สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำบึงฉวาก

สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำบึงฉวาก เป็นบึงน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่ มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 2,700 ไร่ อยู่ห่างจากตัวเมืองสุพรรณบุรีประมาณ 64 กิโลเมตร บึงฉวากมีพื้นที่ติดต่อกับอำเภอหันคา จังหวัดชัยนาทและอำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี ส่วนที่อยู่ในเขตอำเภอเดิมบางนางบวชมีพื้นที่ประมาณ 1,700 ไร่ บึงฉวากได้รับประกาศให้เป็นเขตห้ามล่าสัตว์มาตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2526 และในปี พ.ศ. 2541 ได้รับการจัดให้เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระดับชาติ ตามอนุสัญญาแรมซาร์ที่ประเทศไทยเป็นภาคี เนื่องจากความหลากหลายของพันธุ์พืชและสัตว์ที่มีในบึง ลักษณะที่เรียกว่าเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำตามอนุสัญญาแรมซาร์ คือพื้นที่ลุ่ม พื้นที่ราบลุ่ม พื้นที่ลุ่มชี้นแฉะ พื้นที่ฉ่ำน้ำ มีน้ำท่วม น้ำขัง พื้นที่พรุ พื้นที่แหล่งน้ำ ทั้งที่เกิดเองตามธรรมชาติและที่มนุษย์สร้าง ทั้งที่มีน้ำขังหรือน้ำท่วมถาวรหรือชั่วคราว ทั้งแหล่งน้ำนิ่งและน้ำไหล แหล่งน้ำจืด น้ำกร่อยและน้ำเค็ม รวมไปถึงชายฝั่งทะเลและทะเลในบริเวณซึ่งเมื่อน้ำลดต่ำสุด น้ำลึกไม่เกิน 6 เมตร ซึ่งบึงฉวากเข้าข่ายลักษณะดังกล่าว คือเป็นบึงน้ำจืดที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ มีความลึกเฉลี่ยประมาณ 1 – 3 เมตร เมื่อปี พ.ศ.2538 ฯพณฯบรรหาร ศิลปอาชา เป็นนายกรัฐมนตรี ได้พัฒนาบึงฉวากเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองสิริราชสมบัติครบรอบ […]

Read More

วัดไผ่โรงวัว

วัดไผ่โรงวัว ตั้งอยู่ที่ ตำบลบางตาเถร อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี วัดนี้สร้างเมื่อ พ.ศ. 2469 เป็นวัดที่มีพุทธ-ศาสนิกชน และบุคคลทั่วไป นิยมไปเที่ยวชมกันมาก หลวงพ่อขอม ได้ดำเนินการก่อสร้าง “พระพุทธโคดม” เป็นพระพุทธรูปโลหะสำริดองค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เริ่มก่อสร้างตั้งแต่ปี พ.ศ. 2502 ใช้เวลาก่อสร้างนานถึง 17 ปี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จพระราชดำเนินมาทรงยกพระเกตุมาลา เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2512 สิ่งที่น่าสนใจภายในวัด สังเวชนียสถาน 4 ตำบล ประกอบด้วยสิ่งก่อสร้างซึ่งจำลองจากสถานที่สำคัญทางพุทธศาสนาสี่แห่งใน ประเทศอินเดียและเนปาล ได้แก่ สวนลุมพินีสถานที่ประสูติซึ่งปัจจุบันอยู่ในเนปาล เจดีย์พุทธคยาสถานที่ตรัสรู้ สถูปเมืองสารนาถซึ่งเป็นที่ตั้งของป่าอิสิปตนมฤคทายวันสถานที่แสดงปฐมเทศนา โปรดปัญจวัคคีย์ และกุสินาราสถานที่ปรินิพพานของพระพุทธองค์ และมีงานประติมากรรมหรือภาพปั้นเรื่องราวเกี่ยวกับพุทธประวัตินรกภูมิ รวมทั้งวรรณคดีและประวัติศาสตร์ พระพุทธโคดม เป็นพระพุทธรูปโลหะสำริดองค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เริ่มก่อสร้างตั้งแต่ปี พ.ศ. 2502 ใช้เวลาก่อสร้างนานถึง 17 ปี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จพระราชดำเนินมาทรงยกพระเกตุมาลา เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2512 พระกกุสันโธ […]

