นงลักษณ์ สุวรรณพรรณ

พิพิธภัณฑ์ภูพาน

พิพิธภัณฑ์ภูพาน ตั้งอยู่ที่ตำบลธาตุเชิงชุม อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร บริเวณติดริมทะเลสาบหนองหาร(ฝั่งหลังโรงเรียนเชิงชุมราษฎร์นุกูล)ภายในแบ่งเป็นห้องจัดแสดง9โซน ดำเนินการก่อสร้างตามยุทธศาสตร์แผนการพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน(สกลนคร นครพนม มุกดาหาร และกาฬสินธุ์)ได้กำหนดให้มีโครงการหนึ่งจังหวัดหนึ่งผลิตภัณฑ์ เพื่อยกระดับโครงสร้างพื้นฐานในการส่งเสริมการท่องเที่ยวของกลุ่มจังหวัด ซึ่ีงในส่วนของจังหวัดสกลนคร ได้จัดทำโคงการก่อสร้างพิพิธภัณฑ์ภูพาน โดยการก่อสร้างเป็น 4 ระยะ ใช้งบประมาณทั้งสิ้น 88,801,000บาท เริ่มเปิดบริการตั้งแต่เมื่อเดือนเมษา 2555 อยู่ในความรับผิดชอบของผู้ว่าราชการจังหวัดและต่อมาเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2556 จังหวัดสกลนครได้โอนภารกิจการบริหารจัดการพิพิธภัณฑ์ภูพานให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนครเป็นผู้รับผิดชอบ พิพิธภัณฑ์ภูพาน เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ของจังหวัดสกลนคร รวบรวมประวัติต่างๆ ของจังหวัดสกลนคร ไม่ว่าจะเป็น นิทรรศการต่างๆ ประวัติความเป็นมาของจังหวัดสกลนคร ปฎิมากรรมต่างๆ เป็นศูนย์รวมข้อมูลของจังหวัดสกลนคร ในด้านต่างๆ ที่รวบรวมไว้ในที่แห่งนี้ รวบรวมประวัติความเป็นมาของบรรพบุรุษ รวมทั้งศิลปวัฒนธรรม แหล่งประวัติศาสตร์ ตำนานการต่อสู้ ตลอดจนพระอริยสงฆ์ จนกลายเป็นแอ่งธรรมมะ ทั้งนี้พิพิธภัณฑ์ภูพานถือเป็นความภาคภูมิใจของชาวสกลนคร มีการจัดแสดงทั้ง 9 โซน ได้แก่ ห้องโหมโรง ห้องแสดงนิทรรศการมหัศจรรย์ภูพาน ห้องป่าบุ่งป่าทาม ป่าพรุอีสาน ห้องหนองหารกับการตั้งเมืองสกลนคร ห้องคนสกลนคร ห้องอาศิรวาทองค์ราชัน องค์ราชินี [adsense-2] ช่วงเวลาที่เปิดให้บริการ […]

