Tag: ภาคตะวันออก

สวนนงนุช

สวนนงนุช สำหรับใครที่ชอบแคมป์ปิ้งและกิจกรรมกลางแจ้ง มาที่นี่รับรองไม่ผิดหวังค่ะ สวนนงนุช ตั้งอยู่เลขที่ 381 หมู่ 2 (ใช้เส้นทางสายกบินทร์บุรี-โคราช 30 นาที) ต.ทุ่งโพธิ์ ปราจีนบุรี เป็นรีสอร์ทที่รวบรวมความหลากหลายในเนื้อที่กว่า 2,000 ไร่ มีพื้นที่ติดกับเขาใหญ่มีพรรณไม้ดอกไม้ประดับนานาชนิดสวนสวย แปลกตา และหลากหลายกิจกรรมกลางแจ้ง ไร่ สามารถกางเต็นท์สัมผัสกับอากาศบริสุทธิ์พร้อมรับโอโซนระดับ 10 และมีกิจกรรมมากมายอาทิเช่น จักรยาน พายเรือ โหนสลิง พร้อมชมสวนสัตว์ อาทิ นกกระจอกเทศ กวางดาว นกอีมู ช่วงเวลาทีเ่ปิดให้บริการ เปิดบริการเวลา 08.00- 18.00น. [adsense-2] ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม สวนนงนุช โทร. (037) 401 371 ,(081) 869 8474 ตำรวจท่องเที่ยว 1155 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคกลางเขต 8 กลุ่มจังหวัดเบญจบูรพาสุวรรณภูมิ โทรศัพท์ (037) 312 282, (037) 312 284 โทรสาร (037) […]

Read More

กลุ่มโบราณสถานสระมรกต

กลุ่มโบราณสถานสระมรกต ไปเยือนถิ่นทวารวดี บูชารอยพระพุทธบาทคู่กันค่ะ กลุ่มโบราณสถานสระมรกต ตั้งอยู่ที่วัดสระมรกต ตำบลโคกไทย อำเภอศรีมโหสถ จังหวัดปราจีนบุรี เป็นกลุ่มโบราณสถานทางพุทธศาสนาขนาดใหญ่ ที่สร้างซ้อนทับกันหลายสมัย เริ่มตั้งแต่ก่อนพุทธศตวรรษที่ 14 เป็นต้นมาจนถึงพุทธศตวรรษที่ 18 ประกอบด้วยสิ่งก่อสร้างศิลาแลงและอิฐ ส่วนใหญ่คงเหลือเฉพาะรากฐานอาคารเท่านั้น ระหว่างการขุดแต่งได้ค้นพบรอยพระพุทธบาทคู่สลักอยู่บนศิลาแลง ที่ฝ่าพระบาทสลักรูปธรรมจักรนูนทั้งสองข้าง และยังมีการสลักรูปกากบาท โดยที่ตรงกลางมีหลุมสำหรับใช้ปักเสา สันนิษฐานว่ามีไว้เพื่อปักฉัตรหรือร่ม สิ่งที่น่าสนใจ 1. รอยพระพุทธบาทคู่ ยุคทวารวดี ราว 1,500 ปีมาแล้ว สลักบนพื้นศิลาแลง คาดว่าสร้างขึ้นครั้งแรกสมัยทวารวดีถึงสมัยลพบุรี นับเป็นรอยพระพุทธบาทที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย 2. ซากสุคตาลัย เป็นศาสนสถานประจำ “อโรคยศาล” สร้างทับพุทธสถานที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทคู่ซึ่งมีมาก่อน สุคตาลัย หมายถึงที่ประทับพระพุทธเจ้า ในที่นี้คือพระไภสัชยคุรุ (พระพุทธเจ้าที่ทรงเป็นแพทย์ ตามคติมหายาน) อยู่ปราสาทประธาน มีกำแพงล้อมรอบรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า อโรคยศาล หมายถึงศาลาไร้โรค (บางคนเรียกโรงพยาบาล แต่ไม่ใช่) เป็นสถานบำบัดผู้เจ็บไข้ได้ป่วยด้วยสมุนไพร สร้างด้วยไม้ อยู่ภายนอกกำแพงสุคตาลัย 3. สระบัวล้า อยู่ใกล้รอยพระพุทธบาทคู่ ไปทางด้านเหนือ ชาวพวนเรียกชื่อบัวล้า เพี้ยนคำเขมรว่า บาราย […]