Read More

วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร

วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร  ตั้งอยู่ที่ริมถนนมาลัยแมน ตำบลรั้วใหญ่ อำเภอเมือง อยู่ทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำสุพรรณบุรี ห่างจากศาลากลางจังหวัดประมาณ 4 กิโลเมตร เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดวรวิหาร เป็นวัดเก่าแก่ คาดว่าจะมีอายุราว 1200 ปี โดยน่าจะสร้างขึ้นสมัยที่เมืองสุพรรณบุรีรุ่งเรือง ในพงศาวดารเหนือกล่าวว่า พระเจ้ากาแตทรงให้มอญน้อยมาบูรณะวัดป่าเลไลยก์ในปีพศ.1724 ภายในวิหาร เป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อโต ปางป่าเลไลยก์ สิ่งที่น่าสนใจภายในวัด หลวงพ่อโต เป็นพระพุทธรูปปางป่าเลไลยก์ ศิลปะสมัยอู่ทอง สุพรรณภูมิ (คือประทับนั่งห้อยพระบาท) มีนักปราชญ์หลายท่านว่า เดิมคงเป็นพระพุทธรูปปางปฐมเทศนา สร้างไว้กลางแจ้งอย่างพระพนัญเชิงสมัยแรกต่อมาได้มีการบูรณะ ซ่อมแซมใหม่ และทำเป็นปางป่าเลไลยก์ ดังที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ภายในองค์พระพุทธรูปบรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ 36 องค์ ที่ได้มาจากพระมหาเถรไลยลาย หน้าบันของวิหาร มีเครื่องหมายพระมหามกุฎอยู่ระหว่างฉัตรคู่ บอกให้ทราบว่าพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จธุดงค์มาพบสมัยยังทรงผนวชอยู่ เมื่อเสด็จขึ้นครองราชย์แล้วจึงทรงมาปฏิสังขรณ์ เรือนขุนช้าง เป็นเรือนไทยแบบโบราณ ตั้งอยู่ภายในบริเวณวัดป่าเลไลยก์ สร้างเป็นเรือนไทยไม้สักหลังใหญ่กว้างขวาง ตามเรือนของขุนช้างในวรรณคดีเรื่องขุนช้างขุนแผน ขึ้นไปบนเรือนจะเห็นภาพวาดตัวละครขุนช้าง นักท่องเที่ยวสามารถถ่ายรูปเป็นที่ระลึก แต่ละห้องจะมีภาพบรรยายเล่าเรื่องขุนช้างขุนแผน มีการจัดแสดงเครื่องใช้ต่างๆในสมัยก่อน มีการตกแต่บริเวณโดยรอบสวยงามน่าเที่ยวชม ในเสภาขุนช้างขุนแผน เมื่อนางทองประศรี พาพลายแก้วไปอยู่เมืองกาญจน์เก็บหอมรอมริบ จนกระทั่งมีฐานะเป็นเศรษฐี และเมื่อพลายแก้วเติบโตก็ได้บรรพชาเป็นสามเณรและได้มาเรียนคาถาอาคม […]

