หลุมเมือง ตั้งอยู่ที่ ซอยเทศบาล 10 ต.ศรีมหาโพธิ์ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี มีลักษณะเป็นหลุมรูปทรงกระบอก ขุดลงไปบนพื้นศิลาแลงธรรมชาติ เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 0.40 เมตร ลึกประมาณ 0.50 เมตร เรียงกันเป็นแนวคล้ายเตาขนมครก โดยแต่ละหลุมห่างกันประมาณ 1.00 เมตร ตั้งอยู่ในเขตเมืองนางอมรเทวี หรือที่บ้านโคกขวาง ตำบลหนองโพรง หลุมเหล่านี้ชาวบ้านโดยทั่วไปเรียกว่าหลุมเมือง เหตุที่ได้ชื่อว่าหลุมเมือง เนื่องจากมีลักษณะคล้ายหลุมสำหรับเล่นกีฬาพื้นบ้าน เรียกกันว่า การเล่นหลุมเมือง ซึ่งนิยมเล่นกันในเทศกาลสำคัญช จากการขุดแต่งทางโบราณคดี พบหลุมเมืองทั้งสิ้น 115 หลุม อยู่เรียงกันเป็นกลุ่มใหญ่สองกลุ่มคือ กลุ่มทางทิศตะวันออกมีอยู่ 50 หลุม กลุ่มทางทิศตะวันตกมี 65 หลุม ทั้งสองกลุ่มมีหลุมเมืองเรียงกันเป็นแนวตะวันออกเฉียงเหนือ ตะวันตกเฉียงใต้ แต่ละหลุมอยู่ห่างกันประมาณ 1 เมตร กลุ่มหลุมทางทิศตะวันตก จะตื้นกว่าหลุมทางด้านทิศตะวันออก ข้อสันนิษฐานเรื่องหลุมเมือง จากเดิมที่ว่าเป็นครกตำข้าว หรือหลุมโขลูกปูน เมื่อได้มีการตรวจสกบทางกายภาพแล้ว ทำให้ข้อสันนิษฐานทั้งสองประการตกไป จึงนำมาสู่ข้อสันนิษฐานที่ว่า เป็นหลุมที่ใช้ในการละเล่นหลุมเมือง ซึ่งยังมีการเล่นอยู่บ้างในบางพื้นที่ เช่น ที่ตำบลเมืองเก่า อำเภอกบินทร์บุรี แต่ก็ไม่พบร่องรอยว่า จะเป็นหลุมเพื่อใช้ในการนี้ และอีกข้อสันนิษฐานที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุดคือ เป็นหลุมเสาของสิ่งก่อสร้างด้วยไม้ ส่วนอายุของหลุมเหล่านี้ […]
Read MoreCategory: ภาคตะวันออก
สวนนงนุช สำหรับใครที่ชอบแคมป์ปิ้งและกิจกรรมกลางแจ้ง มาที่นี่รับรองไม่ผิดหวังค่ะ สวนนงนุช ตั้งอยู่เลขที่ 381 หมู่ 2 (ใช้เส้นทางสายกบินทร์บุรี-โคราช 30 นาที) ต.ทุ่งโพธิ์ ปราจีนบุรี เป็นรีสอร์ทที่รวบรวมความหลากหลายในเนื้อที่กว่า 2,000 ไร่ มีพื้นที่ติดกับเขาใหญ่มีพรรณไม้ดอกไม้ประดับนานาชนิดสวนสวย แปลกตา และหลากหลายกิจกรรมกลางแจ้ง ไร่ สามารถกางเต็นท์สัมผัสกับอากาศบริสุทธิ์พร้อมรับโอโซนระดับ 10 และมีกิจกรรมมากมายอาทิเช่น จักรยาน พายเรือ โหนสลิง พร้อมชมสวนสัตว์ อาทิ นกกระจอกเทศ กวางดาว นกอีมู ช่วงเวลาทีเ่ปิดให้บริการ เปิดบริการเวลา 08.00- 18.00น. [adsense-2] ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม สวนนงนุช โทร. (037) 401 371 ,(081) 869 8474 ตำรวจท่องเที่ยว 1155 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคกลางเขต 8 กลุ่มจังหวัดเบญจบูรพาสุวรรณภูมิ โทรศัพท์ (037) 312 282, (037) 312 284 โทรสาร (037) […]