Read More

พิพิธภัณฑ์ไทยโส้

พิพิธภัณฑ์ไทยโส้ และสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ปู่มเหศักดิ์ ตั้งอยู่บริเวณที่ว่าการอำเภอกุสุมาลย์ จ.สกลนคร เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สักการะบูชาของชาวไทยโส้ ซึ่งเชื่อว่าเป็นที่สถิตย์ของเทพซึ่งช่วยคุ้มครองชาวไทยโส้ ในพิพิธภัณฑ์เป็นที่เก็บสิ่งของเครื่องใช้ ของชาวไทยโส้ซึ่งอพยพมาจากฝั่ง ซ้ายแม่น้ำโขง มีแผ่นป้ายเขียนข้อความภาษาของชาวไทยโส้เปรียบเทียบกับภาษาไทย ให้เห็นถึงความแตกต่างของตัวอักษร และสำเนียงการออกเสียง ในพิพิธภัณฑ์เป็นที่เก็บสิ่งของเครื่องใช้ของชาวไทยโส้ซึ่งอพยพมาจากฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง มีแผ่นป้ายเขียนข้อความภาษาของชาวไทยโส้เปรียบเทียบกับภาษาไทย ให้เห็นถึงความแตกต่างของภาษาและสำเนียงการออกเสียง เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สักการะบูชาของชาวไทยโส้ ซึ่งเชื่อว่าเป็นที่สถิตย์ของเทพซึ่งช่วยคุ้มครองชาวไทยโส้ ในพิพิธภัณฑ์เป็นที่เก็บสิ่งของเครื่องใช้ ของชาวไทยโส้ซึ่งอพยพมาจากฝั่ง ซ้ายแม่น้ำโขง มีแผ่นป้ายเขียนข้อความภาษาของชาวไทยโส้เปรียบเทียบกับภาษาไทย ให้เห็นถึงความแตกต่างของตัวอักษร และสำเนียงการออกเสียง ประวัติความเป็นมาของพิพิธภัณฑ์ไทยโส้ สกลนคร เป็นจังหวัดหนึ่งที่มีหลายกลุ่มชาติพันธุ์เข้ามาตั้งรกรากหรืออพยพเข้ามาอยู่ตั้งแต่ในอดีต กลุ่มชาติพันธุ์หนึ่งที่อพยพเข้ามาคือ “โส้” ซึ่งมีภาษาพูดและขนบธรรมเนียมประเพณีการประกอบพิธีกรรมตามความเชื่อที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเอง โส้เป็นกลุ่มชาติพันธุ์อยู่ในตระกูลภาษาออสโตรเอเชียติก ถิ่นที่อยู่อาศัยดั้งเดิมอยู่บริเวณทิศตะวันตกของเทือกเขาอากและลุ่มแม่น้ำตะโปน ต้นน้ำเซบังเหียน ในลาว โส้อพยพเข้ามาในสกลนครมากในช่วง พ.ศ. 2426-2430 เนื่องจากหนีภัยสงครามพวกจีนฮ่อ อำเภอกุสุมาลย์เดิมชื่อ “บ้านกุดขมาน” ตั้งตามชื่อลำห้วยขมานซึ่งมีต้นขมานขึ้นอยู่จำนวนมาก ส่วนคำว่า”กุด” นั้นหมายถึงวังน้ำ สืบเนื่องจากอำเภอกุสุมาลย์มีประชาชนเชื้อสายโส้อาศัยอยู่เป็นจำนวนไม่น้อยกว่าร้อยละ 75 ในปี พ.ศ.2524 นายสุวัฒน์ แสงสุทธิเศรษฐ์ นายอำเภอกุสุมาลย์คนที่ 7 ร่วมมือกับชาวอำเภอกุสุมาลย์ก่อสร้าง “ศูนย์ศิลปวัฒนธรรมไทยโส้” ขึ้นเพื่อรวบรวม จัดแสดง และอนุรักษ์เครื่องมือเครื่องใช้ในการดำรงชีพ […]

Read More

พระธาตุศรีมงคล

พระธาตุศรีมงคล ไปไหว้พระธาตุคู่บ้านคู่เมืองของชาวอำเภอวาริชภูมิขอพรเพื่อศิริมงคงในชีวิตกันค่ะ ตั้งอยู่ที่วัดพระธาตุศรีมงคล ตำบลบ้านธาตุ อำเภอวาริชภูมิ สกลนคร ลักษณะเป็นเจดีย์ฐานสี่เหลี่ยม ยอดแหลม ตกแต่งด้วยศิลปกรรมยุคใหม่ก่ออิฐถือปูนประดับด้วยลายปั้นดินเผา บริเวณฐานเป็นพุทธประวัติของพระพุทธเจ้าสร้างด้วยดินเผาที่สร้างขึ้นครอบพระธาตุองค์เดิม ซึ่งเป็นศิลาแลงที่ชำรุด การคมนาคมสะดวกรถยนต์สามารถเข้าถึงบริเวณวัด ประวัติความเป็นมาพระธาตุศรีมงคล บริเวณที่ตั้งบ้านธาตุแต่เดิมพื้นที่เป็นป่าดง ครั้งแรกได้มีบุคคลกลุ่มหนึ่งมีภูมิลำเนาเดิมอยู่ที่อำเภอวาริชภูมิปัจจุบันนี้ เดิมเรียกว่า “ เมืองวารี” มีนายเวียงแก โฮมวงศ์ เป็นหัวหน้า พร้อมด้วยหลวงสุวรรณราช (กะยะ) ต้นตระกูลของสกุล “บุญรักษา” นายจันทะ-เนตร โฮมวงศ์ นายเมืองกาง หัศกรรจ์ หลวงแก้ว (ไม่ทราบนามสกุล) นายบุตราช บุญรักษา และนายจันด้วง แก้วคำแสน ได้พากันออกมาหักร้างถางพงไพร เพื่อทำไร่ แต่พอถางลึกเข้าไปก็พบองค์พระธาตุร้างอยู่ในดง จึงชะงักการถากถาง เพราะกลัวอำนาจศักดิ์สิทธิ์ของพระธาตุนี้จะลงโทษ ดังนั้นได้จึงนิมนต์ท่านพระครูหลักคำ ประธานสงฆ์เมืองวารี มาพิจารณา ท่านเห็นว่าสถานที่บริเวณนี้เป็นมงคล เหมาะที่จะสร้างหมู่บ้านได้จึงได้พร้อมใจกันถากถางบริเวณพระธาตุร้างนี้พร้อมทั้งได้ทำบุญอุทิศส่วนกุศลแผ่ไปให้แก่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่รักษาองค์พระธาตุ และได้สร้างวัดตรงนั้น ท่านพระครูหลักคำได้ตั้งชื่อพระธาตุร้างนั้นว่า “พระธาตุศรีมงคล” ตั้งชื่อวัดว่า “วัดธาตุศรีมงคล” เมื่อประมาณ พ.ศ. 2444 และเรียกหมู่บ้านว่า “บ้านธาตุ” จนปัจจุบันนี้ […]

