Category: ภาคตะวันออก

ตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศร

ตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ตั้งอยู่เลขที่ 32/7 หมู่ 12 ถนนปราจีนอนุสรณ์ อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี อยู่ภายในโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ตึกหลังนี้เจ้าพระยาอภัยภูเบศร(ชุ่ม อภัยวงศ์) สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2452 โดยให้บริษัทโฮวาร์ด เออร์สกิน เป็นผู้ออกแบบก่อสร้าง เพื่อถวายเป็นที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว หากเสด็จมณฑลปราจีนบุรีอีก หลังจากที่ได้เสด็จในครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2451แต่เสด็จสวรรคตก่อนในกลางปี พ.ศ. 2453 ต่อมาในปี พ.ศ. 2480 เมื่อพระองค์ได้นำเสด็จสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี พระราชธิดา ไปประทับที่ประเทศอังกฤษ จึงประทานที่ดินและสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดนั้นแก่มณฑลทหารบกที่ 2 จังหวัดปราจีนบุรี เพื่อใช้เป็นสถานพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร และได้เปลี่ยนเป็น โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2509 โดยมีสมเด็จเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี และพระนางเจ้า สุวัทนา พระวรราชเทวี เสด็จฯมาทรงเปิดป้าย โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร พร้อมทั้งทรงรับโรงพยาบาลแห่งนี้ไว้ในพระอุปถัมภ์ ตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศรตัวอาคารเป็นสถาปัตยกรรมยุโรปแบบบาโร้ค (Barogue)เป็นตึกสองชั้นมีมุขด้านหน้าตรงกลางเป็นโดมผนังด้านนอกมีลายปูนปั้นลายพฤกษาประดับ ซุ้มประตูและ หน้าต่างภายในตึกแบ่งออกเป็นหลายห้อง ห้องที่งดงามที่สุดคือห้องโถงกลางชั้นล่างซึ่งยังคงลักษณะการตกแต่งภายในแบบเดิม อยู่ครบถ้วนตั้งแต่ลวดลายกระเบื้องปูพื้นภาพเขียนสีปูนเปียกบนเพดาน และลายปูนปั้นหัวเสาปัจจุบันใช้เป็นที่จัดแสดงประวัติเจ้าพระยาอภัยภูเบศร […]

Read More

น้ำตกธารทิพย์

น้ำตกธารทิพย์ อีกหนึ่งน้ำตกที่สวยงามแห่งหนึ่งของจังหวัดปราจีนบุรีค่ะ น้ำตกธารทิพย์ ตั้งอยู่ที่บ้านเนินหินตั้ง ตำบลหนองแก้ว อำเภอประจันตคาม จังหวัดปราจีนบุรี เป็นธารน้ำที่ไหลผ่านชั้นหินต่างระดับ บางช่วงไหลผ่านลานหินบริเวณกว้าง บางช่วงเป็นแอ่งน้ำลึก สามารถลงเล่นน้ำได้ มีลานหินสำหรับนั่งพักผ่อน ฝั่งซ้ายของลำธารลักษณะค่อนข้างสูงชัน สภาพโดยทั่วไปยังเป็นป่าที่คงความอุดมสมบูรณ์ตามธรรมชาติ บรรยากาศร่มรื่น เหมาะเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจเป็นอย่างดี [adsense-2] ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม ตำรวจท่องเที่ยว 1155 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคกลางเขต 8 กลุ่มจังหวัดเบญจบูรพาสุวรรณภูมิ โทรศัพท์ (037) 312 282, (037) 312 284 โทรสาร (037) 312 286 สถานีตำรวจภูธรจังหวัดปราจีนบุรี (037) 211 058, 191 ตำรวจทางหลวง (037) 290 066, 193 สถานีรถไฟปราจีนบุรี (037) 211 120 สถานีขนส่งปราจีนบุรี (037) 211 292 โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร (037) 211 […]