Read Moreกลุ่มโบราณสถานสระมรกต ไปเยือนถิ่นทวารวดี บูชารอยพระพุทธบาทคู่กันค่ะ กลุ่มโบราณสถานสระมรกต ตั้งอยู่ที่วัดสระมรกต ตำบลโคกไทย อำเภอศรีมโหสถ จังหวัดปราจีนบุรี เป็นกลุ่มโบราณสถานทางพุทธศาสนาขนาดใหญ่ ที่สร้างซ้อนทับกันหลายสมัย เริ่มตั้งแต่ก่อนพุทธศตวรรษที่ 14 เป็นต้นมาจนถึงพุทธศตวรรษที่ 18 ประกอบด้วยสิ่งก่อสร้างศิลาแลงและอิฐ ส่วนใหญ่คงเหลือเฉพาะรากฐานอาคารเท่านั้น ระหว่างการขุดแต่งได้ค้นพบรอยพระพุทธบาทคู่สลักอยู่บนศิลาแลง ที่ฝ่าพระบาทสลักรูปธรรมจักรนูนทั้งสองข้าง และยังมีการสลักรูปกากบาท โดยที่ตรงกลางมีหลุมสำหรับใช้ปักเสา สันนิษฐานว่ามีไว้เพื่อปักฉัตรหรือร่ม สิ่งที่น่าสนใจ 1. รอยพระพุทธบาทคู่ ยุคทวารวดี ราว 1,500 ปีมาแล้ว สลักบนพื้นศิลาแลง คาดว่าสร้างขึ้นครั้งแรกสมัยทวารวดีถึงสมัยลพบุรี นับเป็นรอยพระพุทธบาทที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย 2. ซากสุคตาลัย เป็นศาสนสถานประจำ “อโรคยศาล” สร้างทับพุทธสถานที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทคู่ซึ่งมีมาก่อน สุคตาลัย หมายถึงที่ประทับพระพุทธเจ้า ในที่นี้คือพระไภสัชยคุรุ (พระพุทธเจ้าที่ทรงเป็นแพทย์ ตามคติมหายาน) อยู่ปราสาทประธาน มีกำแพงล้อมรอบรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า อโรคยศาล หมายถึงศาลาไร้โรค (บางคนเรียกโรงพยาบาล แต่ไม่ใช่) เป็นสถานบำบัดผู้เจ็บไข้ได้ป่วยด้วยสมุนไพร สร้างด้วยไม้ อยู่ภายนอกกำแพงสุคตาลัย 3. สระบัวล้า อยู่ใกล้รอยพระพุทธบาทคู่ ไปทางด้านเหนือ ชาวพวนเรียกชื่อบัวล้า เพี้ยนคำเขมรว่า บาราย […]
Read Moreวัดต้นโพธิ์ศรีมหาโพธิ ตั้งอยู่ที่ ตำบลโคกปีบ อำเภอศรีมโหสถ จังหวัดปราจีนบุรี ภายในวัดมีต้นโพธิ์ที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย ที่เชื่อว่าเป็นต้นโพธิ์ที่เป็นหน่อจากต้นพระศรีมหาโพธิ์ สถานที่ตรัสรู้จากพุทธคยา ประเทศอินเดีย มีอายุกว่า 2,000 ปี ซึ่งนำเข้ามาปลูกเป็นต้นแรก ต้นโพธิ์ต้นนี้มีขนาดเส้นรอบวงของลำต้น 20 เมตร สูง 30 เมตร มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 25 เมตร นอกจากนี้ยังมีพระเจดีย์ประธานของวัดที่จำลองแบบจาก เจดีย์พทธคยา