Read More

อุทยานแห่งชาติภูผาเหล็ก

อุทยานแห่งชาติภูผาเหล็ก ไปกางเต็นท์รับลมหนาว ดูวิวทิวทัศน์บนภูผา ชมดาวที่หอส่องดาวกันค่ะ อุทยานแห่งชาติภูผาเหล็กตั้งอยู่ที่บ้านท่าวัด ต.ปทุมวาปี อ.ส่องดาว จ.สกลนคร เป็นอุทยานแห่งชาติที่ครอบคลุมพื้นที่ในส่วนของอำเภอส่องดาว อำเภอวาริชภูมิ อำเภอนิคมน้ำอูน อำเภอกุดบาก จังหวัดสกลนคร อำเภอสามหมอ จังหวัดอุดรธานี และอำเภอสมเด็จ อำเภอคำม่วง จังหวัดกาฬสินธุ์ มีเนื้อที่ประมาณ 261,875 ไร่ หรือประมาณ 419 ตารางกิโลเมตร ลักษณะภูมิประเทศเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาภูพาน ภูเขาที่สูงที่สุดคือ ภูอ่างสอ สภาพป่าเป็นป่าเต็งรัง ป่าเบญจพรรณ ป่าดิบแล้ง ไผ่หลายชนิด และสมุนไพรชนิดต่าง ๆ สัตว์ป่าที่พบเห็นได้แก่ หมูป่า เก้ง กระจง นกชนิดต่าง ๆแหล่งท่องเที่ยวบนยอดภูผาเหล็กโดยเฉพาะบริเวณหน้าผาต่าง ๆ หอส่องดาว สามารถใช้รถยนต์ขึ้นไปตามถนน รพช. จากที่ทำการอุทยานฯ ถึงหอส่องดาวระยะทาง 5.5 กิโลเมตร และใช้เส้นทางเดินเท้าสู่จุดท่องเที่ยว สถานที่น่าสนใจในเขตอุทยานฯ  ผาสุริยันต์ เป็นหน้าผาสูงอยู่บนยอดเขาสูงสุดของภูผาเหล็ก เป็นจุดชมวิวที่สวยงาม และเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้า ผาดงก่อ ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูผาเหล็กประมาณ 1 กิโลเมตร […]

