หาดทรายดำ ตั้งอยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแหลมมะขาม อำเภอแหลมงอบ จ.ตราด หนึ่งเดียวในประเทศไทยที่เมืองตราด และมี 5 แห่งในโลก นอกจากตราดแล้วก็ยังมี ที่ไต้หวัน มาเลเซีย(ลังกาวี) ฮาวาย แคลิฟอร์เนีย (ส่วนหาดทรายสีดำที่ปรากฏในประเทศอื่นนอกเหนือจากนี้ เจ้าหน้าที่ศูนย์ฯหาดทรายดำบอกว่าเป็นคนละประเภทกันค่ะ) เดิมหาดแห่งนี้ชาวบ้านเรียกกันว่า “หัวสวน” เป็นหาดที่เคยมีชาวมุสลิมเป็นเจ้าของ และเคยก่อตรั้งสุเหร่าขึ้นในบริเวณหัวสวน ต่อมาได้ย้ายออกไปกลายเป็นสถานที่ร้าง หลังจากนั้นมีเรื่องเล่ากันว่าชาวบ้านยายม่อมเห็นหาดทรายสีแปลกประหลาดที่นี่ จึงมาลองนั่งหมกตัว ปรากฏว่าหาดทรายที่นี่สามารถทำให้ชาวบ้านคนนั้นที่เป็นโรคอัมพฤกษ์หายได้ จึงเป็นที่โจษจันกันไปว่า หาดทรายดำที่นี่สามารถรักษาโรคได้ ชื่อเสียงของหาดทรายดำจึงแพร่ขจรไปเริ่มจากในท้องถิ่น ก่อนแพร่ขยายไปในระดับประเทศ พร้อมกับสรรพคุณการรักษาโรคที่ถูกกล่าวขานเพิ่มมากขึ้นว่าสามารถรักษาโรคได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น อัมพฤกษ์ อัมพาต โรคปวดเมื่อยตามร่างกาย ปวดตัว ปวดเข่า ปวดหลัง หรือแม้กระทั่งสามารถรักษาสิวฟ้าได้ นั่นจึงทำให้มีคนจำนวนมากเดินทางมาที่นี่ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นมาเพื่อรักษาโรค โดยบางคนลงทุนถึงขนาดนำจอบเสียมมาขุดทรายเป็นหลุมแล้วนำตัวไปลงไปนอน หรือนำทรายมากลบร่างกายแบบที่เด็กๆนิยมเล่นกัน บ้างก็นำทรายไปปิดหน้าปิดตา บางคนหมกแขน ขา หมกตัว หมกกันถึง 3-4 ชั่วโมงหรือครึ่งค่อนวันเลยทีเดียว อย่างไรก็ดีในเรื่องสรรพคุณการรักษาโรคนั้น ทางผู้ที่เกี่ยวข้องกับหาดทรายดำก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ทำการส่งทรายสีดำไปพิสูจน์ พบว่า ทรายดำที่หาดแห่งนี้มีชื่อทางวิชาการว่า “ไลโมไนต์” (Limonite) เป็นแร่ที่เกิดจากการยุบตัวของเศษเหมืองและเปลือกหอยผสมด้วยควอตซ์ […]
Read MoreCategory: อื่นๆ
วัดบุปผาราม หรือเรียกอีกชื่อว่า วัดปลายคลอง ตั้งอยู่หมู่ที่ 3 บ้านปลายคลอง ถนนพัฒนาการปลายคลอง ตำบลวังกระแจะ อำเภอเมือง จังหวัดตราด เป็นวัดเก่าแก่ที่สุดในจังหวัด สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยอยุธยา ราวรัชสมัยพระเจ้าปราสาททอง (พ.