Month: May 2015

วัดเขาท่าพระ

วัดเขาท่าพระ ตั้งอยู่เลขที่60 หมู่ 3 ตำบลเขาท่าพระ อำเภอเมืองชัยนาท จังหวัดชัยนาทตั้งอยู่เชิงเขาท่าพระ มีพระพุทธบาทจำลองอยู่บนยอดเขาแห่งนี้ เมื่อเข้าไปในวัดแล้วจะเป็นลานกว้างเสียส่วนใหญ่ กุฏิ หอไตร ศาลา มีลักษณะเก่า ลึกเข้าไปในวัดจะมีศาลาสร้างใหม่ 1 หลัง อุโบสถที่ดูแลกันอย่างดีไม่ดูเก่าเหมือนอาคารอื่นๆ มีมณฑปจตุรทิศ เป็นสิ่งหนึ่งที่ดูเหมือนว่าจะสร้างกันขึ้นมาในยุดหลังๆ ของวัดโดยสร้างแบบทรงจัตุรมุข มณฑปมีทางขึ้น-ลงทั้งสี่ด้าน พระประธานในมณฑป แม้ภายนอกจะดูธรรมดา แต่เมื่อได้เข้ามาภายในจะเห็นความสวยงามที่แตกต่างจากภายนอก เพราะการตกแต่งภาพจิตรกรรมฝาผนังหลายเรื่อง เต็มทุกด้าน ลงสีสันที่สดมากอย่างสีแดงสด จึงสะดุดตาผู้ที่ได้มาเห็น นอกจากพระประธานแล้วในมณฑปแห่งนี้ยังมีรูปเหมือนของพระบูรพาจารย์อดีตเจ้าอาวาสของวัดเขาท่าพระ มีจิตรกรรมฝาผนังสีสดที่วางเป็นสีพื้นของงานจิตรกรรม ลงเส้นลวดลายต่างๆ ด้วยสีทอง เมื่อต้องแสงจากหน้าต่างจึงดูสวยงามมาก ด้านหน้าของมณฑปมีพระองค์จำลอง กระถางธูป เชิงเทียนตั้งไว้ให้ ส่วนภายในห้ามจุดธูปเทียน อีกด้านหนึ่งของลานจอดรถ เยื้องๆ กับมณฑปจตุรมุข มีศาลาแปดเหลี่ยม ที่ประดิษฐานเจ้าแม่กวนอิม หรือพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร ที่วัดเขาท่าพระจัดให้มีงานสมโภชปิดทองพระพุทธบาทในวันเพ็ญเดือนสาม ซึ่งตรงกับวันมาฆบูชาทุกปี [adsense-2] ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม ตำรวจท่องเที่ยว โทร. 1155 ตำรวจทางหลวง ส.ทล.3 กก.1 โทร. (056) […]

Read More

วัดไกลกังวล

วัดไกลกังวล  ไปเยือนวัดที่มีอายุกว่าพันปีกันค่ะ วัดไกลกังวล ตั้งอยู่บนเขาสารพัดดี บ้านไร่สวนลาว ต.บ้านเชี่ยน อ.หันคา จ.ชัยนาท เป็นวัดโบราณ สร้างขึ้นในสมัยลพบุรี แต่ต่อมาตกอยู่ในสภาพร้างได้รับการบูรณะปฏิสังขรณ์ใหม่ เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2510 บนยอดเขาของวัด ยังคงปรากฏซากการสร้างโบสถ์ และรอยพระพุทธบาทขนาดใหญ่ปรากฏ อยู่ และมีการสร้างรั้วคอนกรีตรอบบริเวณเขตพื้นที่ของวัดยาวประมาณ 5,000 เมตร หากยืนอยู่บนยอดเขาแห่งนี้จะเห็นทัศนียภาพธรรมชาติที่สวยงาม ทุกปีช่วงหลังออกพรรษาจะมีงานประเพณีตักบาตรเทโวค่ะ ประวัติความเป็นมา วัดไกลกังวล ตามกองโบราณคดี กรมศิลปากร พิสูจน์แล้วว่าสร้างขึ้นในสมัยลพบุรี (พันกว่าปีที่แล้ว) แต่กลายเป็นวัดร้างมากี่ร้อยปีหรือถูกทำนุบำรุงขึ้นกี่ครั้งนั้นยังมิอาจค้นพบได้ ในละแวกใกล้เคียง เช่น ทิศเหนือ ด้านตีนเขาลงไปใกล้บ้านสวนลาว มีวิหารเก้าห้อง มีเจดีย์เก่าเป็นหลักฐาน และบนยอดเขาหนองสอด ก็มีเจดีย์ปรากฏเช่นกัน ส่วนทิศตะวันออก ตีนเขาพื้นราบก็มีวัดเก่าเรียกว่า วัดไกรลาศ (ไกรราษฎร์หรือหนองทาระภู) โบราณสถานดังกล่าวเหล่านั้น สร้างในสมัยลพบุรีทั้งสิ้น ลักษณะวัสดุก่อสร้างที่เหลือให้เห็นเป็นซากเจดีย์ซึ่งก่อด้วยอิฐหนาใหญ่ยาว ส่วนเศษกระเบื้องดินเผาจะเหลือเห็นชัดก็คือ ตะขอกระเบื้อง มีลักษณะงอแหลมยาวราวนิ้วชี้เห็นจะได้ ส่วนอื่นๆที่เหลือเป็นส่วนองค์พระพุทธรูปแกะด้วยหินทรายแดงเช่น เศียร แขน และหน้าตัก ฯลฯ ยังมีให้เห็น ส่วนฐานพระเจดีย์นั้นเป็นหลุมลึกลงไป เพราะสมัยนั้นนักนิยมของเก่าได้ฝากฝีมือไว้ […]

