ป่าที่ปกคลุมไปด้วยพันธุ์ไม้ป่านานาชนิด จึงทำให้บริเวณพื้นที่แห่งนี้มีความร่มรื่น โดยน้ำตกไหลมาจากต้นน้ำของเทือกเขากะลา ซึ่งเป็นป่าดิบเขาแล้ง ทางทิศตะวันออกของอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ และไหลลงสู่อ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ บรรยากาศที่รายล้อมไปด้วยป่าเขา และต้นไม้นานาพันธุ์ที่มีความสมบูรณ์ทางธรรมชาติ ทำให้นักท่องเที่ยวหลายคนต่างติดใจจนแวะมาเที่ยวน้ำตกห้วยแม่ขมิ้นหลายต่อหลายครั้ง อย่างไม่รู้เบื่อ ชั้นต่างๆแต่ละชั้นของน้ำตกห้วยแม่ขมิ้น ชั้นที่ 1 ดงว่าน เป็นธารน้ำตกชั้นเตี้ยๆ ลดหลั่นกันลงมา บริเวณนี้มีพืชสมุนไพรที่สำคัญอยู่หลายชนิด เช่นพลูป่า รางจืด ซึ่งสามารถศึกษาลักษณะของพืชสมุนไพรได้จากแผ่นป้ายให้ความรู้ของทางอุทยานฯ ที่ติดไว้ให้ ชั้นที่ 2 ม่านขมิ้น เป็นน้ำตกที่ไหลลงมายังแอ่งน้ำด้านล่าง เห็นเป็นม่านน้ำตกที่สวยงาม ชั้นที่ 3 วังหน้าผา ชั้นนี้สายน้ำไหลผ่านผาน้ำตกสูงกว่าในชั้น 1และ 2 ลงมายังแอ่งน้ำด้านล่าง ชั้นที่ 4 ฉัตรแก้ว เป็นชั้นที่เป็นไฮไลท์ของน้ำตกห้วยขมิ้น สายน้ำที่ค่อยๆ ลดหลั่นกันลงมาตามชั้นดิน และหินเตี้ยๆ แล้วเทตกจากผาสูงกว่า 10 เมตร ลงมายังแอ่งข้างล่าง ชั้นที่ […]
Read Moreน้ำตกผาตาด ตั้งอยู่ในพื้นที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ ที่ ศร.4 (ผาตาด) ในเขตอำเภอทองผาภูมิ จ.หาญจนบุรี เป็นสถานที่เที่ยวชมน้ำตกที่สวยงามมากอีกแห่งหนึ่งในอำเภอทองผาภูมิ เป็นสถานที่เหมาะกับการพักผ่อน ตั้งแค้มป์ เล่นน้ำตก ชมธรรมชาติ ตัวน้ำตกอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ เพียง 300 เมตร บริเวณตัวน้ำตกมีความร่มรื่น ครึ้มไปด้วยต้นไม้หนาแน่น เส้นทางเดินไปน้ำตกไม่ลำบาก แต่ควรระวังเมื่อทางเดินเปียกน้ำอาจจะลื่นได้ น้ำตกแห่งนี้เกิดจากต้นน้ำบนเทือกเขากะลา มาเป็นน้ำในลำกุยมั่ง เป็นน้ำตกหินปูน มีชั้นเดียว แต่ไหลลดหลั่นไล่ระดับลงมาถึง 3 ระดับ สายน้ำไหลลดหลั่นตกลงมาตามหน้าผาหินปูน แล้วแตกแผ่ออกไปในแนวกว้างออกไปในแนวระนาบกว้าง มากกว่าแนวดิ่ง ความสูงของน้ำตกจึงไม่มาก เหมือนน้ำที่เทลงบนแนวป่า ไหลผ่านก้อนหิน ต้นไม้ต่างๆ ไล่ระดับกันลงมาด้านล่าง ความกว้างของสายน้ำ กระจายไปทั่ว แทรกไปตามต้นไม้ เนินดิน แนวหิน อาจดูระเกะระกะตา แต่เป็นความสวยงามแบบธรรมชาติอย่างแท้จริง ไฮไลท์ของน้ำตกอยู่ที่ชั้นที่ 3 สายน้ำไหลลดหลั่นซ้อนกันลงมา มีหน้ากว้างกว่า 10 เมตร มีความสวยงามมากค่ะ ช่วงเวลาน่าเที่ยว ช่วงหน้าแล้ง ประมาณเดือนมีนาคม – เมษายน ปริมาณน้ำในน้ำตกค่อนข้างน้อย น้ำตกจะไม่ค่อยสวย […]