Read More

ปราสาทพระธาตุนารายณ์เจงเวง

ปราสาทพระธาตุนารายณ์เจงเวง หรือ “อรดีมายานารายณ์เจงเวง”  ตั้งอยู่ภายในบริเวณวัดพระธาตุนารายณ์เจงเวง บ้านธาตุ ตำบลพังกว้าง อำเภอเมือง สกลนคร พระธาตุองค์นี้เป็นพระธาตุเก่าแก่ สมัยเดียวกันกับพระธาตุเชิงชุม เป็นพระธาตุประกอบด้วยปรางค์องค์เดียว สร้างด้วยศิลาแลง แบบเดียวกับปราสาทหินพิมาย คือเป็นหินทรายบนฐานศิลาแลงขนาดใหญ่ สลักลวดลายลงบนเนื้อหิน มีทับหลังจำหลักภาพพระกฤษณะฆ่าสิงห์ ในรูปแบบศิลปะเขมร สมัยบาปวน องค์เจดีย์เป็นเจดีย์ทรงสี่เหลี่ยม ส่วนที่เป็นหลังคาและยอด ปัจจุบันหักพังหมดแล้ว ยังคงเหลือแต่องค์พระธาตุ ซึ่งมีประตูและซุ้มประตูด้านละประตู ซึ่งภายใต้ซุ้มประตูสลักรวดลายที่สวยงาม ข้างบน สลักรูปพระนารายณ์บรรทมสินธุ์ ภายในพระธาตุมีพระพุทธรูปและของมีค่าต่างๆ ตำนานพระธาตุนารายณ์เจงเวง ตามตำนานอุรังคธาตุกล่าวถึงโบราณสถานแห่งนี้ว่า เมื่อพระมหากัสสปเถระและบริวารเดินทางมาถึงเมืองหนองหานหลวง กลุ่มสตรีชาวเมืองหนองหานได้ทูลขอแบ่งอุรังคธาตุ (กระดูกหน้าอก)ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่พระมหาเถระผู้ใหญ่มิได้ทรงอนุญาตด้วยผิดวัตถุประสงค์ที่พระพุทธองค์ที่ตรัสไว้ให้นำอุรังคธาตุไปประดิษฐานบรรจุเจดีย์ที่ภูกำพร้า กลางลำน้ำโขง(พระธาตุพนม) แต่มิให้เสียศรัทธา พระมหากัสสัปะเถระผู้ใหญ่จึงมอบให้พระอรหันต์รูปหนึ่งไปนำพระอังคารธาตุจากที่ถวายเพลิงพระศพสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาประดิษฐานไว้ในพระเจดีย์แห่งนี้ จึงนับว่าพระธาตุนารายณ์เจงเวงเป็นโบราณสถานที่สำคัญของเมืองสกลนคร ปราสาทนารายเจงเวงนี้มีพระนางเจงเวงเป็นเจ้าศรัทธาสร้างโดยแข่งขันกับฝ่ายชายซึ่งสร้างพระธาตุภูเพ็ก โดยถือเกณฑ์เมื่อดาวประกายพรึกโผล่พ้นขอบฟ้าเป็นเวลาสิ้นสุดการก่อสร้าง เมื่อพอตกกลางคืนฝ่ายหญิงก็เอาโคมไปแขวนไว้บนไม้สูง ให้ฝ่ายชายเข้าใจว่าดาวประกายพรึกขึ้นแล้ว ฝ่ายชายจึงสร้างยังไม่เสร็จสร้าง ต้องยอมแพ้ไป ส่วนฝ่ายหญิงทำเสร็จเพราะทำได้เต็มเวลาและยังมีฝ่ายชายมาช่วยสร้างด้วยเป็นจำนวนมากด้วย ชาวบ้านเชื่อว่าแม่นางเจงเวงเป็นผู้ที่รักษาพระธาตุแห่งนี้จนถึงปัจุบัน [adsense-2] เมื่อครั้งปี พ.ศ. 2449 สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพเมื่อครั้งทรงดำรงตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงมหาดไทย พระองค์ได้เสด็จตรวจราชการมณฑลนครราชสีมา และมณฑลอุดรอีสาน รวม 56 วัน โดยได้นิพนธ์ไว้ในหนังสือเรื่องเที่ยวที่ต่าง […]