Read More

วัดกรุณา

วัดกรุณา ตั้งอยู่ที่หมู่ที่ 5 ตำบลบ้านหลวง อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท เป็นวัดที่อยู่ใกล้เขื่อนเจ้าพระยา ตรงข้ามบ้านรับรองเขื่อนเจ้าพระยา ประดิษฐานพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวชัยนาทเคารพนับถือมากคือ พระพุทธมหาศิลาหรือหลวงพ่อหินใหญ่ เป็นพระพุทธรูปศิลาทรายขนาดใหญ่ที่สุดของจังหวัดชัยนาท วิหารหลวงพ่อหิน เป็นวิหารที่สร้างขึ้นราว พ.ศ. 2400 บริเวณคุ้งบางกระเบียน ต่อมาปี พ.ศ. 2496 ทางกรมชลประทานได้สร้างเขื่อนเจ้าพระยาขึ้น จึงต้องปฎิสังขรวัด คือการย้ายวัดไปโดยไม่เปลี่ยนแปลงรูปแบบเดิม ไปสร้างใหม่ ณ วัดร้างแห่งหนึ่งที่ชื่อว่า “วัดดอนตาเสือ” แถบบ้านดอนเสือ ตำบลบางหลวง และทางการก็ได้จัดหาที่ดินมาเพิ่มเติมจากเดิมเพื่อสร้างศาสนสถาน และได้ตั้งชื่อใหม่วัดว่า “วัดกรุณา” แต่พระอุโบสถยังคงอยู่ที่เดิม มิได้มีการปฎิสังขรแต่อย่างใด สิ่งที่น่าสนใจภายในวัด พระพุทธมหาศิลา (หลวงพ่อหินใหญ่) ประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถวัดกรุณาเดิม ซึ่งตั้งอยู่ใกล้เขื่อนเจ้าพระยาเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย สร้างด้วยศิลาทรายสีนวลอ่อน สันนิษฐานว่า สร้างในอยุธยาตอนต้นเป็นพระพุทธปฏิมากรศิลาขนาดใหญ่ และสวยงามมาก เป็นที่เคารพสักการะบูชาของชาวชัยนาทและประชาชนทั่วไป พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีนาถ ได้เคยเสด็จไปถวายเครื่องสักการะบูชานมัสการพระพุทธมหาศิลาในพระอุโบสถ เมื่อครั้งที่ทั้งสองพระองค์ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดเขื่อนเจ้าพระยาเมื่อปี พ.ศ.2500 ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม ตำรวจท่องเที่ยว โทร. 1155 ตำรวจทางหลวง ส.ทล.3 […]