Read Moreน้ำตกไทรโยคใหญ่ หรือ น้ำตกเขาโจน ตั้งอยู่ในบริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติไทรโยค หมู่ 7 ต.ไทรโยค อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีคนมาเที่ยวเป็นจำนวนมากในแต่ละปี ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เพราะสามารถเดินทางได้ทั้งทางบก และทางน้ำ บางคนมาเที่ยวแพล่อง ก็จะต้องแวะมาที่น้ำตกไทรโยคนี้ เพราะเป็นน้ำตกที่แปลกกว่าน้ำตกที่อื่นๆ ตรงที่ น้ำตกจะไหลจากลำธารแล้ว ท้ายสุดจะมาลงยังชะง่อนหินสุดท้ายสู่ลำน้ำแควน้อย ทำให้ผู้ที่ล่องแพมาสามารถเล่นน้ำตกได้ด้วย อุทยานแห่งชาติไทรโยค มีเนื้อที่ 598,750 ไร่ ประกาศเป็นอุทยานฯ เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2523 สภาพพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาหินปูน ประกอบด้วยพื้นที่ป่าเบญจพรรณและป่าดิบแล้ง ไทรโยคได้ชื่อว่าเป็นพื้นที่แห่งเดียวในประเทศไทยที่มีค้างคาวที่เล็กที่สุด ในโลกคือ ค้างคาวกิตติ และ ปูราชินี ปูน้ำจืดชนิดใหม่ของโลกอาศัยอยู่ ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ไทรโยคเคยเป็นค่ายพักแรมของทหารญี่ปุ่น ปัจจุบันปรากฎร่องรอยเตาหุงข้าวและซากเตาไฟอยู่ในพื้นที่ นอกจากนี้ยังพบร่องรอยมนุษย์ยุคหินเก่า มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ คือ น้ำตกไทรโยคใหญ่ หรือ เรียกอีกชื่อว่า น้ำตกเขาโจน ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติไทรโยค เนื่องจากเป็นน้ำตกที่ไหลตกลงจากหน้าผาลงสู่แม่น้ำแควน้อยราวกับกระโจนลงมา น้ำตกไทรโยคใหญ่จะมีน้ำตลอดปี และน้ำจะแรงมากในฤดูฝน และในอดีตพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) เคยเสด็จประพาส […]
Read Moreน้ำตกไทรโยคน้อย หรือน้ำตกเขาพัง ตั้งอยู่ในอำเภอไทรโยค จ.กาญจนบุรี เป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงมาช้านาน เหตุที่ได้ชื่อว่าน้ำตกเขาพัง เพราะเกิดบน หน้าผาหินปูนที่พังทลายลงมา จนเกิดโขดหินปูนลดหลั่นกันอยู่ตรงบริเวณเชิงเขา ต้นกำเนิดเป็นน้ำผุดจากภูเขาแล้วไหลมาตาม ลำธารเล็กๆ ไหลตกลงที่ผาหินปูนที่มีความสูง ประมาณ 15 เมตร แผ่กระจายไปตามพื้นเขาลาดเอียง ภายใต้ร่มเงาของพันธุ์ไม้ นานาชนิด ในลำธารมีต้นกกขึ้นอยู่กระจัดกระจาย นับเป็นบรรยากาศที่ชวนให้ไปสัมผัสอีกแห่งหนึ่ง