Read More

วัดต้นโพธิ์ศรีมหาโพธิ

วัดต้นโพธิ์ศรีมหาโพธิ ตั้งอยู่ที่ ตำบลโคกปีบ อำเภอศรีมโหสถ จังหวัดปราจีนบุรี ภายในวัดมีต้นโพธิ์ที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย ที่เชื่อว่าเป็นต้นโพธิ์ที่เป็นหน่อจากต้นพระศรีมหาโพธิ์ สถานที่ตรัสรู้จากพุทธคยา ประเทศอินเดีย มีอายุกว่า 2,000 ปี ซึ่งนำเข้ามาปลูกเป็นต้นแรก ต้นโพธิ์ต้นนี้มีขนาดเส้นรอบวงของลำต้น 20 เมตร สูง 30 เมตร มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 25 เมตร นอกจากนี้ยังมีพระเจดีย์ประธานของวัดที่จำลองแบบจาก เจดีย์พทธคยา มีลายปูนปั้นรูปเทวดาซึ่งงดงามมากที่ผนังด้านนอกของห้องคูหาส่วนฐานพระเจดีย์ด้วย สำหรับ ต้นศรีมหาโพธิ์ ที่ปลูกไว้ที่วัดแห่งนี้เชื่อกันว่า เป็นต้นแรกของสยามประเทศ เนื่องจากจังหวัดปราจีนบุรีเคยเมืองโบราณสมัยก่อนประวัติศาสตร์ ก็คือเมืองศรีมโหสถ ซึ่งในอดีตเป็นเมืองโบราณขนาดใหญ่ที่มีความสำคัญมากเมืองหนึ่ง ลักษณะเมืองเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ามุมค่อนข้างรี มีการพัฒนาทางศิลปวัฒนธรรมมาโดยลำดับ ตั้งแต่ก่อนพุทธศตวรรษที่ 11 เนื่องจากเป็นเมืองท่าชายทะเล จึงมีการติดต่อค้าขายแลกเปลี่ยนสินค้าทั้งกับจีนและอินเดีย ได้รับอิทธิพลทางวัฒนธรรมฟูนัน มีสมณฑูตจากอินเดียที่มาเผยแผ่พระศาสนา ตามตำนานกล่าวว่าเมื่อราว พ.ศ.500 พระเจ้าทวานัมปะยะดิษฐ์ เจ้าครองเมืองศรีมโหสถในสมัยขอมเรืองอำนาจทรงเลื่อมใสในพุทธศาสนา จึงได้ส่งคณะทูตเดินทางไปขอกิ่งต้นโพธิ์จากพระศรีมหาโพธิ์ พุทธคยาประเทศอินเดียซึ่งเป็นต้นโพธิ์ที่พระพุทธเจ้าทรงประทับบำเพ็ญธรรมจนสำเร็จตรัสรู้ เป็นสัมมาสัมพุทธเจ้า จากเจ้าผู้ครองนครปาตุลีบุตร ประเทศอินเดีย แล้วนำกิ่งโพธิ์นั้นมาปลูกที่วัดต้นโพธิ์ศรีมหาโพธิ์ ปัจจุบันมีอายุกว่า 2,000 ปี ต้นโพธิ์ต้นนี้มีขนาดเส้นรอบวงของลำต้น 20 เมตร […]

