Tag: พิษณุโลก

พิพิธภัณฑ์ผ้า มหาวิทยาลัยนเรศวร

พิพิธภัณฑ์ผ้า มหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นพิพิธภัณฑ์ด้านผ้าไทย ตั้งอยู่บริเวณอาคารอเนกประสงค์ ภายในมหาวิทยาลัยนเรศวร ตำบลท่าโพธิ์ อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก พิพิธภัณฑ์ผ้า มหาวิทยาลัยนเรศวร จัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นศูนย์กลางการจัดแสดง อนุรักษ์ และพัฒนาผ้าไทยในเขตภาคเหนือตอนล่าง โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดพิพิธภัณฑ์ผ้า เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2542 ในปี พ.ศ. 2543 มหาวิทยาลัยนเรศวรได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เพื่อปรับปรุงพิพิธภัณฑ์ผ้า และก่อสร้างอาคารพิพิธภัณฑ์ชีวิต เพื่อเป็นศูนย์กลางการสาธิต และจัดแสดงกระบวนการผลิตผ้าและแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมอีกแห่งหนึ่งในภาคเหนือตอนล่าง โดยได้เล็งเห็นถึงศักยภาพ และความสำคัญของโครงการพิพิธภัณฑ์ผ้าว่าเป็นโครงการที่ก่อให้เกิดกิจกรรมทางการท่องเที่ยว รวมทั้งเป็นการขยายเครือข่ายของร้านจิตรลดาด้วย แต่เดิมพิพิธภัณฑ์ผ้าเป็นหน่วยงานหนึ่งในสังกัดสำนักงานอธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร ต่อมาในวันที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2552 สภามหาวิทยาลัยได้มีมติให้รวมศูนย์ศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยนเรศวร และพิพิธภัณฑ์ผ้าเข้าด้วยกัน โดยให้จัดตั้งเป็นหน่วยงานขึ้นใหม่คือ “สถานอารยธรรมศึกษาโขง-สาละวิน มหาวิทยาลัยนเรศวร” และให้พิพิธภัณฑ์ผ้าเป็นหน่วยงานหนึ่งของสถานอารยธรรมศึกษาโขง-สาละวินตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ประกอบด้วยห้องจัดแสดงนิทรรศการต่าง ๆ [adsense-2] ภายในพิพิธภัณฑ์ผ้าจัดแสดงผ้า ผลิตภัณฑ์จากผ้า ที่นำมาจากแหล่งต่าง ๆ ของประเทศไทยและต่างประเทศ ผ้าและวิถีชีวิตของชาวไทยครั่ง มีบริการข่าวสารและข้อมูลเกี่ยวกับการวิจัยและเอกสารเกี่ยวกับการผลิต […]

Read More

อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า

อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ตั้งครอบคลุมพื้นที่รอยต่อของสองจังหวัด คือ อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลยและอำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก ภูหินร่องกล้าอันเป็นพื้นที่เป็นแหล่งกำเนิดของประวัติศาสตร์การสู้รบอันยาวนานเป็นวีรกรรมของนักรบไทย ความขัดแย้งของลัทธิและแนวความคิดที่นำไปสู่ความสูญเสียเลือด ชีวิตและน้ำตา ภาพประวัติศาสตร์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ณ ที่แห่งนี้ ตลอดจนสภาพสิ่งก่อสร้างในอดีตจะถูกบันทึกเก็บรักษาไว้ เพื่อให้อนุชนรุ่นหลังได้ทำการศึกษาถึงผลของการใช้กำลังเข้าประหัตประหาร ความสูญเสียที่ประเมินค่ามิได้ อันเนื่องมาจากความขัดแย้งทางการเมืองความแตกแยก ความสามัคคีของคนในชาติ อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า มีเนื้อที่ประมาณ 307 ตารางกิโลเมตร หรือ 181,875 ไร่ ลักษณะภูมิประเทศ สภาพภูมิประเทศโดยทั่วไปเป็นเทือกเขาสลับซับซ้อน ประกอบด้วยยอดภูเขาที่สำคัญคือ ภูแผงม้า ภูขี้เถ้า ภูลมโล ภูหินร่องกล้า โดยมีภูลมโลเป็นยอดเขาที่สูงที่สุด สูงประมาณ 1 ,664 เมตรจากระดับน้ำทะเล เทือกเขาเหล่านี้จะมีความสูงลดหลั่นลงไปจากด้านทิศตะวันออกไปทางทิศตะวันตก และ เป็นแหล่งกำเนิดของแม่น้ำลำธารหลายสาย เช่น ห้วยลำน้ำไซ ห้วยน้ำขมึน ห้วยออมสิงห์ ห้วยเหมือดโดน และห้วยหลวงใหญ่ ลักษณะภูมิอากาศ ภูหินร่องกล้ามีสภาพภูมิอากาศคล้ายภูกระดึงและภูหลวงเนื่องจากมีความสูงไล่เลี่ยกันอากาศจะหนาวเย็นเกือบตลอดปี โดยเฉพาะในฤดูหนาวอุณหภูมิจะต่ำมากประมาณ 0-4 องศาเซลเซียส มีหมอกคลุมทั่วบริเวณ ส่วนฤดูร้อนอากาศจะเย็นสบายฝนตกชุกในฤดูฝน อุณหภูมิเฉลี่ยทั้งปี […]