น้ำตกแห่งนี้เป็นที่รู้จักกันดีของนักท่องเที่ยว เพราะอยู่ริมถนนสายหลักที่เป็นทางผ่านจากตัวเมืองกาญจนบุรี ไปยังถนนเส้นทองผาภูมิ – สังขละบุรี เป็นน้ำตกที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก บริเวณริมน้ำตกมีร้านอาหารให้นั่งพักผ่อน ถนนฝั่งตรงข้ามน้ำตกมีร้านสะดวกซื้อ ร้านค้า ร้านอาหารบริการมากมาย จึงเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมแวะซื้อของกินของฝากกันค่ะ สายน้ำที่ไหลลงมาจากส่วนที่อยู่ภายใต้แมกไม้ปกคลุมครึ้มด้านบน ตกลงกระทบกองหินลาดด้านหน้าน้ำตกขนาดใหญ่ แล้วแผ่กระจายออกไป สายน้ำเมื่อผ่านหินผาแล้ว มารวมกันเป็นแอ่งน้ำด้านล่าง ไม่ลึกมาก เด็กๆ สามารถลงเล่นได้ ถึงแม้ว่าจะมีน้ำตกนี้มีน้ำไหลตลอดปี บางครั้งในฤดูแล้งอาจมีน้ำน้อย เพียงแค่ให้เดินย่ำเล่นเท่านั้นค่ะ และภายในบริเวณน้ำตกมีร้านค้าและร้านอาหารเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้รับประทานอาหารพร้อมกับลิ้มรสบรรยากาศร่มรื่นใกล้ธรรมชาติ ฟังเสียงน้ำไหล และกลิ่นไอความเย็นของบริเวณน้ำตกไปด้วยค่ะ ในอดีตเมื่อ พ.ศ. 2431 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) เสด็จประพาสบริเวณน้ำตกไทรโยค นอกจากนี้บริเวณน้ำตกไทรโยคน้อยยังได้มีการนำหัวรถจักรไอน้ำสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 มาตั้งไว้เพื่อรำลึกถึงการสร้างทางรถไฟสายมรณะที่สร้างผ่านบริเวณหน้าน้ำตกเข้าสู่ประเทศพม่า [adsense-2] สิ่งอำนวยความสะดวก มีที่จอดรถทั้งรถยนต์และรถบัส […]
Read Moreน้ำตกเกริงกระเวีย ตั้งอยู่ที่อำเภอสังขละบุรี จ.กาญจนบุรี เป็นน้ำตกหินปูนขนาดเล็กที่สวยงาม สูงประมณ 5 เมตร ตั้งอยู่ริมถนนสายทองผาภูมิ-สังขละ ห่างจาก อ.ทองผาภูมิไปประมาณ 32 กม. น้ำตกแห่งนี้ขึ้นกับเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม อยู่ติดถนนเยื้องกับทางเข้าน้ำตกไดช่องถ่อง เป็นน้ำตกขนาดเล็ก ที่มีความสาวยงาม เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ริมถนนสายหลัก เส้นทองผาภูมิ-สังขละบุรี สามารถแวะได้ง่าย สะดวก และจุดนี้ท่านสามารถพักรถ เข้าสุขา พักรับประทานอาหาร พักผ่อนหย่อนใจ เล่นน้ำ และยังมีบริเวณน้ำตื้นให้เด็กๆสามารถเล่นน้ำได้ บริเวณน้ำตกมีร้านค้า ร้านขายของที่ระลึก และร้านอาหารให้บริการอยู่หลายร้านเลยค่ะ [adsense-2] ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม สำนักงานการท่องเที่ยวกาญจนบุรี (034) 511 200 สำนักงานจังหวัดกาญจนบุรี โทร. (034) 511 778, (031) 512 399 ประชาสัมพันธ์จังหวัดกาญจนบุรี โทร. (034) 512 410, (034) 514 756 สำนักงานเทศบาลเมืองกาญจนบุรี โทร. (034) 511 502-2 […]