ศ. 2191) ท่านพระครูคุณสารพิสุทธิ์ (หลวงพ่อโห) อดีตเจ้าอาวาสในสมัยรัชกาลที่ 5 ได้บูรณะปฏิสังขรณ์เสนาสนะถาวรวัตถุในวัด จวบจนปัจจุบันท่านพระครูสุวรรณสารวิบูลพร้อมทั้งชาวบ้านได้ร่วมแรงร่วมใจกันจัดตั้งพิพิธภัณฑ์ และดูแลภูมิทัศน์โดยรอบวัดให้สะอาดเรียบร้อย วัดนี้จึงเป็นศูนย์กลางการปฏิบัติศาสนกิจ สิ่งที่น่าสนใจภายในวัด ส่วนที่ 1 ศาสนสถานในเขตพุทธาวาส ถูกล้อมรอบด้วยกำแพงหินศิลาแลง ประกอบด้วย พระอุโบสถ ก่ออิฐถือปูน ผนังด้านนอกสีขาว บานประตูหน้าต่างเป็นไม้ ด้านในมีจิตรกรรมฝาผนังศิลปะสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ลายพระพุทธเจ้าปางแสดงธรรม ลายดอกพุดตาน เพดานเป็ฯรูปดาว มีลายกลีบบัวซ้อยอยู่ภายใน วิหารพระพุทธไสยาสน์ เป็นอาคารชั้นเดียว ภายในประดิษฐานพระปางไสยาสน์ ผนังมีจิตรกรรมฝาผนังเน้นลายดอกไม้ และสัตว์ต่าง ๆ ปัจจุบันหลุดลอกไปมากแล้ว วิหารฝากระดาน เดิมเคยเป็นพระอุโบสถมาก่อน เป็นอาคารครึ่งปูนครึ่งไม้ที่มีอายุเก่าแก่ ฐานก่ออิฐถือปูนลักษณะโค้งเป็นรูปเรือสำเภา ฝาผนังเป็นไม้กระดานทั้งหมด มณฑปสามหลัง ด้านในมีจิตรกรรมฝาผนังที่ได้รับอิทธิพลมาจากจีน ส่วนที่2 ศาสนสถานในเขตสังฆาวาส อยู่ส่วนกลางของวัด ประกอบด้วย […]
Read Moreวัดคีรีวิหาร เดิมชื่อ วัดท่าเลื่อน หรือ วัดภูเขายวน ตั้งอยู่ที่บ้านท่าเลื่อน เป็นวัดเก่าแก่มีอายุมากกว่า 110 ปี แต่ได้รับการบูรณะจนดูใหม่ทั้งวัด ที่ตั้งอยู่บนภูเขาทำให้มองเห็นวิวทิวทัศน์ด้านล่างที่เป็นป่า เขา และทะเล มีบรรยากาศร่มรื่นเงียบสงบ เป็นสวนป่าขนาดย่อม ๆ มีต้นสักปลูกอย่างเป็นระเบียบ ลักษณะเด่นของวัด คือ การก่อสร้างด้านสถาปัตยกรรมที่มีความงดงาม และมีการผสมผสานศิลปกรรมสมัยใหม่เข้าไว้ด้วย วัดคีรีวิหาร เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนเนินสูง และยังเป็นวัดเก่าแก่สำคัญของจังหวัดตราด สร้างมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2430 เจ้าอธิการอยู่เจ้าอาวาส ได้ใช้เวลาในการก่อสร้างนาน 27 ปี ต่อมาเมื่อสมัยฝรั่งเศสเข้ามาปกครองเมืองตราด ได้แต่งตั้งเจ้าอาวาสเป็นพระครูรัฐาภิมุกข์และเรียกชื่อวัดนี้ว่า “วัดภูเขายวน” เมื่อไทยได้เมืองตราดคืนจากฝรั่งเศสจึงได้เปลี่ยนชื่อวัดแห่งนี้ใหม่ โดยสมเด็จพระสังฆราชกรมหลวง วชิรญาณวงศ์ ทรงพระทานชื่อให้เลือก 3 ชื่อ คือ คีรีเวสวิหาร เวสคีรีวิการและคีรีวิหาร ด้วยที่ตั้งของวัดอยู่บนภูเขาทำให้มองเห็นวิวทิวทัศน์ด้านล่างที่เป็นป่าเขาและทะเล มีบรรยากาศร่มรื่นเงียบสงบ เป็นสวนป่าขนาดย่อมๆ มีต้นสักปลูกอย่างเป็นระเบียบ ลักษณะเด่นของวัด คือ การก่อสร้างด้านสถาปัตยกรรมที่มีความงดงาม และมีการผสมผสานศิลปกรรมสมัยใหม่เข้าไว้ด้วย ศาสนสถานที่สำคัญภายในวัด ประกอบด้วย อุโบสถหลังใหญ่ พระเจดีย์ เรือนรับรองสมเด็จพระเทพฯ กุฎิธรรมสารอุทิศและกุฎินิรมิตสามัคคี […]
