Month: December 2014

วัดพระพุทธบาทภูควายเงิน

วัดพระพุทธบาทภูควายเงิน  ตั้งอยู่ที่ภูควายเงิน บ้านผาแบ่น หมู่ 6 ต.บุฮม อ.เชียงคาน จ.เลย เป็นวัดที่ตั้งอยู่กลางภูเขาภูควายเงิน ซึ่งเป็นภูเขาสูงขนาดใหญ่ และมีสภาพป่าที่อุดมสมบูรณ์ ในบริเวณแถบ อ.เชียงคาน ภายในวัดมีอาคารเสนาสนะ ประกอบด้วย ศาลาการเปรียญ และกุฏิสงฆ์ รวมทั้งปูชนียวัตถุที่สำคัญ คือ รอยพระพุทธบาท ซึ่งเป็นที่เคารพบูชาของพุทธศาสนิกชนทั่วไป ปัจจุบันกรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานเอาไว้แล้ว และมีพระจำพรรษาอยู่ 1 รูป คือ หลวงปู่เย็น ฐานธัมโม เป็นเจ้าอาวาสวัดพระพุทธบาทภูควายเงิน ประวัติความเป็นมาของวัดพระพุทธบาทภูควายเงิน จากหลักฐานที่บันทึกประวัติความเป็นมาของวัด ได้ระบุไว้ว่าวัดพระพุทธบาทภูควายเงินสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2300 เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนเขาสูงจากระดับน้ำทะเล 400 เมตรนอกจากนี้แล้วยังมีเรื่องเล่าต่อกันมาด้วยว่า ในอดีตวัดแห่งนี้เป็นวัดร้าง แต่มักจะมีพระธุดงค์เดินทางมากปักกลดบำเพ็ญเพียรอยู่เสมอ และในบริเวณวัดยังมีรอยพระพุทธบาทปรากฏอยู่ภายใต้ซุ้มอิฐใหญ่ ขนาดพอที่คนจะเข้าไปนั่งได้ 2 คนซึ่งในภาษาถิ่นจะเรียกสิ่งปลูกสร้างในลักษณะนี้ว่า“อุบมุง” ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นชื่อหมู่บ้านทางทิศตะวันออกของวัดคือบ้านอุมุง ที่หมู่บ้านอุมุงแห่งนี้ มีชาวนาผู้หนึ่งที่มักพาควายขึ้นมาหาหญ้ากินบนภูเขาบริเวณวัด และเมื่อมีพระธุดงค์ผ่านมาชาวนาผู้นี้ก็จะนำเอาอาหารมาถวายแก่พระธุดงค์เป็น ประจำ ซึ่งอานิสงส์แห่งการถวายทานนี้เอง ทำให้ชาวนาทำนาขายข้าวได้เงินมากทุกปี จนร่ำรวยถึงขั้นเศรษฐีและด้วยสำนึกในบุญคุณของควาย ที่ช่วยไถนาปลูกข้าวอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ชาวนาจึงเรียกควายตัวนี้ว่า“ควายเงิน” วัดแห่งนี้จึงตั้งชื่อว่า“วัดพระพุทธบาทภูควายเงิน” ตามเรื่องเล่านี้เอง และเนื่องจากการทำนาในบริเวณภูควายเงิน […]