Read More

วัดทับกระดาน

วัดทับกระดาน เป็นที่เก็บรักษาสิ่งของต่างๆของพุ่มพวง ดวงจันทร์ นักร้องเพลงลูกทุ่งชื่อดังตำแหน่ง “ราชินีลูกทุ่ง” ทื่เสียชีวิตไปแล้ว เพื่อให้ผู้ที่ยังรักและคิดถึงพุ่มพวงได้แวะเวียนมาระลึกถึง วัดตั้งอยู่ในอำเภอสองพี่น้อง ซึ่งเป็นอำเภอบ้านเกิดของเธอ พุ่มพวงคุ้นเคยกับวัดนี้ตั้งแต่เด็ก ที่วัดมีการเก็บรวบรวมเสื้อผ้าข้าวของเครื่องใช้ในการร้องเพลง รวมทั้งรูปถ่ายจากข่าวหนังสือพิมพ์ไว้ในโบสถ์ของวัด นอกจากนี้บริเวณศาลาท่าน้ำจะมีรูปวาดของพุ่มพวง ดวงจันทร์ ที่มีคนนำมาให้เพื่อแก้บน ด้านหน้าวัดมีร้านขายของสด-แห้งต่างๆ เช่น น้ำพริก หน่อไม้ ผลไม้ ที่ศาลาริมสระน้ำของวัดมีการสร้างหุ่นพุ่มพวงเอาไว้ โดยทางวัดจะมีการจัดงานรำลึกถึงพุ่มพวง ช่วงประมาณวันที่ 13 มิถุนายน ของทุกปี ซึ่งเป็นวันครบรอบการเสียชีวิตของเธอ ประวัติของพุ่มพวง ดวงจันทร์ พุ่มพวง ดวงจันทร์ มีชื่อจริงว่า “รำพึง จิตรหาญ” ชื่อเล่นชื่อ ผึ้ง เกิดเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม พ.ศ.2504 ณ ตำบลบ่อสุพรรณ อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี ครอบครัวมีอาชีพรับจ้างทำไร่อ้อย เจ้าตัวชื่นชอบการร้องเพลงลูกทุ่งตั้งแต่เด็ก เดินสายประกวดร้องเพลงลูกทุ่งโดยใช้ชื่อว่าน้ำผึ้ง ณ ไร่อ้อย ต่อมาได้รับการฝากฝังให้เป็นบุตรบุญธรรมของ ไวพจน์ เพชรสุพรรณ ก่อนที่ไวพจน์ จะแต่งเพลงและอัดแผ่นเสียงชุดแรกให้ ชื่อเพลง แก้วรอพี่ […]

Read More

วัดเดิมบาง

วัดเดิมบาง ตั้งอยู่เลขที่ 233 หมู่ที่ 1 ตำบลเดิมบางนางบวช อำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี วัดแห่งนี้สร้างขึ้นในปีพศ. 2425 คาดว่าน่าจะสร้างในสมัยเดียวกับวัดใต้ วัดบนยอดเขาใหญ่ ต่อมาในปีพศ. 2451 ระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้เสด็จมาประทับที่หน้าวัดเดิมบาง และพระราชทานนามวัดว่า “วัดคงคาราม” สิ่งที่น่าสนใจภายในวัด ธรรมาสน์ ที่สร้างโดยช่างชาวจีน เป็นศิลปะไทยผสมจีน แกะสลักจากไม้ขนุน สร้างเมื่อ พ.ศ. 2458 แต่มาแล้วเสร็จ พ.ศ. 2466 ปัจจุบันเก็บไว้บนศาลาการเปรียญ หอสวดมนต์ ภายในมีการเก็บของมีค่าของวัดไว้ 3 ชิ้น ได้แก่ ฝาบาตรมุก ตาลปัตร และปิ่นโต ซึ่งรัชกาลที่ 5 พระราชทานแก่วัด ทางวัดเก็บรักษาไว้อยู่ในสภาพดี มณฑปหลวงพ่อแจ่ม – หลวงพ่อแบน ภายในยอดมณฑป ได้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และมีรอนพระพุทธบาทจำลองที่มีอายุนานกว่า 100 ปี หอระฆัง หอนี้ได้รับก่อสร้างอย่างประณีตสวยงาม พระอุโบสถ ที่ได้รับการบูรณะใหม่ ภายในมีพระประธานปางป่าเลไลยก์ที่งดงามเป็นอย่างมาก ผนังร้อบพระอุโบสถก็มีภาพจิตรกรรมฝาผนังสภาพสมบูรณ์ […]