Read More

แกะกล่อง′นันทบุรี′ อำเภอใหม่-สวิสแห่งไทย

สภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงใหม่ มีมติให้จัดตั้ง “นันทบุรี เฉลิมพระเกียรติฯ” ขึ้นเป็นอำเภอที่ 26 ของจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา สร้างความสนใจให้กับผู้คนทั่วไปแม้แต่ชาวเชียงใหม่เอง การจะก้าวขึ้นเป็นอำเภอนั้นต้องผ่านระเบียบหลักเกณฑ์ของกระทรวงมหาดไทยและขั้นตอนอื่นๆ อีกมาก ที่สำคัญ “นันทบุรี” มีพื้นที่ในการดูแลเพียงแค่ 2 ตำบล จำนวนของประชากรก็ยังไม่ถึงเกณฑ์ที่กำหนดไว้ การเสนอขอขึ้นเป็นอำเภอใหม่ จึงต้องทำเป็น “กรณีพิเศษ” ด้วยเหตุผลสำคัญ 3 ประการ หนึ่ง การเป็นพื้นที่ทรงงานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ สอง อยู่ห่างไกลจากตัวอำเภออมก๋อย 76 กม. และห่างตัวจังหวัด 280 กม. ทำให้ไม่ได้รับความสะดวกในการเดินทางเพื่อเข้าไปติดต่อราชการ หรือเข้าถึงระบบสาธารณูปโภคต่างๆ สาม สถานที่แห่งนี้มีแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญและสวยงามทางธรรมชาติ เปรียบเทียบความสวยงามของ “นันทบุรี” เสมือน “สวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย” ด้วยความงดงามของยอดดอยต่างๆ อย่าง “ดอยม่อนจอง” หรือ ดอยหัวสิงห์ ทุ่งหญ้าเหนือสันเขาที่ทอดยาวสุดตาจรดขอบฟ้า แหล่งพำนักของกวางผา หรือม้าเทวดา สัตว์ป่าสงวนฯที่เกือบสูญพันธุ์ไปจากโลก “ดอยม่อนจอง” […]

Read More

ถ้ำเสรีไทย

ถ้ำเสรีไทย ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติภูพาน เป็นอุทยานแห่งชาตินี้ตั้งอยู่ในจังหวัดสกลนครและจังหวัดกาฬสินธุ์ ในเขตภูเขาผาบ่อง ซึ่งเป็นเทือกเขาผีปันน้ำ ลักษณะลึกเข้าไปในภูเขา ความกว้างประมาณ 5 เมตร ความสูงประมาณ 4 เมตร และมีรูถ้ำแยกกันไปหลายทาง บางแห่งมีแหล่งลำธารน้ำไหลเย็นมาก หินงอกหินย้อย ระยิบระยับสวยงามมาก โดยตำแหน่งของปากถ้ำอยู่บนหน้าผาสูงประมาณ 15 เมตร สามารถมองเห็นข้าศึกได้และมีภูเขาผาด่าน เป็นป้อมปราการล้อมรอบ สามารถป้องกันการโจมตีของฝ่ายตรงข้ามได้เป็นอย่างดี เพราะมีหน้าผาสูงมากอยู่ในบริเวณนั้น สามารถใช้ติดตั้งสถานีวิทยุสื่อสารสัญญาณติดต่อกับหน่วยบัญชาการต่างๆได้ชัดเจนมาก สำหรับท่านที่จะเข้าชมต้องเดินเข้าไปถึงตัวถ้ำอีกประมาณ 800 เมตร ในป่าเขตอุทยานแห่งชาติ ตามเส้นทางระหว่างทางมีลำธารและป่าไม้ที่ร่มรื่น พอถึงปากถ้ำก็จะมีจุพักก่อนเข้าถึงถ้ำสำหรับท่านที่ยังไม่หายเหนื่อย ภายในถ้ำจะมีหินงอกหินย้อย อากาศเย็นแม้ถ้ำจะมืดมาก แต่อากาศไม่อับชื้นเหมือนถ้ำทั่วไป แสดงให้เห็นว่า ภายในถ้ำต้องมีช่องระบายอากาศหลายช่อง ขบวนการเสรีไทยจึงใช้สถานที่นี้ในการบัญชาการได้อย่างสบาย ถ้ำเสรีไทยเป็นแหล่งสะสมอาวุธยุทธภัณฑ์ไปต่อสู้กับกองทัพญี่ปุ่น ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ของขบวนการเสรีไทย ซึ่งมีนายเตียง ศิริขันธ์ เป็นหัวหน้าขบวนการเสรีไทยสายสกลนคร ถ้ามองจากที่สูงจะเป็นลานหินธรรมดาจะไม่รู้ว่าเป็นถ้ำ ทำให้หลุดพ้นจากการซุ่มโจมตีจากฝ่ายศัตรู และบริเวณเดียวกันมีร่องรอยการขุดแต่งเป็นสนามบินลับด้วย จากนั้นเดินทางต่อไปยังจุดชมวิว จะเห็นธรรมชาติที่สวยงามของเทือกเขาภูพาน กล้วยไม้ตามโขดหิน ดอกหญ้าริมทางเดิน แสดงให้เห็นถึงความสมบูรณ์ของธรรมชาติที่ยังหลงเหลืออยู่อีกมาก ประวัตินายเตียง ศิริขันธ์ หัวหน้าขบวนการเสรีไทย นายเตียง ศิริขันธ์ เป็นชาวสกลนครโดยกำเนิด […]