Read More

วัดป่าห้วยลาด

วัดป่าห้วยลาด ตั้งแยู่เลขที่ 135 หมู่ 3 ถนนเลย – ด่านซ้าย ตำบลสานตม อำเภอภูเรือ จังหวัดเลย โดยก่อนที่จะมาเป็นวัดป่าห้วยลาด ได้ก่อตั้งเป็นสำนักสงฆ์ห้วยลาด โดยหลวงปู่ชอบ ฐานสโม ซึ่งได้จาริกธุดงค์มาที่ภูคลั่ง ใกล้ๆกับหมู่บ้านห้วยลาด ชาวบ้านห้วยลาดมีความศรัทธาเลื่อมใส จึงได้อาราธนานิมนต์หลวงปู่ชอบ ตั้งสำนักสงฆ์ห้วยลาดขึ้นเมื่อปี 2483 เมื่อตั้งขึ้นเป็นสำนักสงฆ์แล้ว หลวงปู่ชอบได้พักอยู่ที่สำนักสงฆ์แห่งนี้เพื่ออบรมสั่งสอนชาวบ้านห้วยลาดและหมู่บ้านใกล้เคียงระยะหนึ่ง จากนั้นท่านก็ได้เดินทางจาริกธุดงค์ต่อไป นับจากปี 2483 เป็นต้นมา สำนักสงฆ์ห้วยลาดได้มีครูบาอาจารย์ พระกรรมฐานสายพระอาจารย์มั่น ภูริทัตตโต มาพักเพื่อปฏิบัติธรรม จำพรรษา เป็นประจำทุกปีมิได้ขาด เช่น หลวงปู่ลี กุสลธโล, หลวงปู่ปุญญฤทธิ์ ปัณฑิโต, พระอาจารย์จันเรียน คุณวโร, พระอาจารย์นิพนธ์ อภิปสันโน เป็นต้น พระอาจารย์จันเรียน ได้มาก่อสร้างศาลาการเปรียญขึ้นในปี 2518 และได้พักจำพรรษาที่สำนักสงฆ์แห่งนี้ 3 พรรษา สำนักสงฆ์ห้วยลาดนับแต่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2483 เป็นต้นมา แม้จะมีพระภิกษุ สามเณร มาพักจำพรรษามิได้ขาด แต่ก็เป็นการอยู่เพียงชั่วระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น เสนาสนะส่วนใหญ่ทำเป็นแบบชั่วคราว คือทำเป็นกระต๊อบมุงหลังคาด้วยหญ้าคา […]

Read More

วัดป่าสัมมานุสรณ์

วัดป่าสัมมานุสรณ์  ตั้งอยู่ที่ บ้านโคกมน ต.ผาน้อย อ.วังสะพุง จ.เลย สิ่งที่น่าสนใจภายในวัดนี้คือ พระเจดีย์วัดป่าสัมมานุสรณ์ เป็นเจดีย์เก็บอัฐิธาตุ บริขาร รูปเหมือน หลวงปู่ชอบ ฐานสโม ที่มีความสวยงามมากสร้างตามแบบของกรมศิลปากรขนาดฐานองค์พระเจดีย์กว้างยาวด้านละ 25 เมตร สูง 33 เมตร ก่อสร้างด้วยโครงเหล็ก ก่ออิฐถือปูนและเคลือบด้วยกระเบื้องอย่างดี วัดป่าสัมมานุสรณ์นี้ เป็นวัดป่าวิปัสสนากัมมัฏฐาน สายพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ซึ่งก่อตั้งโดย หลวงปู่ชอบ ฐานสโม ประวัติ หลวงปู่ชอบ ฐานสโม “หลวงปู่ชอบ ฐานสโม” แห่งวัดป่าสัมมานุสรณ์ (วัดเหนือ) บ้านโคกมน ต.ผาน้อย อ.วังสะพุง จ.เลย พุทธศาสนิกชนทั่วไปต่างรู้จักนามของท่านเป็นอย่างดี หลวงปู่ชอบเป็นพระเกจิอาจารย์ที่สำคัญรูปหนึ่งแห่งภาคอีสาน เป็นพระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ เป็นพระป่าสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต เป็นที่เคารพนับถือของพุทธศาสนิกชนและบรรดาลูกศิษย์ลูกหามาตลอดตั้งแต่ท่านมีชีวิตอยู่ แม้ท่านจะมรณภาพละสังขารไปแล้วก็ตาม แต่ก็ยังคงเป็นที่เคารพศรัทธาเลื่อมใสของพุทธศาสนิกชนทั่วไปอย่างไม่เสื่อมคลาย หลวงปู่ชอบ เป็นชาวจังหวัดเลยโดยกำเนิด ท่านได้สร้างวัดไว้มากมายหลายแห่ง แต่วัดที่ท่านใช้พำนักจำพรรษาในช่วงที่ท่านมีอายุมากแล้วนั้น อยู่ที่บ้านโคกมน ต.ผาน้อย อ.วังสะพุง จ.เลย วัดแรกที่หลวงปู่ชอบได้สร้างขึ้นคือวัดป่าโคกมน หลังจากนั้นท่านได้มาสร้างวัดป่าโคกมนอีกแห่งหนึ่ง ปัจจุบันสภาพของวัดทั้งสองแห่งนี้ยังมีสภาพป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์ […]