มีลายปูนปั้นรูปเทวดาซึ่งงดงามมากที่ผนังด้านนอกของห้องคูหาส่วนฐานพระเจดีย์ด้วย สำหรับ ต้นศรีมหาโพธิ์ ที่ปลูกไว้ที่วัดแห่งนี้เชื่อกันว่า เป็นต้นแรกของสยามประเทศ เนื่องจากจังหวัดปราจีนบุรีเคยเมืองโบราณสมัยก่อนประวัติศาสตร์ ก็คือเมืองศรีมโหสถ ซึ่งในอดีตเป็นเมืองโบราณขนาดใหญ่ที่มีความสำคัญมากเมืองหนึ่ง ลักษณะเมืองเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ามุมค่อนข้างรี มีการพัฒนาทางศิลปวัฒนธรรมมาโดยลำดับ ตั้งแต่ก่อนพุทธศตวรรษที่ 11 เนื่องจากเป็นเมืองท่าชายทะเล จึงมีการติดต่อค้าขายแลกเปลี่ยนสินค้าทั้งกับจีนและอินเดีย ได้รับอิทธิพลทางวัฒนธรรมฟูนัน มีสมณฑูตจากอินเดียที่มาเผยแผ่พระศาสนา ตามตำนานกล่าวว่าเมื่อราว พ.ศ.500 พระเจ้าทวานัมปะยะดิษฐ์ เจ้าครองเมืองศรีมโหสถในสมัยขอมเรืองอำนาจทรงเลื่อมใสในพุทธศาสนา จึงได้ส่งคณะทูตเดินทางไปขอกิ่งต้นโพธิ์จากพระศรีมหาโพธิ์ พุทธคยาประเทศอินเดียซึ่งเป็นต้นโพธิ์ที่พระพุทธเจ้าทรงประทับบำเพ็ญธรรมจนสำเร็จตรัสรู้ เป็นสัมมาสัมพุทธเจ้า จากเจ้าผู้ครองนครปาตุลีบุตร ประเทศอินเดีย แล้วนำกิ่งโพธิ์นั้นมาปลูกที่วัดต้นโพธิ์ศรีมหาโพธิ์ ปัจจุบันมีอายุกว่า 2,000 ปี ต้นโพธิ์ต้นนี้มีขนาดเส้นรอบวงของลำต้น 20 เมตร […]
Read Moreพิพิธภัณฑ์อยู่สุขสุวรรณ์ ไปย้อนวันวาน ผ่านเรื่องเล่าของตะเกียงนับพันกันค่ะ พิพิธภัณฑ์อยู่สุขสุวรรณ์ ตั้งอยู่เลขที่ 135 ถนนปราจีนตคาม ตำบลดงขี้เหล็ก อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้ตั้งตามชื่อ-สกุลของ คุณณรงค์ อยู่สุขสุวรรณ์ หรือที่ชาวปราจีนบุรี เรียกว่า “เฮียพันธ์” ซึ่งแต่เดิมนั้นประกอบอาชีพรับซื้อขายของเก่าจำพวกเศษเหล็กและโลหะ ในช่วงแรกๆ จะมีตะเกียงเจ้าพายุติดมากับพวกเศษโลหะจำนวนมาก แต่ก็ยังไม่ได้ให้ความสนใจมากนักและยังขายไปในราคาเดียวกับเศษเหล็กด้วยซ้ำ แต่เมื่อมีคนมาซื้อได้ให้ราคาเป็นดวงซึ่งสูงกว่าการขายเป็นกิโลกรัมเหมือนเศษโลหะโดยให้ราคาดวงละ 50 บาท จึงได้คัดแยกไว้ขายให้คนที่ต้องการเพราะเริ่มมีคนสนใจมากขึ้นเพื่อที่จะนำไปตกแต่งให้สวยงามและขายต่อให้ชาวต่างประเทศในราคาสูง ราคาจึงพุ่งขึ้นถึงดวงละ 100 บาท นับเป็นราคาที่สูงมาก ในขณะนั้นคุณณรงค์จึงเริ่มสงสัยและถามผู้ที่มาซื้อจึงได้ทราบเรื่องและฉุกคิดขึ้นมาว่า หากขายออกไปจำนวนมากอาจทำให้ตะเกียงเจ้าพายุซึ่งเป็นตะเกียงที่มีเอกลักษณ์สวยงามและทนทานหมดไปจากประเทศไทยและคนรุ่นหลังอาจไม่รู้จักเพราะไม่เคยเห็นตะเกียงแบบนี้ จึงได้ตัดสินใจเริ่มสะสมโดยตะเกียงดวงแรก ก็คือตะเกียงขนาด 150 แรงเทียน แม้จะดูเหมือนตะเกียงเจ้าพายุทั่วไปแต่เป็นแบบดวงเล็กเห็นแล้วชอบจึงเก็บเอาไว้ และเริ่มมีตะเกียงแบบแปลกๆมากขึ้น และเพื่อนฝูง หรือคนรู้จักต่างก็ซื้อมาฝากด้วยสิ่งแรกที่เก็บสะสมจะเป็นตะเกียงแล้วจึงเริ่มสะสมสิ่งอื่นๆ ตามมาทีหลัง อาทิเช่น นาฬิกา จักรยาน ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ เป็นต้น ประกอบกับคุณวิภาวรรณ์ อยู่สุขสุวรรณ์ ซึ่งเป็นภรรยา คุณณรงค์ อยู่สุขสุวรรณก็เป็นคนที่ชอบสะสมตู้เก่า ตู้โบราณที่ทำจากไม้สัก จึงทำให้มีของเก็บสะสมจำพวกตู้มากขึ้น พอเก็บสะสมได้มากขึ้นก็มีคนขอเข้าชมโดยที่ทางเราก็ไม่ได้เก็บเงิน แต่ก็เกิดความไม่สะดวกแก่ผู้เข้าชมเพราะพื้นที่แคบ และของบางอย่างก็ไม่สามารถที่จะวางโชว์ได้ก็จะเห็นแต่ตะเกียงเพียงอย่างเดียวเวลาที่จะดูแลคนที่มาเยี่ยมชมก็มีน้อย เพราะจะต้องดูแลกิจการร้านสหพันธ์การค้าด้วย จึงมีความคิดที่จะสร้างพิพิธภัณฑ์ขึ้นเพื่อที่จะให้คนรุ่นหลังได้เห็นได้รู้จักและทราบถึงข้อมูลสิ่งของที่หาดูได้ยากเหล่านี้ ซึ่งสิ่งของที่จัดแสดงทั้งหมดนี้ใช้ระยะเวลาในการเก็บสะสมมากกว่า […]
Read Moreพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ปราจีนบุรี ตั้งอยู่ที่ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี เป็นอีกหนึ่งสถานที่สำคัญที่ต้องแวะชมเมื่อได้ไปถึงจังหวัดปราจีนบุรี เพราะเพื่อให้ได้ครบทุกบรรยากาศ ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติที่สวยงาม สถานที่ศักดิ์สิทธิ์แล้ว พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติปราจีนบุรีเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่เป็นทั้งแหล่งท่องเที่ยวเชิงการศึกษาที่ได้รวบรวมไว้ซึ่งสิ่งล้ำค่าประจำจังหวัดปราจีนบุรีรวมไปถึงจังหวัดอื่นๆที่ในปัจจุบันสามารถหาดูได้ยาก พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นพิพิธภัณฑสถานประเภทประวัติศาสตร์โบราณคดี ก่อตั้งขึ้นเพื่อเป็นศูนย์รวมของโบราณวัตถุในภูมิภาคตะวันออกและจังหวัดใกล้เคียง อาทิ ปราจีนบุรี สระแก้ว นครนายก ฉะเชิงเทรา ชลบุรี จันทบุรี ตราดและระยอง โดยเน้นการจัดแสดงที่เมืองศรีมโหสถเป็นสำคัญ ภายในอาคารจัดแสดงแบ่งออกเป็น 2 ชั้น ชั้นล่าง จัดแสดงประวัติศาสตร์โบราณคดีเมืองปราจีนบุรี โบราณคดีเมืองนครนายกและนิทรรศการพิเศษ ชั้นบน จัดแสดงศิลปะโบราณคดีในประเทศไทย