Read More

เที่ยว สกลนคร

สกลนคร “พระธาตุเชิงชุมคู่บ้าน พระตำหนักภูพานคู่เมือง งามลือเลื่องหนองหาน แลตระการปราสาทผึ้ง สวยสุดซึ้งสาวภูไท ถิ่นมั่นในพุทธธรรม” เทศกาล/ประเพณี งานเซิ้งผีโขน จัดเป็นประจำทุกปีในช่วงวันขึ้น 14 ค่ำ  เดือน 4 (ประมาณเดือนมีนาคม) ณ บริเวณ ต.ไฮหย่อง อ.พังโคน ประเพณีแห่ปราสาทผึ้งและแข่งขันเรือยาวชิงถ้วยพระราชทาน จัดเป็นประจำทุกปีในช่วงวันออกพรรษา หรือช่วงเดือนตุลาคม ณ บริเวณสนามมิ่งเมืองและวัดพระธาตุเชิงชุม อ.เมือง แห่ดาวคริสต์มาสจังหวัดสกลนคร จัดเป็นประจำทุกปีในวันที่ 25 ธันวาคม ณ บริเวณสำนักมิสซังโรมันคาทอลิกท่าแร่-หนองแสง(โรงเรียนเซนต์โยเซฟสกลนคร) อ.เมือง การเดินทาง รถทัวร์ จากสถานีขนส่งหมอชิต 2 มีรถเที่ยวเวลา 06:00-21:30 น. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 7 ชั่วโมง ค่าโดยสารประมาณ 390-850 บาท ข้อมูลเพิ่มเติมโทร 1490 เครื่องบิน มีเที่ยวบินมาลงที่สนามบินสกลนคร M109-B3 สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ พระธาตุภูเพ็ก ปราสาทขอมโบราณที่ไม่ใช่เพียงศาสนสถานธรรมดา แต่ยังมีความพิเศษหลายอย่าง เช่น เป็นสถานที่ที่มีอุปกรณ์ดาราศาสตร์ที่เรียกว่าสุริยะปฏิทิน ที่สามารถบ่งชี้ตำแหน่งดวงอาทิตย์ในจักรราศรีสำคัญได้อย่างแม่นยำ และสถานที่ตั้งของปราสาทภูเพ็ก […]