Read More

แก่งหินเพิง

แก่งหินเพิง สถานที่สำหรับผู้รักการผจญภัยทางการท่องเที่ยวทางน้ำโดยเฉพาะการล่องแก่ง แก่งหินเพิงตั้งอยู่ภายในเขตความรับผิดชอบของหน่วยพิทักษ์ “อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่” ที่ 9 (ใสใหญ่) หรือ ขญ. 9 ต.สะพานหิน อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี จากด่านตรวจของ “อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่” ฝั่ง จ.ปราจีนบุรี ยังต้องเดินเท้าต่อไปอีกราว 2.5 กิโลเมตรสู่จุดลง “ล่องแก่งหินเพิง” ทุกปีในช่วงฤดูฝนตั้งแต่ประมาณเดือนกรกฎาคม-ตุลาคม ที่แก่งหินเพิงจะมีกระแสน้ำไหลเชี่ยวท้าทายนักผจญภัยทางน้ำ และคึกคักมากเป็นพิเศษเพราะจะเป็นช่วงของเทศกาล “ล่องแก่งหินเพิง” ที่แก่งหินเพลิงนี้ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หัดพายหรือมือเก่าเซียนล่องแก่งก็สามารถมาสนุกได้ การล่องแก่งที่นี่จะมีระดับความยากที่วัดกันไว้อยู่ในระดับ 3-5 ขึ้นอยู่กับระดับชั้นของแก่งที่เราเริ่มต้นล่องแพลงมา ในการล่องแก่งแต่ละเที่ยวนั้น แพยางที่ใช้เแต่ละลำจะจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวอยู่ที่ลำละ 8 -10คน ส่วนในเรื่องของความปลอดภัยนักล่องแก่งมือใหม่ก็ไม่ต้องกังวล เพราะก่อนที่เราจะเริ่มผจญภัยจะต้องมีการอบรมและเตรียมตัวกันก่อน และในแพแต่ละลำก็จะมีเจ้าหน้าที่ไปกับเราและคอยให้คำแนะนำและดูแลไปตลอดการล่องด้วย แม้ว่าจะมีอุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัยให้ไม่ว่าจะหมวกหรือเสื้อชูชีพ แต่ทุกคนก็ควรจะปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัดเพื่อความปลอดภัยของตัวเองรวมถึงเพื่อนร่วมทีมด้วย นอกจะตื่นเต้นเร้าใจกับการปะทะกับคลื่นน้ำเวลาที่อยู่บนแพตอนผ่านตามแก่งต่างๆแล้ว แพบางลำคนนำทางอาจจะพาเราเล่นพายหมุนวนทวนน้ำให้เกิดความตื่นเต้นสนุกสนานเพิ่มได้อีก และที่แก่งหินเพิงนี้ยังมีความพิเศษอีก 1 อย่างคือ จะมีช่วงหนึ่งของแก่งที่เราสามารถลงไปเล่นได้แค่นอนนิ่งๆทำตัวขนานไปกับน้ำ สายน้ำจะพาตัวเราไหลไปคล้ายกับการเล่นสไลเดอร์ (จะเรียกกันตรงนี้กันว่าแก่งสไลเดอร์) นี่ถือเป็นสิ่งที่ไม่ควรพลาดถ้าได้มาล่องแก่งหินเพิงแห่งนี้ แต่กิจกรรมนี้ต้องกระซิบถามกับคนประจำแพแต่ละลำกันเอง ว่าช่วงที่ไปจะสามารถเล่นได้หรือไม่เพื่อความไม่ประมาทนะคะ แก่งทั้ง 6 ที่จะล่องผ่านมีความท้าทายแตกต่างกัน แก่งหินเพิง เป็นจุดเริ่มต้นของการล่องแก่ง ลักษณะหินของแก่งหินเพิง เป็นแก่งยาวประมาณ 150 เมตร […]