Read Moreถ้ำละว้า ตั้งอยู่ที่อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี เป็นถ้ำแรกๆ ที่ถูกค้นพบของกาญจนบุรีโดยนายผิน ดอกเข็ม เมื่อราวๆ ปีพ.ศ. 2496 หรือเมื่อเกือบ 60 ปีมาแล้ว แถมตอนค้นพบยังพบพร้อมกับโครงกระดูกมนุษย์โบราณอีกด้วย จึงทำให้สันนิษฐานได้ว่าที่แห่งนี้อาจจะเคยเป็นที่อยู่อาศัยของมนุษย์ในยุคก่อนประวัติศาสตร์ก็เป็นได้ นอกจากนี้ด้วยที่ตั้งของถ้ำละว้าที่อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติไทรโยคซึ่งห่างจากอำเภอเมืองไม่มากนัก การเดินทางมาท่องเที่ยวถ้ำละว้าจึงถือว่าสะดวกมากพอควรเลยทีเดียวค่ะ เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติถ้ำละว้าเป็นบันไดทอดตัวยาวขึ้นไปสู่บริเวณทางเข้าถ้ำ เดินกันเรื่อยๆ พอได้หอบกันเล็กๆ เราก็มาถึงปากทางเข้าขนาดเกือบพอดีตัว เราหยุดพักเหนื่อยและเตรียมตัวกันนิดหน่อยค่อยเริ่มสำรวจถ้ำละว้า เส้นทางเดินชมภายในถ้ำถูกจัดไว้อย่างเป็นระเบียบ มีทางเข้าออกทางเดียว ตลอดทางเดินมีไฟเปิดให้ความสว่างตลอดทาง ภายในถ้ำแบ่งออกเป็นห้องๆ รวมทั้งหมด 5 ห้อง ดังนี้ค่ะ ห้องแรก ห้องหนุมาน (จากปากถ้ำประมาณ 45 เมตร) ห้องที่สอง ก็คือห้องจระเข้ (จากปากถ้ำประมาณ 95 เมตร) เป็นลักษณะคล้ายจระเข้นอนอยู่บนเพดานถ้ำ ห้องที่สาม ห้องดนตรี (จากปากถ้ำประมาณ 115 เมตร) ดูแล้วคล้ายๆ เครื่องดนตรีต่างๆ และถ้าเราเคาะจะได้ยินเสียงต่างกันคล้ายเสียงดนตรีค่ะ ห้องที่สี่ ห้องค้างคาว (จากปากถ้ำประมาณ 200 เมตร) ได้ชื่อมาจากว่ามีหินย้อยเล็ก ๆ […]
Read Moreถ้ำกระแซ ไปศึกษาประวัติศาสตร์ชาติไทย ผ่านเรื่องราวอันน่าเศร้าของเชลยศึกกันค่ะ ถ้ำกระแซ ตั้งอยู่ในอำเภอไทรโยค เป็นถ้ำเล็กๆ ตั้งอยู่ริมหน้าผาใกล้กับทางรถไฟ ถ้ำแห่งนี้เคยเป็นที่พักของเชลยศึก ในช่วงที่มีการสร้างทางรถไฟสายมรณะ ไทย-พม่า เส้นทางรถไฟบริเวณนี้ที่ถือว่า เป็นจุดอันตรายที่สุดในการก่อสร้างทางรถไฟ เพราะเป็นการสร้างทางตัดผ่านหน้าผาหินสูงชัน อีกฝั่งเป็นเหวลึกสู่ลำน้ำแควน้อย ในช่วงเส้นทางประมาณ 400 เมตรนี้ มีความลำบากในการก่อสร้างเป็นอย่างมาก เพราะการสร้างเส้นทางรถไฟสายนี้ ตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ไม่ได้ใช้อุปกรณ์เครื่องจักรที่ทันสมัย มีเพียงเครื่องไม้เครื่องมือแบบชาวบ้าน