Read Moreหาดบางเบ้า อ่าวที่อยู่ท้ายสุดฝั่งตะวันตกของเกาะกูด ทำเลเหมาะสำหรับกำบังคลื่นลม จึงมีหมู่บ้านชาวประมงตั้งรกรากอยู่ตามชายฝั่ง บ้านแต่ละหลังปักเสาลงในทะเล มีสะพาน เชื่อมถึงกัน ปัจจุบันกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว มีทั้งทัวร์ดำน้ำใกล้ๆ เกาะ ร้านอาหารทะเลและโฮมสเตย์ของชาวบ้านอยู่หลายแห่ง ช่วยให้คุณหลีกลี้หนีจากความวุ่นวายด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่น่าประทับใจและมื้อค่ำสุดวิเศษ บ้านบางเบ้าเป็นชุมชนชาวประมงที่เก่าแก่และน่าสนใจ นอกจากความโดดเด่นของที่ตั้งที่อยู่กลางน้ำแล้ว ยังเป็นแหล่งทำกะปิ ซึ่งเป็นสินค้าขึ้นชื่อของเกาะช้าง และยังมีอาหารทะเลแปรรูปโดยกลุ่มสตรีบางเบ้าจำหน่ายมากมายค่ะ ปัจจุบันบ้านบางเบ้ามี 67หลังคาเรือน มีประชากรประมาณ 250 คน เป็นหมู่บ้านประมง จำหน่ายอาหารทะเลสด ๆ และปรุงในรูปแบบร้านซีฟู๊ดต่าง ๆ ริมทะเลด้วยค่ะ [adsense-2] ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม องค์การบริหารส่วนตำบลเกาะกูด 21/1 หมู่ 2 ต.เกาะกูด อ.เกาะกูด จ.ตราด โทร. (081) 762 4360 สนง.จังหวัดตราด (039) 511 282 ประชาสัมพันธ์จังหวัด (039) 530 585 ททท.ภาคกลางเขต 5 (039) 597 259-60 สถานีตำรวจภูธรเมืองตราด (039)-511-035 […]
Read Moreหาดคลองหิน ไปนอนพักผ่อนริมชายหาด รับลมทะเลเย็นๆ บรรยากาศเงียบสงบปล่อยอารมณ์ไปตามเสียงคลื่นกันค่ะ หาดคลองหิน อยู่ทางทิศตะวันตกของเกาะกูด ใกล้กับแหลมคลองหินและอ่าวพร้าว เป็นหาดทรายยาวประมาณ 300 เมตร น้ำใสสะอาด สามารถลงเล่นน้ำได้ บริเวณชายหาดอุดมสมบูรณ์ไปด้วยสวนมะพร้าว ที่บริเวณแหลมคลองหินเป็นจุดดำน้ำชมปะการังที่สวยงามแห่งหนึ่งของเกาะค่ะ หาดคลองหิน นับได้ว่าเป็นหาดที่สวยด้วยหาดทรายขาวสะอาด และน้ำทะเลสีฟ้าใส โรงแรมที่พักมีไม่แออัดมากนัก และราคาไม่แพงเช่นกัน จะมีโรงแรมห้าดาวอยู่เพียงหนึ่งแห่งที่เพิ่งเปิดบริการได้ไม่นานนี้เอง หาดคลองหิน มีจุดเด่นอยู่ที่ความใสของน้ำทะเล และสามารถสน๊อกเกิ้ลดูปลาทะเลได้จากริมหาดเลยค่ะ [adsense-2] ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม สนง.จังหวัดตราด (039) 511 282 ประชาสัมพันธ์จังหวัด (039) 530 585 ททท.ภาคกลางเขต 5 (039) 597 259-60 สถานีตำรวจภูธรเมืองตราด (039)-511-035 โรงพยาบาลตราด (039) 511 040-1 โรงพยาบาลกรุงเทพ-ตราด (039) 522 555 คลินิกเกาะช้างอินเตอร์เนชั่นแนล (039) 551 151 โรงพยาบาลเกาะช้าง (039) 586 131 […]