Read More

วัดเนรมิตวิปัสสนา

วัดเนรมิตวิปัสสนา ตั้งอยู่ที่บ้านหัวนายูง ตำบลด่านซ้าย อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย สูงเด่นอยู่บนเนินเขา ห่างจากพระธาตุศรีสองรักเพียงเล็กน้อย พระอุโบสถและเจดีย์ภายในวัดก่อสร้างด้วยศิลาแลงทั้งหลัง ภายในพระอุโบสถเป็นที่ประดิษฐานของ พระพุทธราชชินราชจำลอง และมีภาพจิตรกรรมฝาผนังฝีมือช่างเขียน ชาวด่านซ้าย วัดนี้สร้างด้วยทุนทรัพย์มหาศาล ซึ่งก่อสร้างได้เพราะบุญบารมีของ พระครูภาวนาวิสุทธิญาน (หลวงพ่อมหาพัน) ที่มรณภาพไปแล้ว นอกจากนี้ยังมีหุ่นขี้ผึ้งของหลวงพ่อพระมหาพันธ์ สีลวิสุทโธ ซึ่งเป็นผู้ริเริ่มสร้างวัดและได้มรณภาพแล้ว บริเวณพื้นที่โดยรอบมีการจัดแต่งสวนและต้นไม้ร่มรื่นสวยงาม เป็นสถานที่ที่ใครเดินทางมาถึงด่านซ้าย ไม่ลืมแวะไปนมัสการและเที่ยวชม วัดแห่งนี้เป็นวัดที่สร้างขึ้นจากกระแสศรัทธาของประชาชนชาวด่านซ้ายและประชาชนจากทั่วทุกสารทิศที่ศรัทธาในคำสั่งสอนการปฏิบัติธรรมสายพระครูภาวนาวิสุทธิญาณ ผู้ธุดงค์มาจากวัดจำปา บ้านหนองเหล็ก ตำบลหนองบัวทอง อำเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งอยู่ห่างจากที่ตั้งของวัดเนรมิตวิปัสสนาถึง 515 กิโลเมตร กล่าวถึงประวัติวัดแห่งนี้ เมื่อ พระครูภาวนาวิสุทธิญาณ (หลวงพ่อพระมหาพันธ์ สิลวิสุทโธ) ธุดงค์พร้อมคณะสงฆ์ สามเณร และแม่ชี เมื่อวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2522 มาทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ผ่านร้อยเอ็ด มหาสารคาม ขอนแก่น เข้าสู่จังหวัดเพชรบูรณ์ พักที่วังทรายทอง ตำบลวังโป่ง ประมาณ 30 วัน จากนั้นธุดงค์ผ่านหล่มสัก […]