Read More

วัดแค

วัดแค เป็นวัดเก่าแก่ที่มีชื่อปรากฏในวรรณคดี เรื่อง “ขุนช้างขุนแผน” อยู่ในอำเภอเมืองสุพรรณบุรี ไปทางเหนือ ห่างจากวัดพระศรีรัตนมหาธาตุประมาณ 2 กิโลเมตร ภายในวัดนี้มีต้นมะขามใหญ่วัดโคนต้นโดยรอบได้ประมาณ 10 เมตร เชื่อกันว่าขุนแผนได้เรียนวิชาเสกใบมะขามจากต้นมะขามต้นนี้ ให้เป็นตัวต่อตัวแตนจากท่านอาจารย์คงไว้โจมตีข้าศึก นอกจากนี้ทางจังหวัดได้สร้างเรือนไทยทรงโบราณเรียกว่า “คุ้มขุนแผน” ไว้ใกล้กับต้นมะขามยักษ์นี้อีกด้วย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เคยเสด็จประพาสวัดแคเมื่อ พ.ศ. 2447 วัดนี้มีโบราณวัตถุที่น่าสนใจ ได้แก่ พระพุทธบาทสี่รอย ทำด้วยทองเหลืองกว้าง 1.40 เมตร ยาว 2.80 เมตร สร้างซ้อนกันไว้ในรอยใหญ่ นอกจากนี้ยังมี พระพุทธรูปปางมารวิชัย ขัดสมาธิราบศิลปรัตนโกสินทร์ จีวรและอังสะเป็นลายดอกพิกุลงดงามมาก ประดิษฐานอยู่ในวิหารหน้าพระประธาน สิ่งที่น่าสนใจอื่น ๆ เช่น ระฆังทองเหลือง หม้อต้มกรักทองเหลือง ตู้ใส่หนังสือที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงถวายเมื่อปี พ.ศ. 2412 สิ่งที่น่าสนใจภายในวัด มณฑปบูรพาจริยานุสรณ์ เป็นอาคารทรงไทยโดดเด่นเป็นสง่าอยู่ส่วนหน้าของวัดแค ลานจอดรถของวัดแคอยู่หน้ามณฑปบูรพาจริยานุสรณ์แห่งนี้ เป็นลานกว้างขวางมาก ลักษณะที่เราเห็นในวัดเราก็รู้ได้ว่าเป็นวัดที่มีประชาชนเดินทางมาไหว้พระ สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และทำบุญกันมากวัดหนึ่ง ศาลาพระพุทธบาทสี่รอยวัดแค ศาลาหลังนี้สร้างอยู่ด้านข้างของมณฑปบูรพาจริยานุสรณ์ เป็นแบบทรงไทยที่กลมกลืนกัน พระพุทธบาทสี่รอยวัดแค เป็นรอยพระพุทธบาทยุคต้นรัตนโกสินทร์ […]

Read More

วัดเขาพระศรีสรรเพชญาราม

วัดเขาพระศรีสรรเพชญาราม เดิมชื่อ วัดเขาพระ ตั้งอยู่ที่หมู่ที่5 ถนนวินยานุโยค ตำบลอู่ทอง อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นวัดเก่าแก่สมัยทวาราวดี ตั้งอยู่บนภูเขาขนาดย่อม เมื่อเดินขึ้นบันไดขึ้นเขาไป ก่อนถึงยอดจะพบถ้ำประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ หลวงพ่อสังฆ์ ศรีสรรเพชญ์ มีโบราณวัตถุหลายชิ้น เช่น พระพุทธไสยาสน์ พระพุทธรูปปางต่างๆ มีพระเครื่อง พระพิรอด พระถ้ำเสือ รูปฤาษีเป็นแบบพิมพ์สมัยทวารวดีเทวรูปจักรนารายณ์เนื้อหิน สลักจากเนื้อหิน ขนาดกว้าง 97 เซนติเมตร สูง 175 เซนติเมตร แผ่นหินสลักนูนสูง เป็นรูปทิพยบุคคลมี 4 กรพระหัตถ์ขวาบนถือจักร พระหัตถ์ขวาล่างถือตรีศูลพระหัตถ์ซ้ายบนไม่ทราบแน่ชัดว่าถือสิ่งใด ส่วนพระหัตถ์ซ้ายล่างถือคฑา อายุสมัยประมาณพุทธศตวรรษที่ 13 – 14 ขณะที่บนยอดมีพระมณฑปประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลอง แกะสลักจากหินเขียวธรรมชาติ และซากเจดีย์สมัยอยุธยา 1 องค์ เป็นเจดีย์ฐานสี่เหลี่ยมจัตุรัส ยาวกว้างด้านละ 8 เมตร ส่วนบนเป็นองค์ระฆังสมัยทวารวดี เป็นการก่อสร้างเจดีย์สมัยอยุธยา ซ้อนทับบนโบราณสถานสมัยทวารวดี พบพระพิมพ์ดินเผาปางแสดงธรรมด้วยพระหัตถ์ทั้งสองข้างประทับยืนภายในซุ้มจำนวน 2 องค์ หลังจากสักการะกราบไหว้แล้ว […]