Read More

พิพิธภัณฑ์อยู่สุขสุวรรณ์

พิพิธภัณฑ์อยู่สุขสุวรรณ์ ไปย้อนวันวาน ผ่านเรื่องเล่าของตะเกียงนับพันกันค่ะ พิพิธภัณฑ์อยู่สุขสุวรรณ์ ตั้งอยู่เลขที่ 135 ถนนปราจีนตคาม ตำบลดงขี้เหล็ก อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้ตั้งตามชื่อ-สกุลของ คุณณรงค์ อยู่สุขสุวรรณ์ หรือที่ชาวปราจีนบุรี เรียกว่า “เฮียพันธ์” ซึ่งแต่เดิมนั้นประกอบอาชีพรับซื้อขายของเก่าจำพวกเศษเหล็กและโลหะ ในช่วงแรกๆ จะมีตะเกียงเจ้าพายุติดมากับพวกเศษโลหะจำนวนมาก แต่ก็ยังไม่ได้ให้ความสนใจมากนักและยังขายไปในราคาเดียวกับเศษเหล็กด้วยซ้ำ แต่เมื่อมีคนมาซื้อได้ให้ราคาเป็นดวงซึ่งสูงกว่าการขายเป็นกิโลกรัมเหมือนเศษโลหะโดยให้ราคาดวงละ 50 บาท จึงได้คัดแยกไว้ขายให้คนที่ต้องการเพราะเริ่มมีคนสนใจมากขึ้นเพื่อที่จะนำไปตกแต่งให้สวยงามและขายต่อให้ชาวต่างประเทศในราคาสูง ราคาจึงพุ่งขึ้นถึงดวงละ 100 บาท นับเป็นราคาที่สูงมาก ในขณะนั้นคุณณรงค์จึงเริ่มสงสัยและถามผู้ที่มาซื้อจึงได้ทราบเรื่องและฉุกคิดขึ้นมาว่า หากขายออกไปจำนวนมากอาจทำให้ตะเกียงเจ้าพายุซึ่งเป็นตะเกียงที่มีเอกลักษณ์สวยงามและทนทานหมดไปจากประเทศไทยและคนรุ่นหลังอาจไม่รู้จักเพราะไม่เคยเห็นตะเกียงแบบนี้ จึงได้ตัดสินใจเริ่มสะสมโดยตะเกียงดวงแรก ก็คือตะเกียงขนาด 150 แรงเทียน แม้จะดูเหมือนตะเกียงเจ้าพายุทั่วไปแต่เป็นแบบดวงเล็กเห็นแล้วชอบจึงเก็บเอาไว้ และเริ่มมีตะเกียงแบบแปลกๆมากขึ้น และเพื่อนฝูง หรือคนรู้จักต่างก็ซื้อมาฝากด้วยสิ่งแรกที่เก็บสะสมจะเป็นตะเกียงแล้วจึงเริ่มสะสมสิ่งอื่นๆ ตามมาทีหลัง อาทิเช่น นาฬิกา จักรยาน ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ เป็นต้น ประกอบกับคุณวิภาวรรณ์ อยู่สุขสุวรรณ์ ซึ่งเป็นภรรยา คุณณรงค์ อยู่สุขสุวรรณก็เป็นคนที่ชอบสะสมตู้เก่า ตู้โบราณที่ทำจากไม้สัก จึงทำให้มีของเก็บสะสมจำพวกตู้มากขึ้น พอเก็บสะสมได้มากขึ้นก็มีคนขอเข้าชมโดยที่ทางเราก็ไม่ได้เก็บเงิน แต่ก็เกิดความไม่สะดวกแก่ผู้เข้าชมเพราะพื้นที่แคบ และของบางอย่างก็ไม่สามารถที่จะวางโชว์ได้ก็จะเห็นแต่ตะเกียงเพียงอย่างเดียวเวลาที่จะดูแลคนที่มาเยี่ยมชมก็มีน้อย เพราะจะต้องดูแลกิจการร้านสหพันธ์การค้าด้วย จึงมีความคิดที่จะสร้างพิพิธภัณฑ์ขึ้นเพื่อที่จะให้คนรุ่นหลังได้เห็นได้รู้จักและทราบถึงข้อมูลสิ่งของที่หาดูได้ยากเหล่านี้ ซึ่งสิ่งของที่จัดแสดงทั้งหมดนี้ใช้ระยะเวลาในการเก็บสะสมมากกว่า […]

