Month: March 2015

บ้านสุขาวดี

บ้านสุขาวดี ตั้งอยู่บ้านเลขที่ 219 หมู่ 2 ถนนสุขุมวิท ตำบลนาเกลือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ก่อนถึงพัทยาไม่ไกลนัก ทางฝั่งขวามือ ฝั่งเดียวกับทะเล เป็นคฤหาสน์ที่สุดแสนอลังการและ มีสีสันสดใสงดงาม สามารถมองเห็นบ้านหลังนี้ได้อย่างชัดเจนมาแต่ไกลเพราะตั้งอยู่ริมถนน สุขุมวิท อยู่ช่วง บางละมุงหลักกิโลเมตร ที่ 140 – 141 บ้านสุขาวดีเป็นบ้านของ ดร. ปัญญา โชติเทวัญ เจ้าของบ้านหลังนี้คือ เจ้าของธุรกิจสหฟาร์มเป็นผู้ส่งออกผลิตผลทางการเกษตรรายใหญ่ของไทย ตั้งอยู่ที่มีพื้นที่ กว่า 80 ไร่ บ้านสุขาวดี เกิดขึ้นมาจากพลังความคิด และความศรัทธาอันแรงกล้าของเจ้าของบ้าน และทีมงาน จากวิกฤตทางเศรษฐกิจ ต่างชาติได้ยึดกิจการของคนไทย เพื่อให้เห็นว่าคนไทยมีศักยภาพไม่แพ้ต่างชาติ ทำให้ เกิดปาฏิหาริย์สร้างบ้านหลังนี้ขึ้นมา เพื่อเป็นศักดิ์ศรีของคนไทยบ้านสุขาวดี จึงได้เริ่มก่อสร้างขึ้นในปี 2543 เป็นต้นมา บ้านสุขาวดี แปลว่า ดี ขาวดี สีของบ้าน เป็นสีชมพูและ ฟ้า สีชมพูเป็นสีแห่งความรัก ดั่งที่ว่า “ […]

Read More

ทิฟฟานี่โชว์

ทิฟฟานี่โชว์  ตั้งอยู่เลขที่ 464 หมู่ 9 ถ.พัทยาสายสอง ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เป็นคาบาเร่ต์คณะแรกของประเทศไทย และเอเชีย-แปซิฟิค เมื่อประมาณ 29 ปีมา แล้ว โดยเริ่มจากการละเล่นของกิจการบาร์เล็ก ๆ ณ พัทยาใต้ และได้รับความสนใจจากนักท่อง เที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศที่เข้ามาท่องเที่ยวในเมืองพัทยาจำนวนมาก หลังจากนั้น ทิฟฟานี่โชว์ก็ยังคงได้รับกระแสความนิยมอยู่เรื่อยๆ ส่งผลให้ทิฟฟานี่โชว์เป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมอย่างสูงสุดจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก สมกับที่ได้รับการขนานนามว่า “แม่แบบแห่งคาบาเร่ต์ไทย” (The Original Transvestite Cabaret) ทิฟฟานี่โชว์ไม่เคยหยุดการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ และยังคงพัฒนาต่อไป อย่างสม่ำเสมอ คุณภาพของการแสดงและการนำเสนอความบันเทิงเต็มรูปแบบเพื่อความสุขสรรแก่ผู้ชม เรายังคงความเป็นเอกลักษณ์ความงาม และความโดดเด่นทางศิลปะและวัฒนธรรม และพร้อมที่จะสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าทุกคนด้วยดีเสมอมา ทิฟฟานี่โชว์ มีจุดกำเนิดมาจากการแสดงแบบฉายเดี่ยวในงานเลี้ยงสังสรรค์เล็กๆ ช่วงปีใหม่ระหว่างกลุ่มเพื่อน ณ บาร์แถบพัทยาใต้เมื่อปี พ.ศ. 2517 ต่อมาก็ได้มีการรวมตัวของเพื่อนพ้องสาวประเภท 2 อีกจำนวน 2 คน (รวมทั้งหมดเป็น 3 คน) ตั้งกลุ่มขึ้นเพื่อเปิดการแสดงคาบาเร่ต์เป็นประจำในยามค่ำคืน หลังจากนั้นการแสดงของทิฟฟานี่ โชว์ พัทยาก็ค่อยๆ […]