Read More

สวนรุกขชาติสกุโณทยาน

“สวนรุกขชาติสกุโณทยาน” คือ สวนป่าซึ่งเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวเมืองพิษณุโลกมาช้านาน พื้นที่โดยทั่วไปเป็นที่ราบเนินเขา มี “ลำน้ำเข็ก” หรือที่เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “แม่น้ำวังทอง” ไหลผ่านทางด้านทิศใต้ สภาพป่าเป็นป่าเบญจพรรณและป่าเต็งรังมีเนื้อที่รวมทั้งหมด 814 ไร่ เดิมทีสวนรุกขชาติสกุโณทยานแห่งนี้เคยมีชื่อว่า “วนอุทยานวังนกแอ่น” โดยได้รับการจัดตั้งขึ้นเป็นวนอุทยานตั้งแต่ปี พ.ศ. 2497 – 2498 (สมัยจอมพล ป. พิบูลสงคราม ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี) ต่อมาเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2501 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จประพาสวนอุทยานวังนกแอ่นแล้วทรงพระกรุณาโปรดเกล้าพระราชทานนาม “สกุโณทยาน” แทนคำว่า “วังนกแอ่น” ซึ่งเคยใช้อยู่เดิม แต่นั้นมาวนอุทยานวังนกแอ่นจึงเปลี่ยนชื่อเป็น “วนอุทยานสกุโณทยาน” สิ่งที่น่าสนใจภายในสวนรุกขชาติสกุโณทยาน 1. น้ำตกสกุโณทยาน เป็นน้ำตกชั้นเดียวขนาดใหญ่มีความสูงประมาณ 10 เมตร กว้างประมาณ 60 เมตร และเป็นส่วนหนึ่งของลำน้ำเข็ก (ตัวน้ำตกกั้นขวางตลอดแนวความกว้างของลำน้ำเข็ก) เดิมน้ำตกแห่งนี้เคยมีชื่อว่า “น้ำตกวังนกแอ่น” ต่อมาภายหลังได้มีการเปลี่ยนชื่อไปตามชื่อของวนอุทยานฯ (เมื่อปี พ.ศ. […]