Read More

เที่ยว ปราจีนบุรี

ปราจีนบุรี “ศรีมหาโพธิ์คู่บ้าน ไผ่ดงหวานคู่เมือง ผลไม้ลือเลื่อง เขตเมืองทวารวดี” งานวันเกษตรปราจีนบุรี จัดเป็นประจำทุกปีในช่วงเดือน พฤษภาคม-มิถุนายน ณ ลานพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 5 เทศกาลล่องแก่งหินเพิ่ง จัดเป็นประจำทุกปีในช่วงเดือนกรกฎาคม-ตุลาคม บริเวณหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ที่ 9 (ชญ.9) อ.นาดี งานแข่งเรือยาวประเพณี จัดเป็นประจำทุกปีในช่วงสัปดาห์ที่ 2 ของเดือน กันยายน บริเวณแม่น้ำบางปะกง หน้าที่ว่าการ อ.เมือง การเดินทาง รถทัวร์ จากสถานีขนส่งเอกมัย มีรถ 2 ไม่มีรถสายตรงไปปราจีนบุรี แต่มีสายที่ผ่านและแวะจอดส่งผู้โดยสารที่สถานีขนส่งกบินทร์บุรี คือ สายกรุงเทพ-โรงเกลือ, กรุงเทพ-องครักษ์-โรงเกลือ, กรุงเทพ-อรัญประเทศ, กรุงเทพ-องครักษ์-อรัญประเทศ  รถออกทุกวัน เวลา 03:30 – 18:15 น. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.30 ชม. ค่าโดยสารประมาณ 148 บาท ข้อมูลเพิ่มเติมโทร 1490 รถตู้ มีบริการอยู่หลายคิวรถบริเวณอนุสาวรีย์ชัยฯ รถออกทุกวัน เวลา […]

Read More

อนุสรณ์สถานยุทธนาวีที่เกาะช้าง

อนุสรณ์สถานยุทธนาวีที่เกาะช้าง ตั้งอยู่ที่ถนนสุขาภิบาล 3 ตำบลแหลมงอบ อ.แหลมงอบ จ.ตราด ภายในบริเวณมีลักษณะเป็นอนุสาวรีย์กรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์หันพระพักตร์ไปยังบริเวณยุทธนาวีเกาะช้าง และภายใต้อนุสาวรีย์ยังเป็นอาคารพิพิธภัณฑ์ ที่ออกแบบคล้ายเรือรบ เพื่อให้รำลึกถึงประวัติศาสตร์ของกรมกลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์กับประวัติศาสตร์การสู้รบของกองทัพเรือไทยกับกองกำลังเรือรบของฝรั่งเศส โดยจำลองภาพเหตุการณ์ของวันที่ 16-17 มกราคม พ.ศ. 2484 ซึ่งกองกำลังของฝรั่งเศสในอินโดจีนได้ส่งกำลังทางเรือเข้ามาทางหัวเมืองชายทะเลตะวันออกของไทย พร้อมเครื่องบินลาดตระเวณทางอากาศ กองทัพเรือได้จัดกำลังทางเรือปกป้องน่านน้ำไทยและได้ปะทะกันอย่างองอาจกล้าหาญ เรือรบหลวงธนบุรีได้ยิงต่อสู้จนเรือข้าศึกถอยไปทั้งๆที่ถูกยิงเสียหายอย่างหนักจนจมลงในที่สุด พร้อมการสูญเสียกำลังพลประจำเรือถึง 36 นาย การรบที่เกาะช้าง หรือที่รู้จักกันในนาม ยุทธนาวีเกาะช้าง เป็นเหตุการณ์รบทางเรือที่เกิดขึ้นในกรณีพิพาทไทย-อินโดจีนฝรั่งเศส อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากการที่ไทยเรียกร้องให้ปรับปรุงเส้นแบ่งเขตแดนไทย-อินโดจีนฝรั่งเศสเสียใหม่ โดยใช้แนวร่องน้ำลึกเป็นเกณฑ์ตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศและหลักความยุติธรรม และให้ฝรั่งเศสคืนดินแดนฝั่งขวาแม่น้ำโขงที่ฝรั่งเศสยึดไปจากเหตุการณ์ ร.ศ. 112 ให้ไทย ยุทธภูมิในการรบครั้งนี้เกิดขึ้นที่บริเวณด้านใต้ของเกาะช้าง จังหวัดตราด เมื่อวันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2484 และถือเป็นการรบทางทะเลครั้งเดียวในประวัติศาสตร์กองทัพเรือไทย และรัฐบาลวิชีฝรั่งเศสในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง อีกด้วย [adsense-2] กิจกรรมที่น่าสนใจ ทางกองทัพเรือได้จัดงานรำลึกวีรกรรมแห่งยุทธนาวีครั้งนั้น ในวันที่ 17-21 มกราคมของทุกปี ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม สนง.จังหวัดตราด (039) 511 282 ประชาสัมพันธ์จังหวัด (039) […]