Read More

เขาพระตำหนัก(ส.ทร.5)

เขาพระตำหนัก(ส.ทร.5) หรือเขาพระบาท ตั้งอยู่ที่อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เป็นภูเขาเตี้ยๆ คั่นอยู่ระหว่างชายหาดพัทยาใต้กับหาดจอมเทียน จุดชมวิวเขาพระตำหนักเป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นพัทยาในมุมสูงแบบ360 องศา ถือเป็นอีกจุดชมวิวที่สวยที่สุดของจังหวัดชลบุรี นอกจากนี้ตลอดสองข้างทางยังเต็มไปด้วยต้นไม้และดอกไม้นานาชนิดให้ได้ชมกันด้วยแต่ทั้งนี้ผู้ที่ขับรถไม่ชำนาญอาจต้องใช้ความระมัดระวังในการขับขี่อยู่บ้างเนื่องจากความลาดชันและทางโค้งแบบหักศอกในบางช่วงก่อนถึงยอดเขา บนยอดมีลานจอดรถแต่รองรับจำนวนรถได้ประมาณ 40-50 คัน เท่านั้นนะคะ เมื่อขึ้นไปจนถึงยอดเขาพระตำหนักแล้วสิ่งแรกที่เราสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนเป็นอันดับแรกก็คือเสาส่งสัญญาณและสถานีวิทยุส.ทร.5 ทหารเรือ (สถานีวิทยุกองทัพเรือ) ที่ตั้งตระหง่านอยู่บนจุดสูงสุดของยอดเขาและในบริเวณใกล้ๆกันนั้นยังมีร้านสวัสดิการสชย. พัทยาที่ มีบริการห้องพักราคาถูกคืนละ 600 บาท และร้านขายของที่ระลึกเล็กๆ น้อยๆ ให้ได้ซื้อติดไม้ติดมือตั้งอยู่และเมื่อเดินถัดเข้าไปก่อนถึงบริเวณจุดชมวิวจะมีร้านจำหน่ายดอกไม้ธูปเทียนและประทัดเพื่อให้ผู้ที่มาเที่ยวได้ซื้อ เข้าไปกราบไหว้ขอพรอนุสาวรีย์พระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ หลังจากกราบไหว้ขอพรกันเรียบร้อยแล้วเมื่อเราเดินไปยังบริเวณรอบๆจุดชม วิวเราจะแลเห็นทัศนียภาพของบริเวณเมืองพัทยาและอ่าวพัทยาได้โดยรอบซึ่งนัก ท่องเที่ยวจะมองเห็นรูปโค้งคล้ายวงพระจันทร์ของหาดพัทยารวมถึงความเจริญของ อาคารบ้านเรือนได้อย่างชัดเจนนอกจากนี้ในบริเวณจุดชมวิวยังได้จัดให้มีกล้องส่องทางไกลกำลังขยายสูงสีเหลืองสดใสให้นักท่องเที่ยวที่นิยมชมชอบการชมวิว แบบใกล้ๆได้ส่องกันอีกด้วย(หยอดเหรียญ 10 บาทนะคะ) และจากความสวยงามของจุดชมวิวเมืองพัทยาแห่งนี้จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่จะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากแวะเวียนขึ้นมาเที่ยวกันอย่างไม่ขาดสาย นอกจากนี้บริเวณเชิงเขาพระตำหนักยังได้จัดให้มีสวนเฉลิมพระเกียรติซึ่งมี เนื้อที่ประมาณ15 ไร่ที่ได้ถูกจัดสรรให้เป็นสวนสาธารณะสำหรับพักผ่อนและออกกำลังกายอีกด้วยและเป็นที่ตั้งของ ททท. สำนักงานพัทยา การมาเยือนที่นี่ถ้ามาได้ในช่วงเวลาใกล้ พระอาทิตย์ตกขอบอกได้เลยว่าบรรยากาศโรแมนติคสุดๆเลยค่ะ และนอกจากการชมวิวที่สวยงามแล้วก่อนกลับสามารถแวะไหว้พระทำบุญที่วัดพระบาท ซึ่งอยู่อีกด้านหนึ่งของยอดเขาพระตำหนัก มีลานจอดรถจุประมาณ 20-30 คันค่ะ [adsense-2] ช่วงเวลาที่เปิดให้เข้าชม เวลาที่เปิดให้เข้าไปยังจุดชมวิวคือ 7.00-22.00 น. ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม ที่พักของส.ทร.5 พัทยา สามารถสอบถามได้ที่ โทร. 038 556 956 […]