โบราณคดีก่อนประวัติศาสตร์ในภาคตะวันออก โบราณคดีใต้น้ำรวมทั้งเครื่องถ้วยสังคโลกที่พบใต้ทะเลจากบริเวณเกาะคราม จังหวัดชลบุรี และนิทรรศการชั่วคราว โบราณวัตถุส่วนใหญ่ของที่นี่ได้มาจากเมืองโบราณสมัยทวารวดี อาทิ พระพุทธรูป เทวรูปเคารพในศาสนาฮินดู ศิวลึงค์ ทับหลัง เครื่องใช้สำริด จัดแสดงศิลปะสมัยต่าง ๆ ตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ต่อเนื่องจนถึงสมัยรัตนโกสินทร์ช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 เพื่อประโยชน์ในการศึกษาเปรียบเทียบ นอกจากนั้นยังจัดสถานที่ส่วนหนึ่งสำหรับนิทรรศการชั่วคราวในโอกาสต่าง ๆ ด้วย [adsense-2] ช่วงเวลาที่เปิดให้เข้าชม เปิดให้เข้าในชมวันพุธถึงวันอาทิตย์รวมถึงในวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น. โดยจะปิดทำการในวันจันทร์ […]
Read Moreโบราณสถานเมืองศรีมโหสถ ไปบูชารอยพระพุทธบาทคู่ 2,000 ปี เยือนถิ่นอารยธรรมทวารวดี ที่เมืองศรีมโหสถ ปราจีนบุรีกันค่ะ โบราณสถานเมืองศรีมโหสถ ตั้งอยู่ที่บ้านโคกวัด ตำบลโคกปีบ อำเภอศรีมโหสถ จังหวัดปราจีนบุรี เดิมนั้นชื่อว่าอำเภอโคกปีบ เป็นเมืองเก่าแก่มีอายุมากกว่า 1,200 ปีหรือพุทธศตวรรษที่ 6 เป็นต้นมา ในอดีตเคยเป็นเมืองท่าชายทะเลที่สำคัญ เป็นศูนย์กลางความเจริญทั้งด้านศิลปะ วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี และศาสนาพุทธ โบราณสถานเมืองศรีมโหสถเป็นเมืองโบราณสมัยทวารวดีขนาดใหญ่ มีลักษณะเป็นรูปไข่ หรือสี่เหลี่ยมผืนผ้ามุมมน มีเนื้อที่ประมาณ 700 ไร่ ลักษณะของเมืองมีคูเมือง และคันดินกำแพงเมืองล้อมรอบคูน้ำ ภายในเมืองมีโบราณสถาน เนินดิน สระน้ำ บ่อน้ำ กระจัดกระจายอยู่ทั่วไปกว่า 100 แห่ง สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยทวารวดี หลักฐานส่วนใหญ่ที่พบมักจะเกี่ยวเนื่องกับศาสนาพราหมณ์หรือฮินดู เช่น เทวาลัย เทวรูป ศิวลึงค์ โบราณสถานที่สำคัญในเมืองศรีมโหสถประกอบด้วย กลุ่มโบราณสถานกลางเมือง อายุราวพุทธศตวรรษที่ 18 เป็นหมู่เทวาลัย ฐานก่อด้วยศิลาแลง ด้านบนก่อด้วยอิฐ ด้านหลังมีบ่อน้ำก่อด้วยศิลาแลง โบราณวัตถุที่ขุดพบ ได้แก่ เทวรูปต่าง ๆ […]