Read Moreศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งหนึ่งของชาวชลบุรี ซึ่งมีผู้ที่เคารพศรัทธาอย่างแพร่หลาย โดยเชื่อกันว่าหากมาบูชาขอพรเจ้าพ่อเขาใหญ่แล้ว จะประสบความสำเร็จในเรื่องโชคลาภธุรกิจการค้า กิจการรุ่งเรือง องค์เจ้าพ่อเขาใหญ่อยู่ในถ้ำบนไหล่เขา คยาศิระ โดยมีลักษณะเป็นหินงอกหินย้อยลงมาเป็นรูปตัวคน ประวัติความเป็นมาของศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ ตั้งอยู่บนเขา”คยาศิระ” เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่บรรดาชาวจีนทั้งในและต่างประเทศให้ความเคารพสักการะเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเรื่องค้าขายและการงาน ศาลเจ้าเป็นอาคารใหญ่ลักษณะทรงวิหารจีน ส่วนองค์เจ้าพ่อเขาใหญ่จะอยู่ภายในถ้ำบนเขานั่นเอง นอกจากองค์เจ้าพ่อเขาใหญ่แล้วภายในยังเป็นที่ประดิษฐานของเจ้าพ่อเห่งเจีย เจ้าแม่กวนอิม พระสังกัจจาย และองค์เทพต่างๆ อีกด้วย ในช่วงตรุษจีนจะมีผู้คนเดินทางมาบวงสรวงสักการะองค์เจ้าพ่อเขาใหญ่และเทพเจ้าต่างๆ ที่สถิตย์อยู่ ณ ที่แห่งนี้กันอย่างเนืองแน่น ด้วยความเชื่อความศรัทธาอันแรงกล้าว่าเมื่อได้มากราบไหว้สักการะองค์เจ้าเขาใหญ่แล้ว จะทำให้กิจการค้าเจริญรุ่งเรือง ประสบความสำเร็จในการงาน เชื่อกันว่าบุคคลใดก็ตามได้มากราบไหว้ขอพรจากองค์เจ้าพ่อเขาใหญ่ติดต่อกันเป็นเวลา ๓ ปี จะได้โชคลาภอันวิเศษ ประสบความสำเร็จการงานรุ่งเรืองและเงินทองไหลมาเทมา สาธุ… เทศกาลที่น่าสนใจ 1. ประเพณีรับส้มและปิดฮู้เจ้าพ่อเขาใหญ่ ประมาณก่อนตรุษจีน 2 สัปดาห์ (ตามฤกษ์ที่เซียนซือกำหนด) 2. ประเพณีไหว้ตรุษจีนตรงกับวันตรุษจีนของทุกปี 3. ประเพณีนมัสการเจ้าพ่อเขาใหญ่ ประมาณ 45 วัน หลังตรุษจีน [adsense-2] ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม ททท. ภาคกลาง เขต 3 […]
Read Moreวัดญาณสังวรวรารามมหาวิหาร ตั้งอยู่ที่บ้านห้วยใหญ่ ตำบลห้วยใหญ่ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี วัดนี้สร้างขึ้นใน พ.ศ. 2519นายแพทย์ขจร และคุณหญิงนิธิวดี อันตระการ พร้อมด้วยบุตรธิดา มีจิตศรัทธาบริจาคที่ดินจำนวน 100 ไร่ 1 งาน 92 ตารางวา แด่ สมเด็จพระญาณสังวร เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร (ปัจจุบันทรงเป็นสมเด็จพระสังฆราช ตั้งแต่ พ.