Read More

วัดท่าแขก

วัดท่าแขก ตั้งอยู่ที่ บ้านน้อย ตำบลเชียงคาน อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย ทางเข้าวัดเป็นถนนเส้นเดียวกันกับทางเข้า แก่งคุดคู้ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดเลย ชื่อเดิมของวัดในสมัยก่อนนั้นชาวบ้านในท้องถิ่นจะเรียกชื่อวัดนี้ว่า วัดท่าแข่ คำว่า แข่ ในภาษาอีสานแปลว่า จระเข้ ที่ชาวบ้านในสมัยนั้นเรียกวัดนี้ว่าวัดท่าแข่เพราะว่า ที่บริเวณท่าลานหินข้างวัดที่ติดกับแม่น้ำโขง สมัยนั้นจะมีจระเข้อาศัยอยู่อย่างชุกชุม พวกจระเข้มักจะพากันมานอนผึ่งแดดอยู่ที่ท่าลานหินของวัด เมื่อสร้างวัดนี้ขึ้นมาชาวบ้านจึงพากันเรียกชื่อวัดว่า วัดท่าแข่ พอปัจจุบันมีการเรียกชื่อวัดแห่งนี้ผิดเพี้ยนไปจากชื่อเดิมเป็นอย่างมาก จากเดิมเรียกว่า วัดท่าแข้ ปัจจุบันได้เพี้ยนไปเป็นชื่อ วัดท่าแขก วัดท่าแขกเป็นวัดโบราณเก่าแก่ของจังหวัดเลย ตามหลักศิลาจารึกที่ถูกค้นพบภายในพระอุโบสถหลังเก่าของวัดท่าแขก ตัวหนังสือเขียนจารึกด้วยอักษรภาษาลาวโบราณ นักโบราณคดีของกรมศิลปากรได้แปลภาษาลาวจากหลักศิลาจารึกเป็นภาษาไทยว่า วัดท่าแขก สร้างเมื่อวันเสาร์ ขึ้น 9 ค่ำ เดือน 5 ปีมะเมีย พุทธศักราช 2209 จุลศักราช 1028 ตรงกับรัชสมัยของ สมเด็จพระนารายณ์มหาราช แห่ง กรุงศรีอโยธยา ( กรุงศรีอยุธยา ) วัดท่าแขกสร้างโดย ท้าวสุวรรณแผ้วพ่าย ซึ่งเป็นโอรสของกษัตริย์ผู้ครองนครล้านช้างหลวงพระบาง ท้าวสุวรรณแผ้วพ่ายสร้างวัดท่าแขกถวายไว้ในพระบวรพุทธศาสนา เพื่อเป็นการอุทิศส่วนบุญให้กับพระมเหสี และพระราชธิดาของพระองค์ ที่ได้สวรรคตพร้อมกันเนื่องจากเรือล่มในแม่น้ำโขงเขตเมืองเชียงคาน ในคราวที่ท้าวสุวรรณแผ้วพ่ายพาพระมเหสีและพระราชธิดาเสด็จทางเรือไปยังเมืองสีสัตนานาคคนหุต ( […]

Read More

วัดถ้ำผาบิ้ง

วัดถ้ำผาบิ้ง ตั้งอยู่ที่บ้านผาบิ้ง ต.ผาบิ้ง อ.วังสะพุง จ.เลย เป็นวัดที่ก่อตั้งโดยหลวงปู่หลุย จันทสาโร มีรอยพระพุทธบาทถ้ำผาบิ้ง ได้รับการเคารพสักการะจากชาววังสะพุงและพุทธศาสนิกชนโดยทั่วไป อีกทั้งวัดผาบิ้งยังเป็นสถานที่ร่มรื่นเงียบสงบ เหมาะกับการปฏิบัติธรรมวิปัสสนากรรมฐาน ผู้สนใจสามารถเข้าเยี่ยมชมและสักการะพระพุทธบาทถ้ำผาบิ้งได้ทุกวันค่ะ สิ่งที่น่าสนใจายในวัด เจดีย์จันทสาโรนุสรณ์ เป็นเจดีย์พิพิธภัณฑ์สำหรับบรรจุอัฐิธาตุ และเครื่องบริขารของหลวงปู่หลุย จันทสาโร ถ้ำผาบิ้ง อยู่บริเวณเชิงเขาในบริเวณวัดถ้ำผาบิ้ง ภายในถ้ำมีรอยพระพุทธบาทปรากฏอยู่บนเพดานถ้ำบริเวณชะง่อนผาลึกซึ่งประดิษฐานพระพุทธรูปอยู่ ต้องเดินเข้าไปที่พระพุทธรูป แล้วกลับหลังเงยหน้ามองเพดานถ้ำ จึงจะเห็นรอยพระพุทธบาทอยู่สูงขึ้นไปประมาณ 4 กม. เป็นรอยพระพุทธบาทขนาดใหญ่และแปลกกว่าทุกแห่งที่เคยเห็นมา คือรอยพระบาทประทับอยู่ที่ผนังถ้ำด้านบนเหนือศีรษะ แทนที่จะประดิษฐานอยู่ที่พื้นเหมือนแห่งอื่นๆ รอยพระบาทมีขนาดยาว 1 ม.กว้าง 0.5 ม.  แต่ลวดลายและรอยนิ้วพระบาทไม่ปรากฏชัดเจน กรมศิลปากรจดทะเบียนเป็นโบราณวัตถุสถาน พร้อมกับพระธาตุศรีสองรัก เมื่อปี พ.ศ.2498  พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต เคยมาจำพรรษาที่นี่สองครั้ง คือในปี พ.ศ.2454 และปี พ.ศ.2461 พระอาจารย์เป็นผู้ชี้ว่าคือรอยพระพุทธบาท ประวัติหลวงปู่หลุย จนฺทสาโร  หลวงปู่หลุย จนฺทสาโร เป็นบุตรของ คุณพ่อคำฝอย วรบุตร ลูกชายเจ้าเมืองแก่นท้าว แขวงไชยบุรี ประเทศลาว […]