Read More

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ปราจีนบุรี

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ปราจีนบุรี ตั้งอยู่ที่ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี  เป็นอีกหนึ่งสถานที่สำคัญที่ต้องแวะชมเมื่อได้ไปถึงจังหวัดปราจีนบุรี เพราะเพื่อให้ได้ครบทุกบรรยากาศ ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติที่สวยงาม สถานที่ศักดิ์สิทธิ์แล้ว พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติปราจีนบุรีเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่เป็นทั้งแหล่งท่องเที่ยวเชิงการศึกษาที่ได้รวบรวมไว้ซึ่งสิ่งล้ำค่าประจำจังหวัดปราจีนบุรีรวมไปถึงจังหวัดอื่นๆที่ในปัจจุบันสามารถหาดูได้ยาก พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นพิพิธภัณฑสถานประเภทประวัติศาสตร์โบราณคดี ก่อตั้งขึ้นเพื่อเป็นศูนย์รวมของโบราณวัตถุในภูมิภาคตะวันออกและจังหวัดใกล้เคียง อาทิ ปราจีนบุรี สระแก้ว นครนายก ฉะเชิงเทรา ชลบุรี จันทบุรี ตราดและระยอง โดยเน้นการจัดแสดงที่เมืองศรีมโหสถเป็นสำคัญ ภายในอาคารจัดแสดงแบ่งออกเป็น 2 ชั้น ชั้นล่าง จัดแสดงประวัติศาสตร์โบราณคดีเมืองปราจีนบุรี โบราณคดีเมืองนครนายกและนิทรรศการพิเศษ ชั้นบน จัดแสดงศิลปะโบราณคดีในประเทศไทย โบราณคดีก่อนประวัติศาสตร์ในภาคตะวันออก โบราณคดีใต้น้ำรวมทั้งเครื่องถ้วยสังคโลกที่พบใต้ทะเลจากบริเวณเกาะคราม จังหวัดชลบุรี และนิทรรศการชั่วคราว โบราณวัตถุส่วนใหญ่ของที่นี่ได้มาจากเมืองโบราณสมัยทวารวดี อาทิ พระพุทธรูป เทวรูปเคารพในศาสนาฮินดู ศิวลึงค์ ทับหลัง เครื่องใช้สำริด จัดแสดงศิลปะสมัยต่าง ๆ ตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ต่อเนื่องจนถึงสมัยรัตนโกสินทร์ช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 เพื่อประโยชน์ในการศึกษาเปรียบเทียบ นอกจากนั้นยังจัดสถานที่ส่วนหนึ่งสำหรับนิทรรศการชั่วคราวในโอกาสต่าง ๆ ด้วย [adsense-2] ช่วงเวลาที่เปิดให้เข้าชม  เปิดให้เข้าในชมวันพุธถึงวันอาทิตย์รวมถึงในวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น. โดยจะปิดทำการในวันจันทร์ […]