Read More

แหลมงอบ

แหลมงอบ เป็นอำเภอเลียบชายหาด สุดแผ่นดินตะวันออก ของจังหวัด ตราด สภาพภูมิศาสตร์ของ แหลมงอบ เป็นที่ราบ พื้นที่มีอยู่ทั้งในอ่าวทะเลและบนพื้นดิน มี 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน บางส่วนอยู่นอกเขตเทศบาล มีแนวเขตตั้งแต่หลัก ก.ม.ที่ 19 ถนน ตราด – แหลมงอบ ระยะทางจากกรุงเทพฯ ประมาณ 332 กิโลเมตร แหล่มงอบแห่งนี้มีท่าเทียบเรือขนาดใหญ่ห่างจากที่ว่าการอำเภอประมาณ 500 เมตร สามารถเช่าเรือไปเที่ยวเกาะต่างๆ ได้เช่น เกาะช้างเกาะกระดาด เกาะกูด เกาะแรด ฯลฯ นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังสามารถหาซื้อของที่ระลึกจำพวก กะปิ น้ำปลา กุ้งแห้ง และงอบแบบต่างๆ ได้จากร้านค้าทั่วไปในเขตอำเภอแหลมงอบ บริเวณรอบชายฝั่งเป็นป่าชายเลน ที่อยู่ในความดูแลขององค์การบริหารส่วนตำบลหนองโสน อำเภอ แหลมงอบ จังหวัด ตราด [adsense-2] ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม สนง.จังหวัดตราด (039) 511 282 ประชาสัมพันธ์จังหวัด (039) 530 585 […]

Read More

หาดลานทราย

หาดลานทราย ตั้งอยู่ที่ตำบลแหลมกลัด อำเภอเมือง จังหวัดตราด เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติมีบรรยากาศที่เงียบสงบนักท่องเที่ยวนิยมมาพักผ่อนกัน หาดทรายสีขาวนวล น้ำใสน่าเล่นในช่วงเดือน พ.ย. ถึงต้น พ.ค. หน้าหาดน้ำไม่ลึกมากสามารถลงเล่นน้ำได้ บริเวณหาดมีที่พักไว้บริการนักท่องเที่ยวเพียงแห่งเดียว ได้แก่ หาดลานทราย รีสอร์ท แต่ก่อนถึงหาดจะมีบังกะโลชื่อ ลานทรายบังกะโลมีร้านอาหารทะเลราคาสมเหตุสมผล เช่น ปลากะพงนึ่งมะนาวตัวละ 150 บาท ยำต่าง ๆ จานละ 60 บาท นอกจากนี้ยังมีการชมโลมาบริเวณแหลมกลัดโลมาที่พบในอ่าวแหลมกลัด เป็นโลมาชนิดหัวบาตร พันธุ์อิรวดี จะเข้ามาหากินปลาทูบริเวณชายฝั่งของแหลมกลัด เนื่องจากช่วงนี้จะมีปลาทูมาศัยอยู่มากในบริเวณนี้ โดยเฉพาะในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ – พฤษภาคม จะพบเห็นโลมาเป็นฝูง ๆ ละประมาณ 5 – 10 ตัว บางฝูงก็จะมีลูกมาด้วย ส่วนโลมาปากขวดนาน ๆ จะว่ายเข้ามาให้เห็น การเดินทางออกไปชมจะต้องนั่งเรือออกไปจากฝั่งประมาณ 2 – 3 ไมล์ทะเลก็จะได้พบเห็นโลมาซึ่งนักท่องเที่ยวอาจใช้บริการเรือประมง เรือเร็ว หรือเรือขนาดเล็กไปเที่ยวชมได้โดยไม่มีอันตราย เนื่องจากอยู่ใกล้ฝั่ง และมีเกาะช้างบังกระแสลม ทำให้คลื่นไม่แรง สำหรับการชมปลาถ้าต้องการให้ปลาเข้ามาใกล้เรือควรมีเหยื่อปลาทูสดติดไปด้วย เพื่อให้โลมาว่ายมากินเหยื่อใกล้เรือ ข้อดีก็คือ […]