Read More

วนอุทยานภูผาล้อม

วนอุทยานภูผาล้อม ภูผาล้อมหรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “กวนผาล้อม” ตั้งอยู่ในท้องที่ตำบลน้ำสวย อำเภอเมือง และตำบลนาดอกคำ อำเภอนาด้วง จังหวัดเลย อยู่ห่างจากตัวเมืองเลย 24 กม. อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าโคกผาดำ ป่าโคกหนองข่าและป่าภูบอบิด มีเนื้อที่ประมาณ 8,500 ไร่ กรมป่าไม้ได้ประกาศจัดตั้งเป็นวนอุทยานเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2539 วนอุทยานแห่งนี้เป็นภูเขาหินปูนสูงชัน ที่มียอดหยักแหลมากมาย ตั้งโอบล้อมเสมือนเป็นกำแพงตรงกลางเป็นผืนป่าดิบมีพืขสมุนไพร จุมชมวิว และถ้ำต่างๆ ได้แก่ ถ้ำแก้ว ถ้ำผาบ่อง รวมทั้งบ่อน้ำซับ หรือน้ำผุด เป็นบ่อน้ำศักด์สิทธิ์อยู่กลางป่า สิ่งน่าสนใจ เส้นทางศึกษาธรรมชาติภูผาล้อม ภูผาล้อมมีสภาพทั่วไปเป็นภูเขาหินปูนสลับซับซ้อน มียอดเขาสูงชันที่เป็นยอดหยักแหลมมากมาย โอบล้อมพื้นที่ภายในไว้ราวกับกำแพงเมืองพื้นที่ราบภายในมีขนาดกว้างใหญ่ราว 700 ไร่ ปกคลุมด้วยป่าดงดิบแล้งและป่าเบญจพรรณ นับเป็นป่าอุดมสมบูรณ์ที่ซุกซ่อนอยู่ภายในหุบเขาอย่างน่าอัศจรรย์ ทางวนอุทยานฯ จึงได้จัดทำเส้นทางศึกษาธรรมชาติระยะทางประมาณ 2 กม. สำหรับเที่ยวชมธรรมชาติของภูผาล้อมที่มีถ้ำและชะง่อนหินอยู่ตามเพิงผาหลายแห่งจุดเริ่มต้นเส้นทางอยู่ด้านหลังที่ทำการ เดินไต่ขึ้นไปบนเขาที่ตั้งตระหง่านดุจกำแพงสูงประมาณ 450 ม. ระหว่างทางจะพบพันธุ์ไม้ทนแล้งที่น่าสนใจหลายชนิด เช่น กล้วยผา จันทน์ผา ปรงผา ตะบอบเพชร ฯลฯ […]