Read More

น้ำตกลอดรู

“น้ำตกลอดรู” ลักษณะน้ำตกไหลลอดช่องหิน เป็นรูขนาดประมาณ 1 เมตร ด้วยความสูงกว่า 10 เมตร ตกกระแทกพื้นหินด้านล่าง ทำให้น้ำกระเซ็นเป็นฝอย จากนั้นไหลเป็นธาร หากนักท่องเที่ยวได้ไปชม จะต้องไต่หน้าผาหินและข้ามลำธารที่เชี่ยวกราก แต่เมื่อพบเห็น “น้ำตกลอดรู” รับรองว่าหายเหนื่อย เป็นน้ำตกแห่งใหม่ที่พบบริเวณอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า จำนวน 5 แห่ง หลังปีนี้เกิดฝนตกชุกมาหลายเดือน โดยน้ำตกขนาดใหญ่สุดที่พบ คือ น้ำตกที่เรียกกันเบื้องต้นว่า “น้ำตกลอดรู” ลักษณะน้ำตกไหลลอดช่องหิน เป็นรูขนาดประมาณ 1 เมตร ด้วยความสูงกว่า 10 เมตร ตกกระแทกพื้นหินด้านล่าง ทำให้น้ำกระเซ็นเป็นฝอย จากนั้นไหลเป็นธารน้ำ เนื่องจากยังไม่ได้ตั้งชื่ออย่างเป็นทางการ จำเป็นต้องตั้งชื่อไปตามภูมิประเทศไปพลางก่อน คือจะต้องลอดมุดรูเพื่อไปดูน้ำตก [adsense-2] การเดินทาง รถยนต์ จากในตัวเมืองของพิษณุโลก ต้องไปตามเส้นทางพิษณุโลก-หล่มสัก ระยะทาง 68 กม. ถึงสามแยกบ้านแยง จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าสู่อำเภอนครไทย ระยะทาง 29 กม. และต้องเดินทางต่อด้วยรถสองแถวประมาณ 28 กม. “น้ำตกลอดรู” อยู่หลังบ้านพักภูหมันขาว ที่พักของอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า […]

Read More

น้ำตกร่มเกล้า-ภราดร

น้ำตกร่มเกล้า – ภราดร เป็นน้ำตกฝาแฝดซึ่งมีความสวยงามโดยมี “น้ำตกร่มเกล้า” เป็นน้ำตกชั้นบน และ “น้ำตกภราดร” เป็นน้ำตกชั้นล่าง ตั้งอยู่ท่ามกลางป่าทึบแวดล้อมไปด้วยแมกไม้นานาพันธุ์ ก้อนหินน้อยใหญ่รอบตัวน้ำตกปกคลุมไปด้วยมอส – ตะไคร่น้ำสีเขียวชอุ่ม ในช่วงฤดูฝนน้ำตกทั้งสองแห่งนี้จะมีปริมาณน้ำมากและไหลแรงไม่เหมาะแก่การลงเล่นน้ำ ส่วนในช่วงฤดูหนาว – ฤดูร้อนน้ำตกทั้งสองแห่งจะมีปริมาณน้ำน้อยจนไม่สามารถลงเล่นน้ำได้ เพราะฉะนั้นนักท่องเที่ยวซึ่งเดินทางมายัง “น้ำตกร่มเกล้า – ภราดร” ส่วนใหญ่จะทำได้แค่ชมทัศนียภาพของตัวน้ำตกเท่านั้น ฤดูการท่องเที่ยวน้ำตกร่มเกล้า-ภราดร  ปลายฤดูฝน-ต้นฤดูหนาว [adsense-2] การเดินทาง รถยนต์ จากตัวเมืองพิษณุโลกใช้ทางหลวงหมายเลข 12 พิษณุโลก-หล่มสัก เลี้ยวซ้ายที่บ้านแยงบริเวณกิโลเมตรที่ 68 เข้าทางหลวงหมายเลข 2013 ไป 28 กิโลเมตร ถึงอำเภอนครไทย จากนั้นเลี้ยวขวาตามทางหลวงหมายเลข 2331 ไปอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าอีก 31 กิโลเมตร ทางลงสู่ตัวน้ำตกร่มเกล้า – ภราดร ตั้งอยู่ริมทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2331 ห่างจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวภูหินร่องกล้าประมาณ 3 กม. นักท่องเที่ยวสามารถจอดรถยนต์บริเวณข้างทางแล้วเดินเท้าต่อไปตามเส้นทางลงเขาอีกประมาณ 800 เมตรก็จะถึงตัวน้ำตก ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ตู้ […]