Read More

เกาะล้าน

เกาะล้าน ตั้งอยู่ที่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี อยู่ห่างจากชายฝั่งพัทยา 7 กิโลเมตร นั่งเรือโดยสาร 45 นาทีก็ถึง (นั่งกินลมชมวิวเพลิน ๆ) หากเดินทางโดยเรือเร็วจะใช้เวลาเพียง 15 นาทีเท่านั้น เกาะล้านมีพื้นที่ประมาณ 4 ตารางกิโลเมตร มีชายหาดที่สวยงามหลายแห่งส่วนใหญ่คึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวที่มาเล่นน้ำ ดูปะการัง เล่นกีฬาทางน้ำ เช่น เรือลากร่มชูชีพ เรือสกี สกู๊ดเตอร์ โดยเฉพาะที่หาดตาแหวน หาดทองหลาง หาดนวล และหาดเทียน ส่วนหาดแสมบรรยากาศเงียบสงบกว่าหาดอื่น บริเวณเกาะล้าน และเกาะเล็ก ๆ ที่อยู่รอบ ๆ เช่น เกาะครก และเกาะสาก เป็นแหล่งตกปลาดำน้ำดูปะการัง ทั้งแบบน้ำลึกและน้ำตื้น และเป็นสถานที่ฝึกหัดเรียนดำน้ำ สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจบนเกาะล้าน หาดตาแหวน อยู่ทางตอนเหนือของเกาะ เป็นหาดทรายยาวประมาณ 750 เมตร มีความงามทางธรรมชาติมาก เพราะมีหาดทรายที่ขาวสะอาดและน้ำทะเลใสสีคราม ปลายหาดทั้งสองด้านยังมีแนวปะการังในระดับน้ำตื้นที่มีสีสันสวยงาม อีกทั้งมีร้านจำหน่ายสินค้าที่ระลึกตั้งเรียงรายตลอดแนวชายหาด หาดสังวาลย์ เป็นหาดอีกหาดหนึ่งที่อยู่ติดกับหาดตาแหวนมีความยาว 150 เมตร […]

Read More

Art in paradise

Art in paradise เป็น พิพิธภัณฑ์ภาพจิตรกรรม 3 มิติ มีพื้นที่กว่า 5,800 ตารางเมตร แห่งเดียวในไทยที่เมืองพัทยา ที่ผู้เข้าชมสามารถสัมผัสงานศิลปะ ได้อย่างใกล้ชิด ถ่ายภาพกับภาพเขียนได้อิสระแปลกแหวกแนวกับศิลปะภาพวาดแบบ 3D เวลาถ่ายรูปออกมาเหมือนกับ ภาพเสมือนจริง ทะลุออกมา ขึ้นอยู่ว่าเราจะมีไอเดียเอาตัวเองไปอยู่ในภาพยังไง ซึ่งในแต่ภาพก็จะมีตัวอย่างการโพสต์ท่าติดไว้ ด้านข้างงานศิลปะแต่ละชิ้นเพื่อเป็นแนวทางให้นักท่องเที่ยวดูว่าจะโพสต์ท่าแบบใด หวังเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของพัทยา โดยพิพิธภัณฑ์ภาพจิตรกรรมสามมิติ มีนายชิน แจยอล ชาวเกาหลี เป็นผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์ เพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ แห่งใหม่ของพัทยาและประเทศไทย โดยเปิดให้ผู้มีใจรักศิลปะ ประชาชนทั่วไป และเด็กนักเรียนได้เข้ามาชมความงามและร่วมถ่าย ภาพศิลปะสามมิติที่เสมือนจริงและแปลกใหม่ ทำให้ผู้ชมกลายเป็นส่วนหนึ่งของงานศิลปะ หรือหลอมรวมเข้ากับภาพเขียนจนเป็น อันหนึ่งอันเดียวกับผลงานศิลปะเหล่านี้ ภายในแบ่งเป็นห้องแสดงงาน 10 ห้องภาพเพื่อจัดแสดงภาพให้เป็นหมวดหมู่ มีทั้ง ห้องลวงตา, ห้องใต้สมุทร, ห้องสัตว์ป่า, ห้องภาพจิตรกรรมของศิลปินระดับโลก, โถงอารยธรรม, ห้องศิลปะเหนือจริง, ห้องไดโนเสาร์, ห้องน้ำตกสูงชัน, ห้องวิวทิวทัศน์ และสุดท้ายห้องนิทรรศการศิลปะ ที่ตั้งใจเตรียมไว้สำหรับจัดแสดงผลงานทางศิลปะของศิลปินที่สนใจจะเข้าไปใช้พื้นที่ด้วย แนวคิดในการสร้าง Art in paradise […]