Read More

วัดเขานางบวช

วัดเขานางบวช ตั้งอยู่บนเขานางบวช มีทิวทัศน์ที่สวยงาม และเป็นวัดสำคัญที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน และเรื่องราวราวเล่าขานที่น่าสนใจ มีทั้งทางราดยางและบันได 249 ขั้น ขึ้นไปจนถึงยอดเขา เป็นวัดของพระอาจารย์ ธรรมโชติ ผู้ทรงคุณวุฒเครื่องรางของขลังสมัยศึกบางระจัน ชาวบ้านบางระจันได้นิมนต์ไปเป็นกำลังใจการสู้รบ กับพม่า มีรอยพระพุทธบาทอยู่ในวิหาร พระอาจารย์ธรรมโชติ ด้านหลังเป็นเจดีย์แผ่นหิน รูปปั้นอาจารย์ธรรมโชติ ภายในศาลามีพระพุทธรูปสมัยรัชกาลที่ 5 ประวัติ และที่มาของวัดเขานางบวช ราวปี 1826 มีหญิงชื่อชบา เป็นสนมแห่งพระร่วงเจ้า กรุงสุโขทัย เกิดเบื่อหน่ายในเพศฆราวาส จึงออกบวชสละทางโลกเข้าจำพรรษารักษาศีลอยู่ในถ้ำบนยอดเขาแห่งนี้ คนทั้งหลายจึงเรียกเขาแห่งนี้ว่า “เขานางบวช” (ถ้ำอยู่ด้านหลังศาลา) ปัจจุบันปากถ้ำทรุดไม่สามารถเข้าไปได้ เล่ากันว่าภายในถ้ำมีข้าวของ เครื่องประดับจำนวนมาก สันนิฐานว่าเป็นของพวกที่ติดตามนางสนมชบา แต่ของเหล่านั้นได้สูญหายไปเมื่อปี พ.ศ.2402 และบางช่วงเวลา วัดแห่งนี้ได้เป็นวัดร้างในบางปีด้วยเครื่อประดับชิ้นสุดท้ายที่พบบริเวณปากถ้ำ เมื่อปี พ.ศ. 2539 เป็นกำไรหยกหัวพญานาค แต่ผู้พบมิได้ถวายเป็นสมบัติวัด สิ่งที่น่าสนใจภายในวัด ศาลาพระอาจารย์ธรรมโชติ ภายในเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปเนื้อสำริด ปางห้ามสมุทร สมัยอยุธยาตอนต้น อายุกว่า 700 ปี เป็นพระพุทธรูปที่รับกาลที่ 5 ทรงโปรดรับสั่งให้นำกลับพระราชวัง […]