Read More

ศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำศรีสะเกษ

ศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำศรีสะเกษ ไปท่องโลกใต้น้ำแบบง่ายๆเดินชิลๆชมปลาในอุโมงค์แก้วใต้น้ำกันค่ะ ศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำศรีสะเกษ ตั้งอยู่ภายในสวนเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา (เกาะห้วยน้ำคำ) ถ.เลียงเมือง ต.หนองครก อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ เป็นอาคารแสดงพันธุ์สัตว์น้ำในการดูแลของเทศบาลเมืองศรีสะเกษ ซึ่งมีแนวคิดมุ่งเน้นการพัฒนาให้ความรู้ สร้างความเพลิดเพลิน ส่งเสริมการท่องเที่ยวแก่เยาวชน นักเรียน นักศึกษาและประชาชนทั่วไป นอกเหนือจากการเรียนรู้ในตำรา หรือในห้องเรียน ศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำศรีสะเกษ ใช้งบประมาณในการก่อสร้างประมาณ 100 ล้านบาทเศษ ใช้เวลาในการก่อสร้างกว่า 1 ปี เปิดให้เข้าชมครั้งแรกเมื่อวันที่ 8 มกราคม 2554 ซึ่งตรงกับวันเด็กแห่งชาติ จัดแสดงทั้งพันธุ์สัตว์น้ำจืดและน้ำเค็ม ภายในอาคารได้จัดโซนปลาทะเล ปลาน้ำจืด ปลาสวยงาม โดยมีปลาน้ำจืด 79 ชนิด และปลาทะเล 22 ชนิด จำนวนกว่า 4,000 ตัว ตกแต่งในบรรยากาศไดโนเสาร์โลกล้านปีที่แปลกใหม่ ทั้งยังมีอุโมงค์แก้วใต้น้ำที่มีความยาวถึง 24 เมตร ซึ่งจะทำให้ผู้ชมได้สัมผัสกับฝูงปลาที่แหวกว่ายได้อย่างใกล้ชิด อีกทั้งบริเวณภายในยังมีการจำลองอุทยานไดโนเสาร์โลกล้านปีในแบบแปลกใหม่อีกด้วยค่ะ [adsense-2] ช่วงเวลาที่เปิดให้เข้าชม  เปิดให้เข้าชมในวันอังคาร-วันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 10.00-16.00 น. ปิดทำการทุกวันจันทร์ […]

Read More

วัดเมืองจันทร์

วัดเมืองจันทร์ ตั้งอยู่เลขที่ 1 หมู่ที่ 2 บ้านเมืองจันทร์ ตำบลเมืองจันทร์ อำเภอเมืองจันทร์ จังหวัดศรีสะเกษ เป็นวัดที่มีโบราณสถานที่น่าสนใจมากมาย อีกทั้งยังมีพระธาตุศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นที่เคารพสักการะของชาวเมืองศรีสะเกษอีกด้วยค่ะ สิ่งที่น่าสนใจภายในวัด พระธาตุเมืองจันทร์ รูปแบบเป็นเจดีย์เพิ่มมุมไม้ 12 เรือนธาตุมีซุ้มจระนำทั้ง 4 ด้าน ส่วนบนเป็นการจำลองเรือนธาตุซ้อนลดหลั่นกันขึ้นไป 3 ชั้น สภาพส่วนใหญ่ยังคงสมบูรณ์อยู่ส่วนฐานพังทลายไปเล็กน้อย ส่วนเรือนธาตุและส่วนยอดยังคงสมบูรณ์ โดยส่วนยอดมีการจำลองส่วนเรือนธาตุให้มีขนาดเล็กลงเรียงลดหลั่นกันขึ้นไปสามชั้น ปลียอดสอบแหลม บนสุดทำเป็นยอดเรียวกลมตัวเรือนธาตุก่ออิฐทึบ ยังคงพบลวดลายปูนปั้นรูปกลีบบัวที่ประดับอยู่บนหัวเสาติดผนังที่รองรับกรอบหน้าบัน กำหนดอายุราวพุทธศตวรรษที่ 23 ศิลปะล้านช้างผสมขอมแบบท้องถิ่น เปรียบเทียบได้กับปราสาทบ้านปราสาท ตำบลบ้านปราสาท อำเภอห้วยทับทัน จังหวัดศรีสะเกษ สิมโบราณ มีลักษณะเป็นโบสถ์หลังเล็ก มีเสมาอยู่ภายในตัวโบสถ์ เป็นศิลปอีสานพื้นถิ่นกำหนดอายุราวพุทธศตวรรษที่ 25 ก่อด้วยอิฐฉาบปูนขาว มีฐานสูงและบันไดทางขึ้นส่วนบนชำรุดหักพัง ประตูและบันไดทางขึ้นอยู่ทางทิศตะวันตก หลังคาพังทลาย ด้านข้างเจาะช่องเป็นหน้าต่าง ภายในมีใบเสมาหินสลักเป็นลวดลายคล้าย ดอกบัวตูมปักเรียงตามแนวยาวทั้ง 8 ทิศ และได้มีการบูรณะซ่อมแซมโดยทำหลังคามุงสังกะสีครอบไว้ ใช้เป็นสถานที่ประกอบศาสนกิจและทำสังฆกรรม ปราสาทบ้านเมืองจันทร์ เป็นปราสาท หรือ ปรางค์เดี่ยว ฐานเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส ขนาด 3.40 […]

Read More