Read More

แหลมแท่น

แหลมแท่น  เป็นแหลมที่ยื่นออกไปในทะเล อยู่เลยหาดบางแสนมาทางเขาสามมุข เป็นสะพานเทียบเรือที่สร้างอย่างสวยงาม หากเป็นตอนกลางวันจะเห็นวิวได้สวย เป็นสถานที่พักผ่อนของครอบครัวหลายคนที่มาเที่ยวแหลมแท่นจะเดินชมรอบสะพานสักรอบก่อนเดินทางกันต่อไป ห้องภาพหรือสตูดิโอบางแห่งจะใช้สะพานแห่งนี้เป็นสถานที่ถ่ายภาพพรีเวดดิ้งด้วยค่ะ บริเวณนี้ในเวลากลางคืน ผู้คนมักจะเอาเสื่อมานั่งกินอะไรสบาย ๆ และยังมีมานั่งเล่นกีต้าด้วย น่าจะเป็นเพราะว่า บรรยากาศดีไม่มีแดด รวมถึงยังมีลมพัดเข้ามาตลอดและมีร้านสะดวกซื้อตั้งอยู่ใกล้ ๆ ทำให้ง่ายต่อการซื้อของกินที่ขาดเหลือได้อย่างง่ายดายเลย สำหรับช่วงเวลากลางวันหรือตอนเย็น ๆ น่าจะเป็นจุดที่คนมานั่งเล่นนั่งรับลมทะเล (กรณีไม่เล่นน้ำทะเล) เพราะมีเตียงผ้าใบ และคนขายอาหารเช่นเดียวกับบริเวณหาด นอกจากนี้บริเวณแหลมแท่นยังมีร้านอาหารมีชื่ออย่าง ครัวกังวาน และปะการังอยู่ด้วย ทำให้ดึงดูดลูกค้าที่ตามหาอาหารทะเลกินได้ไม่น้อย สิ่งที่น่าสนใจ ประติมากรรมรูปปลาโลมาแหลมแท่น โดดเด่นเป็นสง่าทั้งเวลากลางวันและกลางคืน เป็นสถานที่สำหรับพักผ่อนของหลายๆ คนโดยเฉพาะช่วงเวลาเย็นๆ รอบๆ มีบันไดเดินขึ้น ปกติจะมีนักท่องเที่ยวมานั่งล้อมตามบันได และใช้เป็นจุดนัดพบกัน ศาลาอเนกประสงค์ของแหลมแท่น ตรงปลายแหลมสร้างศาลาไว้ 3 หลังกับบริเวณที่เป็นระเบียงยื่นออกไปสำหรับพักผ่อนชมวิว และตกปลาของหลายๆ คน ศาลานี้อยู่ใกล้ๆ กับประติมากรรมปลาโลมา ลานอเนกประสงค์แหลมแท่น เป็นลานกว้างๆ เชื่อมต่อออกไปยังสะพาน มีพื้นที่สำหรับจอดรถที่สามารถจอดได้เป็นร้อยคัน ซึ่งในวันศุกร์และเสาร์พื้นที่ส่วนหนึ่งจะถูกใช้จัดเป็นถนนคนเดินบางแสนให้นักท่องเที่ยวได้เดินช็อป ชิมกันเพลินๆอีกด้วยค่ะ และยังมีห้องน้ำ ค่าบริการ 5 บาทให้ใช้บริการค่ะ [adsense-2] ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม ททท. ภาคกลาง […]