Read More

โบราณสถานเมืองศรีมโหสถ

โบราณสถานเมืองศรีมโหสถ ไปบูชารอยพระพุทธบาทคู่ 2,000 ปี เยือนถิ่นอารยธรรมทวารวดี ที่เมืองศรีมโหสถ ปราจีนบุรีกันค่ะ โบราณสถานเมืองศรีมโหสถ ตั้งอยู่ที่บ้านโคกวัด ตำบลโคกปีบ อำเภอศรีมโหสถ จังหวัดปราจีนบุรี เดิมนั้นชื่อว่าอำเภอโคกปีบ เป็นเมืองเก่าแก่มีอายุมากกว่า 1,200 ปีหรือพุทธศตวรรษที่ 6 เป็นต้นมา ในอดีตเคยเป็นเมืองท่าชายทะเลที่สำคัญ เป็นศูนย์กลางความเจริญทั้งด้านศิลปะ วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี และศาสนาพุทธ โบราณสถานเมืองศรีมโหสถเป็นเมืองโบราณสมัยทวารวดีขนาดใหญ่ มีลักษณะเป็นรูปไข่ หรือสี่เหลี่ยมผืนผ้ามุมมน มีเนื้อที่ประมาณ 700 ไร่ ลักษณะของเมืองมีคูเมือง และคันดินกำแพงเมืองล้อมรอบคูน้ำ ภายในเมืองมีโบราณสถาน เนินดิน สระน้ำ บ่อน้ำ กระจัดกระจายอยู่ทั่วไปกว่า 100 แห่ง สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยทวารวดี หลักฐานส่วนใหญ่ที่พบมักจะเกี่ยวเนื่องกับศาสนาพราหมณ์หรือฮินดู เช่น เทวาลัย เทวรูป ศิวลึงค์ โบราณสถานที่สำคัญในเมืองศรีมโหสถประกอบด้วย กลุ่มโบราณสถานกลางเมือง อายุราวพุทธศตวรรษที่ 18 เป็นหมู่เทวาลัย ฐานก่อด้วยศิลาแลง ด้านบนก่อด้วยอิฐ ด้านหลังมีบ่อน้ำก่อด้วยศิลาแลง โบราณวัตถุที่ขุดพบ ได้แก่ เทวรูปต่าง ๆ […]

Read More

โบราณสถานพานหิน

โบราณสถานพานหิน ตั้งอยู่ในพื้นที่บ้านโคกขวาง ตำบลหนองโพรง อ.ศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี ลักษณะเป็นโบราณสถานขนาดใหญ่ก่อด้วยศิลาแลง แผนผังโบราณสถานพานหินแห่งนี้เป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาดกว้างยาวด้านละ 15.5 เมตร สูง 3.5 เมตร มีมุขยื่นออกมาทั้งสี่ด้าน ที่มุขด้านทิศเหนือมีร่องรอยหลุมเสา ทุกด้านลักษณะก่อสร้างเป็นชั้นๆ มีบัวคว่ำ บัว หงาย และบัวหน้ากระดาน ตอนบนมีลักษณะเป็นห้องๆ มีคอระฆังหรือฐานปติมากรรมวางอยู่ และได้พบพระหัตถ์พระวิษณุ ทรงสังห์หินทรายเขียวและเศษภาชนะดินเผา นักโบราณคดี นักประวัติศาสตร์เชื่อว่าอาจเป็นเสาบันไดไม้ขึ้นตัวอาคารของโบราณสถานพานหิน ด้านบนของอาคารพบหลุมเสาซึ่งสันนิษฐานว่าเป็นเสาของอาคารเครื่องไม้มุงหลังคา และพบแท่งศิลาแลงทรงกลมสลักเป็นรูปเชิงบาตร ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1 เมตร สันนิษฐานว่าประดิษฐานเทวรูป พระนารายณ์ มีอายุในราวพุทธศตวรรษที่ 12-14 ในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 1 แห่งเจนละ ตรงกลางของซากเทวาลัยมีฐานของเทวรูปซึ่งแต่เดิมตะแคงอยู่ลักษณะคล้ายพาน จึงเรียกว่า “พานหิน” นอกจากนี้ยังพบศิลาแลงทรงกลม สกัดเป็นรูปฐานเชิง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ เสด็จทอดพระเนตรโบราณสถานแห่งนี้เมื่อปี พ.ศ. 2451 โดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้เสด็จประพาสโบราณสถานพานหินแห่งนี้เมื่อปี พ.ศ. 2451 ทรงสันนิษฐานว่าแท่งศิลาแลงทรงกลมบนตัวอาคารนั้นน่าจะเป็นฐานเทวรูป ซึ่งเมื่อได้มีการขุดแต่งทางโบราณคดีในสมัยต่อ ๆ มา ณ โบราณสถานพานหินแห่งนี้ ในปี […]