Read More

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติชัยนาทมุนี

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ชัยนาทมุนี ตั้งอยู่ภายในบริเวณวัดพระบรมธาตุวรวิหาร ตำบลชัยนาท อำเภอเมือง จังหวัดชัยนาท สังกัดสำนักศิลปากรที่ 4 ลพบุรี กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม เป็นหน่วยงานที่รวบรวมเก็บรักษา อนุรักษ์ และจัดแสดงโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ ที่เป็นมรดกทางศิลปวัฒนธรรมของชาติ และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดชัยนาท พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ชัยนาทมุนี ตั้งขึ้นด้วยความสนใจของพระชัยนาทมุนี (นวม สุทัตโต) อดีตเจ้าคณะจังหวัดชัยนาทและอดีตเจ้าอาวาสวัดพระบรมธาตุวรวิหาร ซึ่งได้รวบรวมศิลปวัตถุโบราณวัตถุที่พบในเขตจังหวัดชัยนาทและบริเวณใกล้เคียงมาเก็บรักษาไว้ในพิพิธภัณฑสถานของวัดเป็นจำนวนมาก ต่อมา พระชัยนาทมุนีได้ยินดีมอบศิลปวัตถุ โบราณวัตถุดังกล่าวให้เป็นสมบัติของชาติ เพื่อประโยชน์ทางการศึกษาด้านประวัติศาสตร์และโบราณคดีของไทย ในปีพุทธศักราช 2509 กรมศิลปากรจึงได้ดำเนินการก่อสร้างอาคารพิพิธภัณฑสถานขึ้นในบริเวณใกล้กับวัดพระบรมธาตุวรวิหาร ตั้งชื่อว่า พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ชัยนาทมุนี เพื่อเป็นที่ระลึกแด่พระชัยนาทมุนี เปิดให้ประชาชนเข้าชมได้ตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2512 เป็นต้นมา การจัดแสดง แบ่’เป็น 2 ชั้น ชั้นล่าง จัดแสดงเรื่องราวด้านประวัติศาสตร์ โบราณคดีของจังหวัดชัยนาท โบราณวัตถุที่จัดแสดง ได้แก่ เครื่องใช้ เครื่องประดับสมัยก่อนประวัติศาสตร์และสมัยทวารวดี พระพุทธรูปสมัยต่าง ๆ อีกส่วนหนึ่งจัดแสดงโบราณวัตถุที่สร้างขึ้นเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา เช่น ตู้พระธรรม เครื่องบริขารถมปัด ประติมากรรมและเครื่องถ้วยในศิลปะลพบุรี สุโขทัย […]

Read More

เขื่อนเจ้าพระยา

เขื่อนเจ้าพระยา ไปสูดอากาศบริสุทธิ์ริมสันเขื่อน ชมพระอาทิตย์ตกดินยามเย็นกันค่ะ เขื่อนเจ้าพระยา ตั้งอยู่ที่บริเวณคุ้งบางกระเบียน หมู่ที่ 3 ตำบลบางหลวง อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท เป็นเขื่อนทดน้ำขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นเป็นแห่งแรกของประเทศไทย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธานเปิดเขื่อนเจ้าพระยาเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2500 เขื่อนเจ้าพระยามีลักษณะเป็นเขื่อนคอนกรีตเสริมเหล็ก ยาว 237.50 เมตร สูง 16.5 เมตร ติดตั้งบานประตูเหล็กรูปโค้งสูง 7.50 เมตร มีช่องระบายให้น้ำไหลผ่านขนาดกว้าง 12.50 เมตร จำนวน 16 ช่อง ประตูน้ำสำหรับเรือสัญจรติดกับเขื่อนด้านขวากว้าง 14 เมตร ยาว 170.50 เมตร เรือขนาดใหญ่สามารถผ่านเข้าออกได้ บนสันเขื่อนมีสะพานกว้าง 7 เมตร รับรถน้ำหนักบรรทุกไม่เกิน 20 ตัน และมีทางระบายน้ำล้นฉุกเฉินสร้างบนคันกั้นน้ำซ้ายมือเหนือเขื่อนเจ้าพระยา กว้าง 10 เมตร ยาว 1,000 เมตร เพื่อช่วยระบายน้ำเมื่อเกิดอุทกภัย อัตราการระบายน้ำผ่านเขื่อนสูงสุดประมาณ 3,300 […]