Read More

หาดวอนนภา

หาดวอนนภา ตั้งอยู่ที่ต.แสนสุข จ.ชลบุรี เป็นชายหาดตอนใต้ต่อจากหาดบางแสน มีบรรยากาศเงียบสงบ หาดวอนนภาจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของนักท่องเที่ยวที่หลีกหนึความพลุกพล่านของหาดบางแสนซึ่งอยู่ใกล้ๆกัน จุดเด่นของที่นี่คือในช่วงท้ายๆหาดจะมีลักษณะเป็นก้อนหินกั้นเป็นแนวยาวเป็นทาง และสุดปลายหาดวอนนภาคือสะพานปลาวอนนภาที่เป็นแหล่งทำมาหากินของชาวประมง ทุกๆวันจะมีเรือนำปลาที่หาได้จากทะเลมาขึ้นที่สะพานปลาแห่งนี้ หาดวอนนภาเมื่อเทียบกับบางแสนแล้วถือว่ามีคนรู้จักน้อยกว่า ผู้ที่มาท่องเที่ยวที่หาดวอนนภามักจะนำเสื่อมาปูนั่งกันเอง ช่วงต้นหาดยังพอมีเก้าอี้ผ้าใบบริการ ส่วนที่ปลายหาดจะเป็นแนวโขดหิน ช่วงเย็นๆมักจะมีผู้คนนิยมมานั่งทอดหุ่ยตามโขดหินเพื่อรอชมพระอาทิตย์ตกหลังสะพานปลา คนที่มาที่นี่มักไม่นิยมเล่นน้ำเพราะมีโขดหินะเยอะมาก ส่วนช่วงกลางคืนๆบริเวณหลังหาดจะกลายเป็นแหล่งแสงสีเสียง มีผับและบาร์อยู่โดยรอบ ติดกับหาดวอนนภาฝั่งทิศใต้คือสะพานปลาทอดยาวลงไปทะเลบางแสน จุดชิมวิวที่คุณไม่ควรพลาดหากมีโอกาสได้มาบางแสน สะพานปลาทอดยาวลงไปทะเลบางแสน ไม่ว่าคุณจะขี่รถจักรยาน มอเตอร์ไซต์ หรือแม้จะเดินชมวิว มันให้ความรู้สึกแบบว่า เหมือนคุณกำลังได้ปล่อยตัวปล่อยใจ เหมือนคุณลอยได้ มีเพียงแผ่นปูนซีเมนต์กั้นน้ำทะเลและท้องฟ้า ลมปะทะหน้า เสียงคลื่นกระทบฝั่ง มองทะเลไกลสุดสายตา ยิ่งมายามเย็นช่วงพระอาทิตย์ตกดิน ฝูงนกบินหาอาหารบ้าง บินกลับรังบ้าง รับรองเรื่องหนักอกหนักใจ เหมือนได้โยนทิ้งไปกับคลื่นทะเล ปล่อยใจให้ลอยไปกับฝูงนก และสายลมทะเล ลองมากันให้ได้นะคะ แล้วจะติดใจค่ะ [adsense-2] ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม ททท. ภาคกลาง เขต 3 ชลบุรี (038) 427 667, (038) 428 750 ศูนย์ข้อมูลท่องเที่ยว ททท. 1672 Call Center […]