จอบ สิ่ว ค้อน ขวานธรรมดา มีการทำโครงสร้างด้วยไม้ ด้วยสภาพแวดล้อมที่ยากลำบากในการก่อสร้าง การเผชิญกับโรคภัยต่างๆ และการขาดแคลนอาหาร ทำให้ที่นี่กลายเป็นโศกนาฏกรรมทางสงคราม ที่มีแรงงานและเชลยศึกต้องจบชีวิตลง นับหมื่นนับพันคนในช่วงการสร้างทางรถไฟผ่านช่วงถ้ำกระแซนี้ ภายในถ้ำกระแซนั้นโปร่งและมีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ประดิษฐานอยู่ มองจากปากถ้ำมาที่บริเวณทางรถไฟจะเห็นทิวทัศน์ที่งดงามและมองเห็นแม่น้ำแควน้อยอยู่เบื้องล่าง บริเวณนี้เป็นจุดที่สร้างทางรถไฟยากที่สุด เนื่องจากเป็นเส้นทางโค้งเลียบเขาค่ะ ในปัจจุบัน ถ้ำกระแซถือเป็นจุดชมวิวที่โด่งดัง และเป็นที่รู้จักเป็นอย่างดี เพราะถือว่าเป็นจุดที่สวยที่สุด และอันตรายที่สุดของเส้นทางรถไฟสายกรุงเทพฯ – น้ำตก หรือที่เรียกกันว่า “เส้นทางรถไฟสายมรณะ” (The Death Railway) ในแต่ละวันมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติแวะเวียนมาเพื่อมาชมวิวเส้นทางรถไฟสายมรณะบริเวณถ้ำกระแซนี้ เป็นจำนวนมาก สำหรับผู้ที่ต้องการมาเที่ยวชม สามารถมาได้ทั้งทางรถยนต์ และทางรถไฟ เพราะบริเวณถ้ำกระแซยังเป็นสถานีรถไฟ […]
Read Moreเจดีย์พุทธคยา ไปชมความงามของเจดีย์สีเหลืองทองอร่ามที่ตั้งตระหง่านค้ำจุนพระพุทธศาสนาให้ผู้คนที่ศรัทธาได้เข้ามากราบไหว้กันค่ะ เจดีย์พุทธคยาตั้งอยู่ที่วัดวังก์วิวเการาม อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี เป็นปูชนียสถานที่สำคัญคู่กับวัดวังก์วิเวการาม เป็นเจดีย์องค์ใหญ่นี้ตั้งตระหง่านอยู่บนเนินเขาใกล้ริมฝั่งแม่น้ำ มีสีเหลืองทอง สามารถมองเห็นได้จากแม่น้ำซองกาเลีย ภายในองค์เจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ จึงเป็นเจดีย์ที่มีผู้คนมาสักการะ บูชาองค์เจดีย์ที่เสมือนเป็นสัญลักษณ์ทางพุทธศาสนา เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต เจดีย์พุทธคยายังเป็นศูนย์กลางในการประกอบพิธีในวันสำคัญทางพุทธศาสนาและงานเทศกาลเช่น งานวันสงกรานต์ เจดีย์พุทธคยา เริ่มสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2521 ริเริ่มโดยหลวงพ่ออุตตมะ ด้วยความตั้งใจของหลวงพ่อที่จะจำลองจากเจดีย์พุทธคยา ซึ่งเป็นสถานที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ในประเทศอินเดีย มาไว้เป็นศูนย์กลางสำหรับชาวพุทธที่อยู่รวมกันได้โดยไม่แยกเชื้อชาติ ค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างทั้งหมด ได้รับจากเงินบริจาคของพุทธศาสนิกชนที่เลื่อมใส ศรัทธาในหลวงพ่ออุตตมะ ซึ่งบริจาคมาทั้งที่เป็น เงินสด ทองคำ และวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้าง ใช้แรงงานคนมอญทั้งผู้ชายและผู้หญิงในหมู่บ้านประมาณ 400 คน ช่วยกันเผาอิฐมอญจำนวน 260,000 ก้อน ต่อมา พ.