Read More

วัดเขาดีสลัก

วัดเขาดีสลัก ตั้งอยู่หมู่ที่ 5 ตำบลดอนคา ห่างจากอำเภออู่ทอง 8 กิโลเมตร ภายในวัดมีรอยพระพุทธบาทจำลอง ซึ่งในปี พ.ศ. 2535 ฯพณฯบรรหาร ศิลปอาชา ให้กรมศิลปากรมาพิสูจน์รอยพระพุทธบาท สรุปได้ว่าเป็นสมัยใกล้เคียงกับพระพุทธบาทที่จังหวัดสระบุรี เลยให้มีการสร้างมณฑปบนยอดเขาและสร้างถนนขึ้นเขา พัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเสร็จใช้เวลา 5 ปี สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เสด็จพระราชดำเนินไปเปิดเมื่อปี พ.ศ.2542 สิ่งที่น่าสนใจภายในวัด  รอยพระพุทธบาทวัดเขาดีสลัก เป็นรอยพระพุทธบาทจำลองสร้างด้วยหินทรายแดง มีลักษณะแตกต่างจากรอยพระพุทธบาทที่พบตามที่อื่นๆ คือ เป็นรอยพระพุทธบาทนูนต่ำ ขนาดกว้างประมาณ 65.5 ซม. ยาว 141.5 ซม.บริเวณฝ่าพระบาททำเป็นรูปธรรมจักรขนาดเล็กมีกงล้อธรรมจักรจำนวน 16 ซี่ อยู่กลางฝ่าเท้าและรายล้อมด้วยภาพสลักรูปมงคล 108 ประการ อยู่ในกรอบวงกลม มีลักษณะแตกต่างจากรอยพระพุทธบาทที่พบที่อื่น คือ รอยพระพุทธบาทนูน ขนาดกว้างประมาณ 65.5 เซนติเมตร ยาว 141.5 เซนติเมตร อายุประมาณพุทธศตวรรษที่ 14-16 มีทางรถขึ้นไปชมรอยพระพุทธบาทบนยอดเขา ระยะทาง 2 กิโลเมตร ทางวัดปรับปรุงภูมิทัศน์บนยอดเขา มองเห็นวิวทิวทัศน์สวยงามในเขตอำเภออู่ทองโดยรอบ […]

Read More

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสุพรรณบุรี

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสุพรรณบุรี ตั้งอยู่ภายในบริเวณศูนย์ราชการกรมศิลปากร จังหวัดสุพรรณบุรี ถนนสุพรรณบุรี-ชัยนาท ตำบลสนามชัย อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี จัดตั้งขึ้นตามโครงการพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติประจำเมือง เมื่อปีพุทธศักราช 2538 เพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้ด้านโบราณคดีประวัติศาสตร์ มนุษย์วิทยา ศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นของจังหวัดสุพรรณบุรี ประกอบด้วยวิทยาลัยนาฏศิลปสุพรรณบุรี พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสุพรรณบุรี หอจดหมายเหตุแห่งชาติจังหวัดสุพรรณบุรี หอสมุดแห่งชาติจังหวัดสุพรรณบุรีเฉลิมพระเกียรติ และโรงละครแห่งชาติภาคตะวันตกจังหวัดสุพรรณบุรี ที่จัดตั้งขึ้นตามโครงการพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติประจำเมือง สนองแนวพระราชดำริของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ภายในอาคารนิทรรศการถาวรของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสุพรรณบุรีแบ่งเป็นห้องต่างๆ เพื่อจัดแสดงประวัติฐานทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญของเมืองสุพรรณบุรีในอดีต อาทิ “ห้องเมืองสุพรรณ” ที่เล่าถึงประวัติศาสตร์ของดินแดนแห่งนี้เมื่อ 3,500 ปีที่แล้ว หรือห้องที่จัดแสดงพัฒนาการของเมืองสุพรรณบุรีสมัย ทวารวดี ลพบุรี อยุธยา และสมัยรัตนโกสินทร์ ผ่านหุ่นจำลอง และระบบโสตทัศนูปกรณ์ จัดแสดงเหตุการณ์สำคัญครั้งสมเด็จพระนเรศวรมหาราชชนะศึกยุทธหัตถี มีการจัดแสดงประวัติความเป็นมาและวัฒนธรรมของกลุ่มชนต่าง ๆ ที่อาศัยอยู่ในจังหวัดสุพรรณบุรี วัตถุมงคลแบบต่างๆ ที่หายากและมีชื่อเสียง ที่ค้นพบในจังหวัดสุพรรณทั้งในอดีตและปัจจุบัน มีห้องแสดงศิลปะพื้นบ้านเมืองสุพรรณ ทั้งในอดีตและปัจจุบัน นักท่องเที่ยวสามารถชมพระพิมโบราณจากกรุวัดที่มีชื่อเสียงต่างๆ ในเมืองสุพรรณบุรี รวมถึงประวัติบุคคลสำคัญของจังหวัดสุพรรณบุรีในอดีต ทั้งยังได้มีการรวบรวมผลงานของศิลปินในสาขาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นนักร้องลูกทุ่งเพลงพื้นบ้านที่มีชื่อเสียงไว้มากมาย อาทิ อย่าง สุรพล สมบัติเจริญ พุ่มพวง […]

Read More