Read More

เขาสรรพยา

เขาสรรพยา ตั้งอยู่ในเขตท้องที่ หมู่ 1 ตำบลสรรพยา อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท ภูเขาลูกนี้เดิมชื่อว่า เขาสับยา ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็นเขาสรรพยา เดิมไม่ค่อยมีใครรู้จักเป็นเพียงภูเขาที่ตั้งอยู่กลางทุ่งนา การเดินทางไปลำบาก จนกระทั่งชาวบ้านได้ขึ้นไปค้นพบวัตถุโบราณบนภูเขา เช่นพระอุโบสถ เจดีย์ ศาลาการเปรียญ ซึ่งโบราณสถานเหล่านี้ได้ชำรุดทรุดโทรมมาก นอกจากนี้เขาสรรพยายังมีสิ่งที่น่าสนใจและศึกษามากมาย เช่นถ้ำน้ำมนต์หรือถ้ำพระฉาย มีน้ำอันศักดิ์สิทธิ์ ชาวบ้านเชื่อกันว่าสามารถรักษาโรคได้ทุกชนิด ถ้ำกบ ถ้ำลับแลหรือถ้ำมหาสมบัติ ถ้ำค้างคาว ซึ่งมีต้นกรณีและตรีชวา ซึ่งเป็นยาสมุนไพร ภูเขาแห่งนี้เป็นภูเขาที่มีตำนานเกี่ยวกับเรื่องรามเกียรติ์ มีความเป็นมาทางประวัติศาสตร์ เรื่องรามเกียรติ ตอนหนึ่งว่า เมื่อพระลักษณ์ถูกหอกโมกขศักดิ์ ของกุมภกรรณ หนุมาน ซึ่งเป็นทหารเอกได้ขันอาสามาเอาตัวยา ชื่อ “สังกรณี” และ “ตรีชวา” ณ เขาสรรพยาแห่งนี้เพื่อนำไปบดเป็นกษัยผสมกับน้ำในแม่น้ำปัญจมหานที เอาไปพอกที่บาดแผล ซึ่งจะทำให้หอกโมกขศักดิ์หลุดจากตัวพระลักษณ์ ลักษณะความสวยงามและทิวทัศน์ของเขาสรรพยา ขึ้นไปตามบันไดขึ้นเขาราว 200 ขั้น จะพบกับรูปหนุมานซึ่งเป็นรูปปั้นแกะสลักจากหินขนาดใหญ่ และมีถ้ำน้ำมนต์ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เมื่อขึ้นไปบนเขามองลงมาจากข้างบน จะเห็นทิวทัศน์สวยงามตามธรรมชาติของท้องทุ่ง และบริเวณรอบ ๆ มีต้นไม้โดยเฉพาะต้นตาลขึ้นเรียงรายดูสวยงาม [adsense-2] ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม ตำรวจท่องเที่ยว โทร. 1155 ตำรวจทางหลวง […]

Read More

เที่ยว ชัยนาท

ชัยนาท “หลวงปู่ศุขลือชา เขื่อนเจ้าพระยาลือชื่อ นามระบือสวนนก ส้มโอดกขาวแตงกวา” เทศกาล/ประเพณี งานเทศกาลมหกรรมหุ่นฟางนก จัดเป็นประจำทุกปีในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ ณ บริเวณเขื่อนเรียงหิน หน้าศาลากลางจังหวัด งานส้มโอชัยนาท จัดเป็นประจำในช่วงปลายเดือนสิงหาคม – ต้นเดือนกันยายน บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัด ประเพณีตักบาตรเทโว จ.ชัยนาท จัดเป็นประจำทุกปีในช่วงวันแรม 1 8่ำ เดือน 11 (ประมาณเดือนตุลาคม) ณ วัดธรรมามูลวรวิหาร อ.เมือง การเดินทาง รถทัวร์ จากสถานีขนหมอชิต 2 มีรถของบขส. ออกเที่ยวเวลา 05:00-22:00 น. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง ค่าโดยสารประมาณ 120 บาท ข้อมูลเพิ่มเติมโทร 1490 และมีรถของบริษัทชัยนาททัวร์ ออกทุกๆ 1 ชั่วโมง ค่าโดยสารประมาณ 130-160 บาท รถตู้ มีวินรถตู้ศิษย์หลวงปู่ศุขบริการ จอดข้างสวนสาธารณะสันติภาพ (ซอยราชวิถี 3) เวลา 05:00-20:00 น. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง […]