Read More

พระธาตุสัจจะ

พระธาตุสัจจะ ตั้งอยู่ที่วัดลาดปู่ทรงธรรม ถ.ท่าลี่-อาฮี่  ต.ท่าลี่ อ.ท่าลี่ จ.เลย เป็นที่บรรจุพระบรมสาริกธาตุพระอรหันต์ธาตุและปถวีธาตุพนม (ดินจากพระธาตุพนม) สร้างขึ้นเพื่อต่อชะตาพระธาตุพนมที่พังทลายลง เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ.2518 โดยวิธีการเสี่ยงสัจจาอธิษฐาน คือ เสี่ยงให้ความจริงเกิดขึ้นตามกติกาบนพื้นฐานแห่งสมมติสัจจะ พระธาตุสัจจะสร้างขึ้นเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ.2519 เสร็จเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ.2522 ความสูง 33 เมตร มีลักษณะคล้ายพระธาตุพนม ฐาน 8 เหลี่ยม กว้าง 17 เมตร บนยอดสุดของพระธาตุประดับด้วยฉัตร 7 ชั้น ถัดลงมาอีกเล็กน้อยส่วนที่เป็นปูนเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ จำนวน 10 องค์ หลวงปู่ท่อน ญาณธโร ได้นำมามอบให้ขณะกำลังก่อสร้างองค์พระธาตุ หลังจากสร้างอค์พระธาตุเสร็จ ต่อมาวันที่ 28 พฤษภาคม 2522 ก็ได้ก่อสร้างกลีบบัวบานรอบองค์พระธาตุ (ไม่ระบุวันวร้างเสร็จ) และวันที่ 15 พฤศจิกายน 2522 ทางคณะกรรมกาารวัดได้ก่อสร้างกำแพงแก้ว 4 ด้าน พร้อมด้วยซุ้มประตูทั้งสี่ด้านตามมุมกำแพงแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2523 เมื่อสร้างแล้วเสร็จได้มีงานสมโภชขึ้นระหว่างวันที่ 17 – 21 กุมภาพันธ์ 2524 โดยสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็พระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก ได้มอบพระบรมสารีริกธาตุ จำนวน 108 องค์ […]

Read More

พระธาตุศรีสองรัก

พระธาตุศรีสองรัก ไปไหว้พระธาตุขอพรให้มิตรภาพ และความรักนั้นเป็นนิรันดร์ ที่สุดแดนแห่งจังหวัดเลยกันค่ะ พระธาตุศรีสองรัก ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำหมัน อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย สร้างขึ้นสมัยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช เมื่อปี พ.ศ. 2103 เสร็จในปี พ.ศ. 2106 พระธาตุศรีสองรักสร้างขึ้นเพื่อ เป็นสักขีพยานในการช่วยเหลือซึ่งกันและกันระหว่างกรุงศรีอยุธยา(สมัยพระมหาจักรพรรดิ) และกรุงศรีสัตนาคนหุต (ปัจจุบันคือ เวียงจันทร์สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว) กษัตริย์ทั้งสองพระองค์ทรงครองราชสมบัติ ตรงกับสมัยที่พม่าเรืองอำนาจ และมีการรุกรานดินแดนต่าง ๆ เพื่อขยายอำนาจ สมเด็จพระมหาจักรพรรดิและพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช จึงตกลงรวมกำลัง เพื่อต่อสู้กับพม่า จึงทรงกระทำสัตยาธิษฐานว่าจะไม่ล่วงล้ำดินแดนของกันและกัน และเพื่อเป็นที่ระลึกในการทำไมตรีต่อกัน จึงได้ร่วมกันสร้างพระธาตุศรีสองรักเพื่อเป็นสักขีพยาน ณ กึ่งกลางระหว่างแม่น้ำน่านและแม่น้ำโขง ซึ่งเป็นรอยต่อของทั้งสองราชอาณาจักร นอกจากนี้ภายในวัดยังมีพระพุทธรูปปางนาคปรก ศิลปะทิเบตหัวนาคปรกสร้างด้วยศิลา องค์พระพุทธรูปสร้างด้วยทองสัมริด มีหน้าตักกว้าง 21 นิ้ว สูง 30 นิ้ว ทุกวันขึ้น 15 เดือน 6 ชาวอำเภอด่านซ้าย หรือ”ลูกผึ้งลูกเทียน” จะร่วมกันจัดงานสมโภชพระธาตุขึ้น โดยจะนำต้นผึ้ง มาถวายพระธาตุถือเป็นประเพณีอันศักดิ์สิทธิ์ที่เกิดขึ้นประจำทุกปี พระธาตุสร้างขึ้นเพื่อสัจจะและไมตรี ใครได้มาไหว้พระธาตุศรีสองรักนี้ เชื่อว่าความรักและสัมพันธภาพนั้นจะมั่นคงสืบไป ที่นี่มีความเชื่อว่าหากนำต้นผึ้งไปขอพรพระธาตุศรีสองรักแล้วจะสมความมุ่งมาดปรารถนา […]