Read More

หาดบานชื่น

หาดบานชื่น ตั้งอยู่ที่ อ.คลองใหญ่ จ.ตราด เป็นหาดที่มีทรายที่ขาวเนื้อละเอียด เนื่องจากในเนื้อทรายมีส่วนผสมของแร่เซลิก้าอยู่มาก หาดสวยน้ำใสสามารถลงเล่นน้ำได้ และยังมีบังกะโลที่พักริมชายหาดไว้ให้บริการอีกด้วยค่ะ หาดบานชื่น เดิมชื่อ หาดมะโร ต่อมา เจ้าของที่ดิน ได้บริจาคที่ดินบริเวณหน้าหาด จำนวน 14 ไร่ ให้กับทางจังหวัด เพื่อพัฒนา เป็นแหล่งท่องเที่ยวเมื่อปี พ.ศ. 2527 ขณะที่นายทองดำ บานชื่น เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดตราด หาดบาน ชื่น มีทรายละเอียด เล่นน้ำได้ มีบังกะโลที่พักริมชายหาด นอกจากนี้ ระหว่างเส้นทางไปอำเภอคลองใหญ่จะพบหาดทรายต่างๆ ได้แก่ หาดทรายงาม หาดจินดา หาดเพลิน ฯลฯ ซึ่งแต่ละที่ก็น่าแวะทั้งนั้นเลยค่ะ [adsense-2] กิจกรรมที่น่าสนใจ 1.พักผ่อนริมชายหาด ทานข้าว ปิ้งย่างอาหารทะเลริมชายหาดได้บรรยากาศสุดๆเลยค่ะ 2.เส้นทางศึกษาธรรมชาติชมพันธ์ไม้หายาก “หม้อข้าวหม้อแกงลิง” ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม สนง.จังหวัดตราด (039) 511 282 ประชาสัมพันธ์จังหวัด (039) 530 585 ททท.ภาคกลางเขต 5 (039) 597 […]