Read More

น้ำตกฟองสบู่

น้ำตกฟองสบู่ ไปเดินป่า นอนอาบแสงจันทร์ข้างธารน้ำตกกันค่ะ น้ำตกฟองสบู่ตั้งอยู่หมู่ที่ 8 ต.บุฝ้าย อำเภอประจันตคาม จังหวัดปราจีนบุรี อยู่ห่างจากถนนสุวรรณศรประมาณ 20 กม. อยู่ในการดูแลของหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ 10 เป็นน้ำตกที่สวยงามตามธรรมชาติมากเป็นน้ำตกสูง เวลาตกลงแตกเป็นฟองสบู่ น้ำใสสะอาดสามารถลงเล่นได้ บริเวณรอบๆ เขียวขจีด้วยแมกไม้นานาชนิด ให้ความร่มรื่น เหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจเป็นอย่างยิง น้ำตกแห่งนี้นักท่องเที่ยวนิยมมากางเต็นท์ริมน้ำตก ทำอาหารทานกันกลางป่า ซึมซับวิถีธรรมชาติท่ามกลางป่าเขาเขียวชะอุ่มค่ะ ช่วงที่เป็นน้ำตกฟองสบู่นี้เป็นลานหินกว้าง เหนือลานหินเป็นเหมือนเขื่อนธรรมชาติที่หินทรายช่วงนี้เป็นเหมือนขอบคูกั้นน้ำไว้ แล้วปล่อยที่ล้นให้ไหลมาตามร่องหินก่อนจะตกลงไปจากหน้าผากลายเป็นน้ำตกเล็กๆ สองฝั่งลานหินเป็นชายป่า ด้านหนึ่งเป็นป่าดิบมีต้นไม้พวกไม้ยาง ไม้ตะเคียน ฯลฯ ขึ้นสูง อีกฝั่งค่อยๆลาดเอียงขึ้นไปเป็นไม้พุ่มและป่าไผ่รวก บรรยากาศที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติท่ามกลางป่าเขา ทำให้เป็นที่หลงไหลของนักท่องเที่ยวที่นิยมการเดินป่าไม่น้อยเลยทีเดียวค่ะ [adsense-2] ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ 10 โทร. (0 17) 554 852, (0 99) 135 058 ตำรวจท่องเที่ยว 1155 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคกลางเขต 8 กลุ่มจังหวัดเบญจบูรพาสุวรรณภูมิ โทรศัพท์ (037) […]