Read More

อุทยานแห่งชาติลำคลองงู

อุทยานแห่งชาติลำคลองงู ขาลุยขาผจญภัย มาที่นี่รับรองประทับใจมากค่ะ อุทยานแห่งชาติลำคลองงู ตั้งอยู่ที่อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำหรับผู้ที่มีใจรักธรรมชาติ ต้นไม้ ป่าเขาลำเนาไพร ถ้ำ และน้ำตก เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการพักผ่อน ชมธรรมชาติ และผู้ที่ต้องการผจญภัยแบบท้าทายความกล้า เพราะในพื้นที่การดูแลของอุทยานฯ มีสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งที่ต้องเดินป่า ปีนเขา เข้าถ้ำ ลุยลำน้ำ จึงเหมาะกับผู้ที่มีใจและกายพร้อมที่จะลุยป่า และไม่หวั่นต่อความยากลำบากในการเดินทาง ซึ่งอุทยานแห่งนี้เต็มไปด้วยลำห้วยที่ไหลวกวนและสลับซับซ้อนผ่ากลางผืนป่ากัดเซาะเพิงผาเทือกเขาหินปูน จนกลายเป็นโพรงถ้ำขนาดใหญ่หลายแห่ง ประกอบกับการสะสมของตะกอนหินปูนที่ใช้เวลานานแสนนาน จึงเกิดเป็นหินงอกหินย้อยประติมากรรมของธรรมชาติที่สวยงาม ทำให้ภายในอุทยานแห่งชาติลำคลองงูจึงมีถ้ำหลายแห่งที่น่าเดินทางเข้าไปสำรวจความงดงาม เช่น ถ้ำเสาหิน, ถ้ำนกนางแอ่น, ถ้ำน้ำตก และถ้ำใหญ่ เป็นต้น โดยแต่ละถ้ำจัดได้ว่าเป็นถ้ำที่มีความงดงามและมหัศจรรย์เป็นอย่างยิ่ง การเดินทางเข้าชมถ้ำภายในอุทยานแห่งชาติลำคลองงูนั้น จะต้องมีการวางแผนการเดินทางล่วงหน้า รวมทั้งต้องจัดเตรียมอุปกรณ์ในการเข้าชมถ้ำและเตรียมสภาพร่างกายให้พร้อมสำหรับการเดินทาง รวมทั้งผู้นำทางที่ชำนาญเส้นทาง ช่วงเดือนที่เหมาะสม ได้แก่ เดือนมีนาคม-พฤษภาคมของทุกปี เนื่องจากในฤดูฝนระดับน้ำในถ้ำจะสูงมากไม่สามารถเข้าไปเที่ยวชมได้ สิ่งที่น่าสนใจภายในอุทยาน ถ้ำเสาหิน อยู่ห่างจากปากห้วยลำคลองงู 6 กิโลเมตร ลักษณะเป็นถ้ำทะลุภายในมีห้วยลำคลองงูไหลผ่านตลอด จุดเด่นที่น่าสนใจคือ เสาหินขนาดใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางถ้ำ วัดความสูงจากพื้นถึงยอดเสาได้ 62.5 เมตร นับได้ว่าเป็นเสาหินที่สูงที่สุดเท่าที่เคยพบมาในปัจจุบัน อีกทั้งภายในถ้ำยังมีหินงอกหินย้อย รูปทรงต่างๆ เป็นจำนวนมาก […]