Read More

หาดทรายดำ

หาดทรายดำ ตั้งอยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแหลมมะขาม อำเภอแหลมงอบ จ.ตราด หนึ่งเดียวในประเทศไทยที่เมืองตราด และมี 5 แห่งในโลก นอกจากตราดแล้วก็ยังมี ที่ไต้หวัน มาเลเซีย(ลังกาวี) ฮาวาย แคลิฟอร์เนีย (ส่วนหาดทรายสีดำที่ปรากฏในประเทศอื่นนอกเหนือจากนี้ เจ้าหน้าที่ศูนย์ฯหาดทรายดำบอกว่าเป็นคนละประเภทกันค่ะ) เดิมหาดแห่งนี้ชาวบ้านเรียกกันว่า “หัวสวน” เป็นหาดที่เคยมีชาวมุสลิมเป็นเจ้าของ และเคยก่อตรั้งสุเหร่าขึ้นในบริเวณหัวสวน ต่อมาได้ย้ายออกไปกลายเป็นสถานที่ร้าง หลังจากนั้นมีเรื่องเล่ากันว่าชาวบ้านยายม่อมเห็นหาดทรายสีแปลกประหลาดที่นี่ จึงมาลองนั่งหมกตัว ปรากฏว่าหาดทรายที่นี่สามารถทำให้ชาวบ้านคนนั้นที่เป็นโรคอัมพฤกษ์หายได้ จึงเป็นที่โจษจันกันไปว่า หาดทรายดำที่นี่สามารถรักษาโรคได้ ชื่อเสียงของหาดทรายดำจึงแพร่ขจรไปเริ่มจากในท้องถิ่น ก่อนแพร่ขยายไปในระดับประเทศ พร้อมกับสรรพคุณการรักษาโรคที่ถูกกล่าวขานเพิ่มมากขึ้นว่าสามารถรักษาโรคได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น อัมพฤกษ์ อัมพาต โรคปวดเมื่อยตามร่างกาย ปวดตัว ปวดเข่า ปวดหลัง หรือแม้กระทั่งสามารถรักษาสิวฟ้าได้ นั่นจึงทำให้มีคนจำนวนมากเดินทางมาที่นี่ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นมาเพื่อรักษาโรค โดยบางคนลงทุนถึงขนาดนำจอบเสียมมาขุดทรายเป็นหลุมแล้วนำตัวไปลงไปนอน หรือนำทรายมากลบร่างกายแบบที่เด็กๆนิยมเล่นกัน บ้างก็นำทรายไปปิดหน้าปิดตา บางคนหมกแขน ขา หมกตัว หมกกันถึง 3-4 ชั่วโมงหรือครึ่งค่อนวันเลยทีเดียว อย่างไรก็ดีในเรื่องสรรพคุณการรักษาโรคนั้น ทางผู้ที่เกี่ยวข้องกับหาดทรายดำก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ทำการส่งทรายสีดำไปพิสูจน์ พบว่า ทรายดำที่หาดแห่งนี้มีชื่อทางวิชาการว่า “ไลโมไนต์” (Limonite) เป็นแร่ที่เกิดจากการยุบตัวของเศษเหมืองและเปลือกหอยผสมด้วยควอตซ์ […]

Read More

วัดโยธานิมิต

วัดโยธานิมิต หรือวัดโบสถ์ ตั้งอยู่ที่หมู่ 1 ถ.เทศบาล 4 อำเภอเมืองตราด จังหวัดตราดเป็นวัดหลวงเพียงแห่งเดียวในจังหวัดตราด สร้างขึ้นเมื่อครั้งสมเด็จพระเจ้าตากสินมารวบรวมไพร่พลที่เมืองตราด หากเสร็จสมบูรณ์ในสมัยรัชกาลที่ 3 วัดแห่งนี้เป็นสถานที่ที่ทำพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยาของบรรดาข้าราชการ ตั้งแต่สมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ต่อมา ในสมัยรัชกาลที่ 5 จึงได้เปลี่ยนมาทำพิธีที่วัดไผ่ล้อม ในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ได้โปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพระยาพระคลังคุมทัพเรือมาทำสงครามกับเขมร และระหว่างที่พักกองทัพอยู่นั้น ได้พร้อมใจกันสร้างวัดขึ้นขนานนามว่า “วัดโยธานิมิต” เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจระลึกถึงการที่เคยได้ร่วมรบ ร่วมกิน ร่วมนอนมาด้วยกัน โบราณสถานที่สำคัญของวัดนี้ ได้แก่ พระวิหาร (พระอุโบสถหลังเก่า) ซึ่งเป็นศิลปะแบบอยุธยา ภายในมีภาพจิตรกรรมฝาผนังเล่าเรื่องพระเวสสันดรชาดก ปัจจุบันกลายเป็นพระวิหาร เรียกว่า วิหารโยธานิมิตร และเป็นที่เก็บโบราณวัตถุ อาทิ หนังสือใบลาน คัมภีร์เทศน์ และรอยพระพุทธบาท [adsense-2] ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม สนง.จังหวัดตราด (039) 511 282 ประชาสัมพันธ์จังหวัด (039) 530 585 ททท.ภาคกลางเขต 5 (039) 597 […]

Read More