Read Moreโบราณสถานพานหิน ตั้งอยู่ในพื้นที่บ้านโคกขวาง ตำบลหนองโพรง อ.ศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี ลักษณะเป็นโบราณสถานขนาดใหญ่ก่อด้วยศิลาแลง แผนผังโบราณสถานพานหินแห่งนี้เป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาดกว้างยาวด้านละ 15.5 เมตร สูง 3.5 เมตร มีมุขยื่นออกมาทั้งสี่ด้าน ที่มุขด้านทิศเหนือมีร่องรอยหลุมเสา ทุกด้านลักษณะก่อสร้างเป็นชั้นๆ มีบัวคว่ำ บัว หงาย และบัวหน้ากระดาน ตอนบนมีลักษณะเป็นห้องๆ มีคอระฆังหรือฐานปติมากรรมวางอยู่ และได้พบพระหัตถ์พระวิษณุ ทรงสังห์หินทรายเขียวและเศษภาชนะดินเผา นักโบราณคดี นักประวัติศาสตร์เชื่อว่าอาจเป็นเสาบันไดไม้ขึ้นตัวอาคารของโบราณสถานพานหิน ด้านบนของอาคารพบหลุมเสาซึ่งสันนิษฐานว่าเป็นเสาของอาคารเครื่องไม้มุงหลังคา และพบแท่งศิลาแลงทรงกลมสลักเป็นรูปเชิงบาตร ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1 เมตร สันนิษฐานว่าประดิษฐานเทวรูป พระนารายณ์ มีอายุในราวพุทธศตวรรษที่ 12-14 ในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 1 แห่งเจนละ ตรงกลางของซากเทวาลัยมีฐานของเทวรูปซึ่งแต่เดิมตะแคงอยู่ลักษณะคล้ายพาน จึงเรียกว่า “พานหิน” นอกจากนี้ยังพบศิลาแลงทรงกลม สกัดเป็นรูปฐานเชิง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ เสด็จทอดพระเนตรโบราณสถานแห่งนี้เมื่อปี พ.ศ. 2451 โดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้เสด็จประพาสโบราณสถานพานหินแห่งนี้เมื่อปี พ.ศ. 2451 ทรงสันนิษฐานว่าแท่งศิลาแลงทรงกลมบนตัวอาคารนั้นน่าจะเป็นฐานเทวรูป ซึ่งเมื่อได้มีการขุดแต่งทางโบราณคดีในสมัยต่อ ๆ มา ณ โบราณสถานพานหินแห่งนี้ ในปี […]
Read Moreน้ำตกฟองสบู่ ไปเดินป่า นอนอาบแสงจันทร์ข้างธารน้ำตกกันค่ะ น้ำตกฟองสบู่ตั้งอยู่หมู่ที่ 8 ต.บุฝ้าย อำเภอประจันตคาม จังหวัดปราจีนบุรี อยู่ห่างจากถนนสุวรรณศรประมาณ 20 กม. อยู่ในการดูแลของหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ 10 เป็นน้ำตกที่สวยงามตามธรรมชาติมากเป็นน้ำตกสูง เวลาตกลงแตกเป็นฟองสบู่ น้ำใสสะอาดสามารถลงเล่นได้ บริเวณรอบๆ เขียวขจีด้วยแมกไม้นานาชนิด ให้ความร่มรื่น เหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจเป็นอย่างยิง น้ำตกแห่งนี้นักท่องเที่ยวนิยมมากางเต็นท์ริมน้ำตก ทำอาหารทานกันกลางป่า ซึมซับวิถีธรรมชาติท่ามกลางป่าเขาเขียวชะอุ่มค่ะ ช่วงที่เป็นน้ำตกฟองสบู่นี้เป็นลานหินกว้าง เหนือลานหินเป็นเหมือนเขื่อนธรรมชาติที่หินทรายช่วงนี้เป็นเหมือนขอบคูกั้นน้ำไว้ แล้วปล่อยที่ล้นให้ไหลมาตามร่องหินก่อนจะตกลงไปจากหน้าผากลายเป็นน้ำตกเล็กๆ สองฝั่งลานหินเป็นชายป่า ด้านหนึ่งเป็นป่าดิบมีต้นไม้พวกไม้ยาง ไม้ตะเคียน