Read More

เหมืองปิล็อก

เหมืองปิล็อก ใครที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวแนวผจญภัยหาขุมทรัพย์ ห้ามพลาดที่นี่เลยค่ะ เหมืองปิล็อก ตั้งอยู่ที่ตำบลปิล็อก อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจบุรี ในอดีตที่นี่เป็นสถานที่ทำเหมืองแร่ดีบุกและแร่วุลแฟรมที่รุ่งเรืองมาก จนกลายเป็นแหล่งการค้าและการขายแรงงานขนาดย่อม แต่ราวๆปี พ.ศ.2527 ความไม่คุ้มทุนในการทำธุรกิจเริ่มก่อเกิด และหากดันทุรังทำต่อไปก็มีแต่จะสูญเปล่า เหมืองแห่งนี้จึงต้องปิดตัวลงในปี พ.ศ. 2529 และกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติอันงดงามตระการตา ถึงจะล่วงเลยมานานหลายสิบปีแล้วก็ตาม แต่เรื่องราวที่เล่าขานถึงยุคแห่งความรุ่งเรืองของเหมืองแร่ ความกันดารยากลำบาก และความงดงามของสภาพภูมิประเทศดินแดนแห่งทะเลขุนเขาแห่งนี้ ก็ยังอยู่ในความทรงจำที่สืบทอดถึงผู้คนรุ่นปัจจุบันไม่เสื่อมคลาย นอกจากความสวยงามของเส้นทาง ร่องรอยอดีตของการทำเหมืองแร่ก็ยังคงปรากฎให้เห็น ผสมผสานไปกับความงดงามของสภาพภูมิประเทศ ท่ามกลางอ้อมกอดของเทือกเขาน้อยใหญ่แล้ว วิถีชีวิตของผู้คนที่บ้านอีต่อง ก็ยังเป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่ง ที่ทำให้นักเดินทางไม่ลังเลที่จะแวะเวียนมาเยือน ก่อนจะเดินทางต่อไปยังจุดหมายอื่น ๆ เพื่อไปสัมผัสความน่ารัก ใส ซื่อ ไม่ปรุงแต่งของผู้คนบ้านอีต่อง และหากมีเวลาก็อย่าลืมพักค้างคืน ณ โฮมสเตย์บ้านอีต่อง รวมถึงแวะไปชม “ปิล็อกฮิลล์” สถานที่ปลูกไม้ผลและไม้ประดับเมืองหนาวนะคะ ประวัติความเป็นมาของเหมืองปิล็อก ย้อนอดีตไปเมื่อหลาย 10 ปีก่อน มีผู้พบเห็นชาวพม่าเข้ามาลักลอบขุดแร่ในพื้นที่ตำบลปิล๊อกไปขายให้ทหารอังกฤษ คำเล่าลือนี้ทำให้ กรมทรัพยากรธรณีสมัยนั้นนำคณะนายช่างมาสำรวจก็ถึงกับตะลึง เมื่อพบว่าพื้นที่แถบนี้ี่มีแร่ดีบุกและวุลแฟรมอยู่มากมายและมักอยู่ปะปนกัน คือ แร่ทังสะเตน และยังมีสายแร่ทองคำ ปะปนอยู่กับสายแร่ดีบุก ต่อมา ปี พ.ศ. 2483 องค์การเหมืองแร่ กรมโลหะกิจ […]

Read More

ปางช้างไทรโยค

ปางช้างไทรโยค ตั้งอยู่เลขที่30/2 หมู่ 3 บ้านลุ่มผึ้ง ตำบลลุ่มสุ่ม อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุ เป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมของจังหวัดกาญจนบุรี ด้วยธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์และสวยงาม มากมายไปด้วยพืชพรรณต่างๆ นานา บรรยากาศร่มรื่นสบายตา ทำให้มีนักท่องเที่ยวมาเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ที่ปางช้างไทรโยคได้มีช้างไว้บริการให้นักท่องเที่ยวได้ขี่ชมธรรมชาติถึงเกือบ 40 เชือก นักท่องเที่ยวจะได้ชมบรรยากาศที่สวยงามตลอดจนสายน้ำที่เย็นสบายตาและร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ นอกจากจะได้ขี่ช้างสัมผัสธรรมชาติแล้วนักท่องเที่ยวยังสามารถชมการแสดงจากช้างที่ปางช้างไทรโยคแห่งนี้ เป็นการแสดงของช้างที่มีความชาญฉลาดและน่ารักสามารถสร้างความประทับใจแก่นักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเด็กที่จะได้รับเสียงหัวเราะกับประสบการณ์ที่น่าสนใจกลับไปด้วย กิจกรรมที่น่าสนใจ เลี้ยงช้างป้อนอาหารให้ช้าง ถ่ายภาพกับช้างเป็นภาพแห่งความทรงจำและประทับใจไม่รู้ลืมมีบริการถ่ายภาพดิจิตอลเลือกภาพได้ตามความพอใจรอรับได้เลยค่ะ นั่งช้างชมธรรมชาติ ชมช้างให้นมลูกชมความน่ารักของช้างน้อยเกิดใหม่ ชมความน่ารักของการแสดงช้างน้อยแสนรู้ ล่องแพไม้ไผ่ชมความงามสองฝั่งของแม่น้ำแควน้อย [adsense-2] ช่วงเวลาที่เปิดให้เข้าชม ปางช้างไทรโยคเปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 9.00 น ถึง 16.00 น ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม ปางช้างไทรโยค โทร. (034) 511 200 , (034) 623 691 สำนักงานการท่องเที่ยวกาญจนบุรี (034) 511 200 สำนักงานจังหวัดกาญจนบุรี โทร. (034) 511 778, (031) […]

Read More