Read More

หาดบางแสน

หาดบางแสน ตั้งอยู่ที่ ต.แสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี บางแสนเป็นสถานที่พักตากอากาศที่อยู่ในความนิยมของคนไทยมานานกว่า 50 ปีแล้วค่ะ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวไทยที่มีชื่อเสียงมาช้านาน มีถนนตัดเลียบชายหาด ซึ่งเรียงรายไปด้วยร้านอาหารและที่พัก มีเก้าอี้ผ้าใบสำหรับพักผ่อนรับประทานอาหารใต้ร่มเงาทิวมะพร้าว มีห่วงยางว่ายน้ำ บาบาน่าโบ๊ต จักรยานให้เช่า และห้องอาบน้ำจืด ทุกวันหยุดจะคึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวชาวไทย เนื่องจากอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯจึงสามารถมาเที่ยวแบบเช้าไป-เย็นกลับได้ เนื่องจากเดินทางที่สะดวกและใกล้กรุงเทพฯ เพียง 1 ช.ม. ถนนเลียบชายหาด เข้าถึงทะเลได้สะดวก และชายหาดบางแสนยังเป็นชายหาดที่มีบรรยากาศแบบชาวบ้าน มีอาหารขายอยู่ติดริมหาด กุ้ง หอย ปู ปลา เผากันสดๆ อีกทั้ง ข้าวเหนียว ไก่ย่าง ส้มตำ อันเป็นเอกลักษณ์ ประจำชายหาดบางแสนไปแล้วค่ะ ทำให้มีผู้คนมามายหลั่งไหลมาเที่ยวพักผ่อนอย่างเนืองๆ ประวัติของหาดบางแสน เดิมเป็นชายทะเลรกร้าง อยู่ในตำบลชื่อ “แสนสุข” จนกระทั่ง พ.ศ. 2486 จอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีในขณะนั้นได้ริเริ่มให้มีการสร้างสถานตากอากาศขึ้นมีการสร้างโรงแรมและที่พักต่างๆดำเนินการโดยบริษัทแสนสำราญ จึงเรียกว่าสถานตากอากาศแสนสำราญตามชื่อบริษัท ต่อมาใน พ.ศ. 2503 จึงโอนให้สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล และเปลี่ยนชื่อเป็นสถานตากอากาศบางแสนค่ะ หาดบางแสน […]

Read More

ศาลเจ้าแม่สามมุข

ศาลเจ้าแม่สามมุข ตั้งอยู่บนภูเขาที่ชื่อเขาสามมุข ศาลเจ้าแม่เขาสามมุขเป็นที่เคารพของ ชาวไทย และ ชาวจีน ตำนานเจ้าแม่สามมุขได้กล่าวไว้ว่า ในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ณ หมู่บ้านชาวประมงแห่งหนึ่งในจังหวัดชลบุรี มีหญิงสาวผู้หนึ่งชื่อว่า สาวมุข หรือ สาวมุก เป็นหญิงสาวสวยชาวเมืองบางปลาสร้อย ผู้กำพร้าบิดามารดา อาศัยอยู่กับยายที่กระท่อมเชิงเขาสามมุขแห่งนี้ ต่อมาสาวมุขได้พบรักกับหนุ่มนามว่า แสน บุตรกำนันบ่าย เศรษฐีแห่งบ้านหิน (อ่างศิลา) ซึ่งอยู่ห่างจากเขาสามมุขไปประมาณ 5 กิโลเมตร จุดเริ่มต้นของความรักเกิดจาก วันหนึ่งสาวมุกได้เก็บว่าวของหนุ่มแสนที่หลุดลอยมาได้ หนุ่มแสนจึงมอบว่าวนั้นให้เป็นที่ระลึก ทั้งสองต่างสัญญาว่า จะรักกันชั่วนิรันดร และใช้สถานที่บริเวณเชิงผาแห่งนี้นัดพบกัน แต่เมื่อความทราบถึงกำนันบ่าย ผู้ซึ่งรังเกียจความยากจนของสาวมุข จึงบังคับแสนให้แต่งงานกับหญิงสาวที่ตนเลือกให้ด้วยความพึงพอใจ ในวันที่แต่งงานนั้น สาวมุขได้เดินทางมาอวยพรและรดน้ำสังข์แก่คู่บ่าวสาว พร้อมทั้งคืนแหวนที่แสนเคยให้ไว้ กว่าที่แสนจะรู้ว่าอะไรเกิดขึ้น สาวมุขก็ได้วิ่งหนีหายไปบนเชิงเขาริมหน้าผา และสาวมุขได้ตัดสินใจโดดหน้าผาบูชาความรักจนถึงแก่ชีวิต ด้วยความเสียใจอย่างสุดซึ้ง แสนจึงโดดหน้าผาตายตามไปอีกคนหนึ่ง จากเหตุการณ์นี้เอง ภูเขาที่เป็นอนุสรณ์แห่งความรักของหนุ่มแสนและสาวมุขจึงชื่อว่า เขาสามมุข ส่วนชายหาดบริเวณใกล้เคียงได้ชื่อว่า บางแสน ดังที่ปรากฏเป็นตำนานจนถึงทุกวันนี้ เนื่องจากเป็นศาลเจ้าที่เกิดจากความรัก จึงมีหนุ่มสาวนำว่าวที่ตนเองกับคนรักมาถวายเพื่อให้เจ้าแม่อวยพรให้รักสมหวัง และมีชาวประมงมาจุดประทัดถวายก่อนเดินเรือเพื่อขอให้จับปลาได้มากและเดินเรืออย่างปลอดภัย ส่วนอีกตำนานกล่าวว่าเดิมเขาสามมุขเป็นถ้ำใหญ่ ในถ้ำมีทรัพย์สมบัติมากมาย เช่น โต๊ะ โตก […]