Read More

ผาหล่มสัก(อุทยานแห่งชาติภูกระดึง)

ผาหล่มสัก อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติภูกระดึง อยู่ห่างจากที่ทำการประมาณ 9 กิโลเมตร เป็นลานหินกว้างและมีสนต้นหนึ่งขึ้นอยู่ชิดริมผาใกล้กับชะง่อนหินที่ยื่นออกไปในอากาศทางทิศใต้ บริเวณผาหล่มสักนี้มองเห็นทิวทัศน์ของเทือกเขาสลับซับซ้อนในเขตจังหวัดเพชรบูรณ์ และเป็นจุดหนึ่งที่จะชมพระอาทิตย์ตกได้อย่างชัดเจนที่สุด บรรดาช่างภาพ สื่อมวลชน นิยมไปถ่ายภาพ ณ จุดนี้กันมาก เพราะยามตะวันตกดินจะเกิดทัศนียภาพงดงามที่สุด ผู้ที่ไปชมประอาทิตย์ตกที่ผาหล่มสัก ควรเตรียมเสื้อกันหนาวและไฟฉายสำหรับใช้ส่องทางเวลาเดินกลับที่พัก ซึ่งโดยทั่วไปจะใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ผาหล่มสัก เป็นลานหินกว้าง และมีสนต้นใหญ่อยู่ใกล้กับชะง่อนหินที่ยื่นออกไปจากหน้าผา ต้นสนต้นนี้เคียงคู่กับผาหล่มสักมานานแสนนาน ถือว่าเป็นเสน่ห์ และของคู่กัน หากผาหล่อมสัก ไม่มีต้นสน ต้นนี้แล้วล่ะก็ คงเป็นเรื่องแปลก และลบเสน่ห์ของผาหล่มสักไปเลยค่ะ ผาหล่มสัก เป็นหน้าผาชัน ที่ยื่นออกไปด้านอำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นที่มาของชื่อหน้าผา “ผาหล่มสัก” ถึอว่าเป็นสถานที่ ที่นักท่องเที่ยวที่ได้ขึ้นมาภูกระดึงแล้วต้องมาถ่ายภาพ หากไครพลาด เหมือนกับการไม่ได้เที่ยวภูกระดึง อัตราค่าธรรมเนียม เก็บค่าธรรมเนียมผู้ใหญ่คนละ 20 บาท เด็ก 10 บาท และบริการลูกหาบสัมภาระ กิโลกรัมละ 15 บาท นักท่องเที่ยวสามารถเช่าเต็นท์และบ้านพักได้ที่ที่ทำการอุทยานฯ หมายเหตุ  อุทยานแห่งชาติภูกระดึง จะปิดระหว่างเดือนมิถุนายน-กันยายน ทุกปี เพื่อให้สภาพธรรมชาติฟื้นตัวและปรับปรุงสถานที่พักสิ่งอำนวยความสะดวก ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม […]

Read More