ศ. 2525 เจดีย์ได้ถูกเสริมให้เป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก เจดีย์พุทธคยา มีขนาดเล็กกว่าเจดีย์พุทธคยาองค์จริงที่อินเดีย มีลักษณะฐานเป็นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัส กว้างยาว 42 เมตร สูง 59 เมตร ทางเข้าไปยังเจดีย์ มีรูปปั้นสิงห์ คู่ใหญ่ เป็นศิลปะมอญ ที่เชื่อว่าจะคอยปกป้องเจดีย์อยู่สองข้างบันไดทางเข้า ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับสิงห์คู่ของประเทศพม่า […]
Read Moreจุดชมวิวิเนินช้างศึก เนินช้างศึก เป็นฐานปฏิบัติการของตำรวจตระเวนชายแดนที่ 135 (ฐานช้างศึก) บางคนก็เรียก ยอดดอยปิล๊อก หรือ ต่องปะแล เป็นฐาน ตชด ที่.ตั้งอยู่ในเส้นพรมแดนไทย-พม่า อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,053 เมตร มีบ้านพักเจ้าหน้าที่ ลาน ฮ. และจุดชมวิวในมุมสูง จุดชมวิวที่นี่เป็นจุดชมวิวยอดนิยมของนักท่องเที่ยว เพราะวิวที่นี่จะเห็นทิวทัศน์ได้รอบตัวแบบ 360 องศาเลยค่ะ เห็นวิวทั้งฝั่งไทยและพม่า ฝั่งไทยจะเห็นจุดชมวิวเนินเสาธง และหมู่บ้านอีต่อง อยู่ในหุบเขาด้านล่าง ส่วนฝั่งพม่าจะเห็นเทือกเขาและแนวป่าที่เป็นแนวเขาสลับซับซ้อน และผืนป่าเดียวกันกับไทยไกลออกไปสุดสายตา มีสถานีส่งก๊าซในฝั่งพม่าอยู่ไม่ไกลจากเขตชายแดน จุดชมวิวในวันที่อากาศหนาวจะมีหมอกคลอเคลียยอดเขา ทำให้ใครๆที่ได้มาเยือนที่นี่ ต้องอดใจไม่ไหวกลับมาเยือนอีกเมื่อมีโอกาสเสมอค่ะ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกที่ ที่นักท่องเที่ยวนิยมมากางเต็นท์กันมาก ส่วนใหญ่จะมาเที่ยวและพักค้างแรมในฤดูหนาวคือช่วงพฤศจิกายน – มกราคม เพราะจะได้สัมผัสหมอก และอากาศหนาวเย็น ได้ชมวิวพระอาทิตย์ตก ยามค่ำคืนจะเห็นความสวยงามของหมู่ดาวบนท้องฟ้า และกลุ่มแสงไฟจากสถานีส่งก๊าซในหุบเขาฝั่งพม่า ได้ชมพระอาทิตย์ขึ้นท่ามกลางหุบเขา และในวันที่ท้องฟ้าเปิดสามารถมองเห็นวิวทางฝั่งพม่าได้ไกลถึงทะเลอันดามันเลยค่ะ บริเวณเนินช้างศึกนี้ สามารถกางเต็นท์ได้ทั้งบริเวณพื้นหญ้า และบริเวณลานจอด ฮ. ด้านบนมีที่จอดรถได้ปลอดภัย บริเวณนี้มีเพียงที่พักเจ้าหน้าที่ ตชด. และห้องสุขา ไม่มีบ้านพัก ร้านค้า […]
Read More