ฯลฯ ขึ้นสูง อีกฝั่งค่อยๆลาดเอียงขึ้นไปเป็นไม้พุ่มและป่าไผ่รวก บรรยากาศที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติท่ามกลางป่าเขา ทำให้เป็นที่หลงไหลของนักท่องเที่ยวที่นิยมการเดินป่าไม่น้อยเลยทีเดียวค่ะ [adsense-2] ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ 10 โทร. (0 17) 554 852, (0 99) 135 058 ตำรวจท่องเที่ยว 1155 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคกลางเขต 8 กลุ่มจังหวัดเบญจบูรพาสุวรรณภูมิ โทรศัพท์ (037) […]
Read Moreน้ำตกตะคร้อ ตั้งอยู่ที่บ้านตะคร้อ ตำบลบุฝ้าย น้ำตกตะคร้อ อยู่ห่างจากด่านตะคร้อ ประมาณ 500 เมตร เป็นน้ำตกที่มีลักษณะเป็นแก่งน้ำกว้าง มีสะพานแขวนทอดข้ามน้ำตกตะคร้อ ฝั่งซ้ายของลำธารเป็นเนินเขา ส่วนทางด้านฝั่งขวาเป็นป่าโปร่ง เหมาะแก่การพักผ่อน เนื่องจากน้ำตกตะคร้อนั้นอยู่ภายในป่า (ไม่ถึงกับดงดิบ) การเดินทางจึงต้องเดินเท้าเข้าไประยะทางคร่าว ๆ ไม่น่าจะถึงหนึ่งกิโลเมตร ระหว่างเส้นทางสู่น้ำตกตะคร้อท่านจะได้ชมทัศนียภาพ ความสวยงามของธารน้ำที่ไหลเลียบเลาะไปเรื่อยๆ (จากทางเข้าให้เดินเลียบธารน้ำมาเรื่อย ๆ ไม่ต้องเลี้ยวซ้ายข้ามสะพาน มิเช่นนั้นท่านจะได้ไปเที่ยวเส้นทางศึกษาธรรมชาติแทนค่ะ) เมื่อมาถึงน้ำตกตะคร้อจะได้พบกับน้ำตกขนาดเล็ก แต่มีแอ่งน้ำตกขนาดใหญ่มาก ๆ เหมือนกับสระว่ายน้ำกลางธรรมชาติ บรรยากาศดีน่าลงเล่นน้ำมาก ๆ จากความสวยงาม ทัศนียภาพ และบรรยากาศของน้ำตกตะคร้อ ทำให้น้ำตกตะคร้อเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ชาวบ้านในชุมชนนิยมแวะมาพักผ่อนหย่อนใจกับทั้งครอบครัวในช่วงเย็น ๆ หลังเลิกงานหรือในวันหยุดพักผ่อน สำหรับนักท่องเที่ยวทุกท่านหากมีเวลาแวะผ่านมาที่จังหวัดปราจีนบุรี ก็สามารถแวะเที่ยวเยี่ยมเยียน น้ำตกตะคร้อกันได้ ถ้าไม่มาเล่นน้ำที่น้ำตกตะคร้อแห่งนี้ ก็แวะมาชมบรรยากาศยามเย็น ก่อนพระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้าไป แสงทองของดวงอาทิตย์ท่ามกลางพรรณไม้นานา เป็นอีกภาพบรรยากาศที่สวยงามน่าจดจำ จากน้ำตกตะคร้อมีทางเดินเท้าต่อไปอีกประมาณ 2 กิโลเมตร จะถึงน้ำตกสลัดได เป็นน้ำตกที่มีความสวยงาม หากจะเดินทางเข้าไปชมน้ำตกสลัดไดควรติดต่อขอเจ้าหน้าที่นำทางจาก หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ 10 ที่ตั้งอยู่บริเวณน้ำตกตะคร้อนะคะ [adsense-2] ช่วงเวลาที่เปิดให้เข้าชม เปิดให้เข้าชมทุกวัน […]
Read More