Read More

น้ำตกตะคร้อ

น้ำตกตะคร้อ ตั้งอยู่ที่บ้านตะคร้อ ตำบลบุฝ้าย น้ำตกตะคร้อ อยู่ห่างจากด่านตะคร้อ ประมาณ 500 เมตร เป็นน้ำตกที่มีลักษณะเป็นแก่งน้ำกว้าง มีสะพานแขวนทอดข้ามน้ำตกตะคร้อ ฝั่งซ้ายของลำธารเป็นเนินเขา ส่วนทางด้านฝั่งขวาเป็นป่าโปร่ง เหมาะแก่การพักผ่อน เนื่องจากน้ำตกตะคร้อนั้นอยู่ภายในป่า (ไม่ถึงกับดงดิบ) การเดินทางจึงต้องเดินเท้าเข้าไประยะทางคร่าว ๆ ไม่น่าจะถึงหนึ่งกิโลเมตร ระหว่างเส้นทางสู่น้ำตกตะคร้อท่านจะได้ชมทัศนียภาพ ความสวยงามของธารน้ำที่ไหลเลียบเลาะไปเรื่อยๆ (จากทางเข้าให้เดินเลียบธารน้ำมาเรื่อย ๆ ไม่ต้องเลี้ยวซ้ายข้ามสะพาน มิเช่นนั้นท่านจะได้ไปเที่ยวเส้นทางศึกษาธรรมชาติแทนค่ะ) เมื่อมาถึงน้ำตกตะคร้อจะได้พบกับน้ำตกขนาดเล็ก แต่มีแอ่งน้ำตกขนาดใหญ่มาก ๆ เหมือนกับสระว่ายน้ำกลางธรรมชาติ บรรยากาศดีน่าลงเล่นน้ำมาก ๆ จากความสวยงาม ทัศนียภาพ และบรรยากาศของน้ำตกตะคร้อ ทำให้น้ำตกตะคร้อเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ชาวบ้านในชุมชนนิยมแวะมาพักผ่อนหย่อนใจกับทั้งครอบครัวในช่วงเย็น ๆ หลังเลิกงานหรือในวันหยุดพักผ่อน สำหรับนักท่องเที่ยวทุกท่านหากมีเวลาแวะผ่านมาที่จังหวัดปราจีนบุรี ก็สามารถแวะเที่ยวเยี่ยมเยียน น้ำตกตะคร้อกันได้ ถ้าไม่มาเล่นน้ำที่น้ำตกตะคร้อแห่งนี้ ก็แวะมาชมบรรยากาศยามเย็น ก่อนพระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้าไป แสงทองของดวงอาทิตย์ท่ามกลางพรรณไม้นานา เป็นอีกภาพบรรยากาศที่สวยงามน่าจดจำ จากน้ำตกตะคร้อมีทางเดินเท้าต่อไปอีกประมาณ 2 กิโลเมตร จะถึงน้ำตกสลัดได เป็นน้ำตกที่มีความสวยงาม หากจะเดินทางเข้าไปชมน้ำตกสลัดไดควรติดต่อขอเจ้าหน้าที่นำทางจาก หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ 10 ที่ตั้งอยู่บริเวณน้ำตกตะคร้อนะคะ [adsense-2] ช่วงเวลาที่เปิดให้เข้าชม  เปิดให้เข้าชมทุกวัน […]

Read More

ตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศร

ตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ตั้งอยู่เลขที่ 32/7 หมู่ 12 ถนนปราจีนอนุสรณ์ อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี อยู่ภายในโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ตึกหลังนี้เจ้าพระยาอภัยภูเบศร(ชุ่ม อภัยวงศ์) สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2452 โดยให้บริษัทโฮวาร์ด เออร์สกิน เป็นผู้ออกแบบก่อสร้าง เพื่อถวายเป็นที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว หากเสด็จมณฑลปราจีนบุรีอีก หลังจากที่ได้เสด็จในครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2451แต่เสด็จสวรรคตก่อนในกลางปี พ.ศ. 2453 ต่อมาในปี พ.ศ. 2480 เมื่อพระองค์ได้นำเสด็จสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี พระราชธิดา ไปประทับที่ประเทศอังกฤษ จึงประทานที่ดินและสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดนั้นแก่มณฑลทหารบกที่ 2 จังหวัดปราจีนบุรี เพื่อใช้เป็นสถานพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร และได้เปลี่ยนเป็น โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2509 โดยมีสมเด็จเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี และพระนางเจ้า สุวัทนา พระวรราชเทวี เสด็จฯมาทรงเปิดป้าย โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร พร้อมทั้งทรงรับโรงพยาบาลแห่งนี้ไว้ในพระอุปถัมภ์ ตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศรตัวอาคารเป็นสถาปัตยกรรมยุโรปแบบบาโร้ค (Barogue)เป็นตึกสองชั้นมีมุขด้านหน้าตรงกลางเป็นโดมผนังด้านนอกมีลายปูนปั้นลายพฤกษาประดับ ซุ้มประตูและ หน้าต่างภายในตึกแบ่งออกเป็นหลายห้อง ห้องที่งดงามที่สุดคือห้องโถงกลางชั้นล่างซึ่งยังคงลักษณะการตกแต่งภายในแบบเดิม อยู่ครบถ้วนตั้งแต่ลวดลายกระเบื้องปูพื้นภาพเขียนสีปูนเปียกบนเพดาน และลายปูนปั้นหัวเสาปัจจุบันใช้เป็นที่จัดแสดงประวัติเจ้าพระยาอภัยภูเบศร […]

Read More