Read More

น้ำตกปอย

น้ำตกปอย ตั้งอยู่ที่ หมู่บ้านปากน้ำปอย อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก ระหว่าง กม. ที่ 59 – 60 ทางหลวงหมายเลข 12 เป็นน้ำตกที่ตั้งอยู่ในสายลำน้ำเข็ก ไหลผ่านลดหลั่นตามหินผาธรรมชาติเป็นชั้น ๆ ลักษณะเป็นแก่งและเป็นผาหินสูงชันประมาณ 20 เมตร เป็นน้ำตกที่ตั้งอยู่กลางชุมชนทั้งสองฝั่งริมน้ำเข็ก ก็คือหมู่บ้านปากน้ำปอย, บ้านน้ำพรม, บ้านป่ามะกรูด ที่ยังคงใช้ชีวิตอยู่กับน้ำตกแห่งนี้มาตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบัน เป็นน้ำตกที่มีทัศนียภาพสวยงามมีทั้งธรรมชาติที่สมบูรณ์และชุมชนที่อยู่แบบอนุรักษ์ธรรมชาติ สภาพโดยรอบ ร่มรื่นเต็มไปด้วยต้นไม้เหมาะสำหรับเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ เป็นอย่างยิ่ง .. เปิดให้เข้าชมได้ทุกวันตั้งแต่เช้าจรดเย็น การเดินทางมาท่องเที่ยวก็มาได้ทุกฤดูกาล แต่ที่เหมาะที่สุดคือในหน้าร้อนเลย คือตั้งแต่เดือนธันวาคม-เมษายน เพราะกระแสน้ำไม่แรงและน้ำจะใสสะอาด ลงเล่นได้อย่างสบายใจ ในหน้าฝนกระแสน้ำค่อนข้างจะเชียวกราดและสายน้ำจะออกสีเหลืองขุ่นเล็กน้อยไม่สามารถลงน้ำเล่นใกล้ตัวน้ำตกได้ แต่ในหน้าร้อน น้ำจะไหลไม่แรงและสายน้ำจะเปลี่ยนเป็นสีขาวสดใส สามารถเล่นน้ำได้ทั่วทั้งบริเวณ และปลายน้ำตกยังมีสุมทุมพุ่มไม้ให้นักท่องเที่ยวได้จับจองร่มเงาเพื่อปิกนิคและเล่นน้ำได้ ภายในสวนธรรมชาติบริเวณใกล้ๆน้ำตก จะมีอาคารขนาดใหญ่ สำหรับให้นักท่องเที่ยวได้นั่งพักผ่อนทานอาหาร เมื่อเข้าไปภายในสวนธรรมชาติก็รู้สึกถึงอากาศที่แตกต่างจากข้างนอก รู้สึกเย็นสบาย คลายร้อนได้เป็นอย่างดี [adsense-2] ห่างออกไปทางช่วงปลายของน้ำตกปอยประมาณ 400 – 500 เมตรเป็นที่ตั้งของ “สวนป่าเขากระยาง” สวนป่าซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ […]