Read More

วัดแสนสุขสุทธิวราราม

วัดแสนสุขสุทธิวราราม หรือ วัดแสนสุข ตั้งอยู่ที่ซอย 14 ถนนบางแสนสาย 2 ที่แห่งนี้สร้างความสนใจ ให้แก่ผู้คนที่ผ่านไปมาตลอดเวลา ทำให้ประชาชนต่างเข้ามาร่วมกันสักการะบูชาอย่างไม่ขาดสาย เริ่มตั้งแต่เมื่อย่างกายเข้าสู่ประตูวัดจะเห็นความโดดเด่นจากประติมากรรม ในรูปแบบปูนปั้นหลากสีสันและรูปทรงแปลกตามากมาย ได้แก่ องค์พระลักษณะอวบอิ่มใบหน้ายิ้มแย้ม มีเณรน้อยรูปเล็กๆ เกาะอยู่ตามสรีระขององค์ท่าน อีกมุมหนึ่งก็จะเป็นรูปปั้นพระฤาษี นักบวชจีน รูปปั้นองค์เทพต่างๆ มากมาย พร้อมข้อคิดที่สอนใจให้ทำความดีละเว้นความชั่ว วัดแสนสุขสุทธิวราราม เปิดให้เข้าชมได้ตลอดทั้งปี ภายในวัดจะมีประติมากรรมปูนปั้นเกี่ยวกับศาสนา โดยพื้นที่ในการนำแสนอรูปปูนปั้นเหล่านั้น ถูกแบ่งออกเป็นสามส่วน คือ สวนพุทธ เมืองสวรรค์ และแดนนรก ซึ่งสวนพุทธนั้นเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับพทธประวัติ เริ่มจากการประสูติไปจนถึงการตรัสรู้ และปรินิพพานในมที่สุด ในขณะที่เมืองสวรรค์จะเกี่ยวกับศาสดาของศาสนาหรือลัทธิต่าง ๆ อาทิ เช่น พระเยซู เจ้าแม่กวนอิม เป็นต้น สุดท้าย แดนนรก ดูเหมือนจะเป็นที่น่าตื่นตาตื่นใจมากเป็นพิเศษ เนื่องจากมีรูปปั้นแสดงถึงการลงโทษและชีวิตหลังความตายในนรก อุทาหรณ์ สอนใจ ให้ระลึกถึงบาปบุญคุณโทษ รูปปั้นเหล่านี้มีทั้งให้ข้อคิด คติสอนใจ และบางชิ้นงานยังแฝงไปด้วยอารมณ์ขันอีกด้วย ในการเข้าชมไม่เสียค่าบริการ แต่ภายในมีตู้รับบริจาคสำหรับผู้มีจิตศรัทธาค่ะ [adsense-2] ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม ททท. […]

Read More