Read More

น้ำตกแก่งโสภา

น้ำตกแก่งโสภา หรือที่นักท่องเที่ยวบางกลุ่มเรียกว่า “ไนแองการ่าเมืองไทย” เป็นน้ำตกขนาดใหญ่สูงประมาณ 40 เมตร มีชั้นย่อย ๆ ทั้งหมด 3 ชั้น ด้านบนมีลักษณะเป็นแผ่นหินขนาดใหญ่วางขวางอยู่กลางทางน้ำ ด้านล่างมีโขดหินขนาดย่อมกระจายตัวอยู่ทั่วไป ในช่วงฤดูฝนสายน้ำสีโคลนของน้ำตกแก่งโสภาจะไหลแรงเชี่ยวกรากจนไม่สามารถลงเล่นน้ำได้ ส่วนในช่วงฤดูหนาว – ฤดูร้อนสายน้ำจะลดระดับความรุนแรงลงจนสามารถมองเห็นชั้นทั้ง 3 ของน้ำตกแก่งโสภาได้ชัดเจน นักท่องเที่ยวสามารถเดินตามบันไดลงไปยังจุดชมทิวทัศน์ด้านหน้าตัวน้ำตกเพื่อชื่นชมความงดงามแบบเต็ม ๆตาได้ (ในช่วงฤดูฝนจะมีการกั้นรั้วไม่ให้นักท่องเที่ยวเดินลงบันไดผ่านไปยังจุดชมทิวทัศน์ด้านหน้าน้ำตกแก่งโสภา เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายจากการลื่นล้ม หรือถูกกระแสน้ำด้านหน้าตัวน้ำตกพัดปลิวไป) [adsense-2] โดยรอบบริเวณน้ำตกแก่งโสภามีแมกไม้น้อยใหญ่ขึ้นยืนต้นกางกิ่งใบให้ร่มเงาครึ้ม บางต้นก็งอกรากปกคลุมซอกหลืบระหว่างหินใหญ่จนดูคล้ายกับฉากของภาพยนตร์ผจญภัยในดินแดนมหัศจรรย์ “ศาลเจ้าพ่อ – ศาลเจ้าแม่” เล็ก ๆที่ตั้งอยู่ระหว่างบันไดทางลงสู่จุดชมทิวทัศน์ด้านหน้าตัวน้ำตกก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งซึ่งช่วยเสริมบรรยากาศให้เกิดความรู้สึกลึกลับชวนให้ค้นหา พืชจำพวกมอสและตะไคร่น้ำแพร่ขยายพันธุ์ไปทั่วพื้นผิวอันชื้นแฉะราวกับพรมกำมะหยี่สีเขียวสด ท่ามกลางธรรมชาติอันงดงามหากเพียงคุณลองหยุดคุยหยุดพูดกับญาติสนิทมิตรสหายซึ่งเดินทางมาด้วยกันแล้วเงี่ยหูฟังสรรพสิ่งต่าง ๆ รอบ ๆกาย คุณก็อาจจะได้ยินเสียงของเหล่าแมลงและเสียงของเหล่านกตัวน้อยร้องระงมแข่งกับเสียงซู่ซ่าของน้ำตกแก่งโสภาอยู่ไม่ไกล…..ณ สถานที่แห่งนี้…..ความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่ายังคงหล่อเลี้ยงสรรพชีวิตจำนวนมากมายให้ดำรงอยู่ได้ด้วยความอาทร ช่วงเวลาน่าเที่ยว สามารถท่องเที่ยวได้ทั้งปีแต่ช่วงฤดูกาลที่เหมาะสม คือ กลางเดือน พ.ย. – ต้นเดือน ก.พ. (ช่วงฤดูฝนจะมีการกั้นทางเดินสู่จุดชมทิวทัศน์ด้านหน้าตัวน้ำตกแก่งโสภาไม่ให้นักท่องเที่ยวผ่าน ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถชมทิวทัศน์ได้จากด้านบนตัวน้ำตกเท่านั้น) สิ่งอำนวยความสะดวก มีร้านค้า ร้านอาหารใกล้บริเวณน้ำตกให้บริการ แต่ร้านจำหน่ายอาหารเหล่านี้มักจะเปิดขายเฉพาะในช่วงวันหยุดเสาร์ – อาทิตย์ หรือช่วงวันหยุดนักขัตฤกษ์ต่าง […]

Read More

เที่ยว พิษณุโลก

พิษณุโลก “พระพุทธชินราชงามเลิศ ถิ่นกำเนิดพระนเรศวร สองฝั่งน่านล้วนเรือนแพ หวานฉ่ำแท้กล้วยตาก ถ้ำและน้ำตกหลากตระการตา” เทศกาล/ประเพณี งานสมเด็จพระนเรศวรมหาราชและงานกาชาด จัดเป็นประจำทุกปีในช่วงเดือนมกราคม ณ ศาลากลางจังหวัด งานนมัสการพระพุทธชินราชหรืองานวัดใหญ่เดือน 3  จัดเป็นประจำทุกปีในวันขึ้น 6-12 ค่ำ เดือน 3 (ช่วงเดือนกุมภาพันธ์) ณ วัดพระศริรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร อ.เมือง งานประเพณีแข่งขันเรือยาวชิงถ้วยพระราชทาน จัดเป็นประจำทุกปีในช่วงเดือนกันยายน บริเวณลำน้ำน่าน หน้าวัดพระศริรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร อ.เมือง การเดินทาง รถทัวร์ จากสถานีขนส่งหมอชิต 2 มีรถเที่ยว เวลา 07:00 – 23:00 น. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง ค่าโดยสารประมาณ 237-473 บาท ข้อมูลเพิ่มเติมโทร 1490 รถตู้ ขึ้นรถที่บริเวณตรงข้ามสถานีขนส่งหมอชิต 2 มีรถออกทุก 1.30 ชั่วโมง เวลา 05:00 – 01:00 น. ค่าโดยสารประมาณ 280 บาท และที่อนุสาวรีย์ชัยฯ […]

Read More