ศ. 2532 – ปัจจุบัน) เพื่อสร้างวัดในพระพุทธศาสนา และปรารถนาให้มีนามตามทินนามสมณศักดิ์ของสมเด็จฯ วัดนี้จึงมีชื่อว่า “วัดญาณสังวราราม” วัดญาณสังวรารามอาจถือเป็นวัดประจำรัชกาลพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช เนื่องจากคณะผู้สร้างวัดได้พร้อมใจกันสร้างขึ้นเพื่อน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ วัดนี้อยู่ในพระอุปถัมภ์ของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปรินายก และได้รับพระมหากรุณาธิคุณพระกรุณานานัปการจากองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอทุกพระองค์ และสมเด็จเจ้าฟ้ากรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ได้ทรงอุปถัมภ์ในการก่อสร้างตลอดมา และทรงรับเป็นวัดในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นวัดในพระองค์อีกด้วย สิ่งที่น่าสนใจภายในวัด พระอุโบสถ สร้างขึ้นเพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช โดยดัดแปลงจากแบบพระอุโบสถเก่าคณะรังษี วัดบวรนิเวศวิหาร พระพุทธปฏิมาประธานประจำอุโบสถ ได้รับการถวายพระนามว่า “สมเด็จพระพุทธญาณนเรศวร์” สร้างน้อมเกล้าฯ ถวายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินทางเททองหล่อ เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม […]
Read Moreตลาดเก่าอ่างศิลา ไปเลือกซื้ออาหารทะเลทั้งสดทั้งแห้ง ในราคาไม่แพง และอย่าลืมซื้อ ครกหินอ่างศิลา สินค้าขึ้นชื่อของที่นี่ค่ะ ตั้งอยู่ที่ตำบลอ่างศิลา อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี เป็นหมู่บ้านชาวประมงและตลาดโบราณ มีของกินของใช้มากมาย ผู้ที่เดินทางมาเที่ยวที่จ.ชลบุรี ก่อนกลับจะแวะมาที่ตลาดเก่าแห่งนี้ พ่อค้าแม่ค้าใจดีมากค่ะ มีทั้งของฝากประเภทอาหารทะเลสด หรือปรุงสำเร็จ ขนมไทยโบราณ สามารถเดินชิมความอร่อยได้ทุกร้าน ราคาสบายกระเป๋า เดิมตลาดอ่างศิลามีถนนเพียงสายเดียว สร้างในสมัยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เมื่อ พ.ศ. 2501 ต่อมาจึงมีการสร้างถนนสายลงทะเลขึ้นอีกสายหนึ่ง และเชื่อมต่อยาวไปจนถึงเขา สามมุข อาคารบ้านเรือนทั้งสองฝั่งถนนในตลาดเก่ามีจำนวนประมาณ 180 หลัง ด้วยลักษณะทางธรณีวิทยาในเขตอ่างศิลาประกอบด้วยหินแกรนิตซึ่งมีสีขาวนวลและ สีเหลืองอ่อน มีความแกร่งมาก ทำให้เกิดเป็นอาชีพการทำ “ครกหิน” ปัจจุบันเป็นสินค้าที่ระลึกที่ขึ้นชื่อที่สุดของอ่างศิลา เดิมอ่างศิลาคนพื้นที่ดั้งเดิมเรียกกันว่า อ่างหิน สมัยรัชกาลที่ 3 ชาวตะวันตกและคนบางกอก มาพักตากอากาศกันมาก ชื่ออ่างหินก็เริ่มเปลี่ยนแปลงให้ดูเป็นสากลมากขึ้น โดยมีหลักฐานบันทึกถึงชื่อ อ่างศิลา ดังนี้ เมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จประพาสจังหวัดชลบุรี ได้ประทับแรมที่อ่างศิลา โดยมีลายพระราชหัตถเลขา ลงวันที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2419 พรรณนา […]
Read Moreเกาะสีชัง ตั้งอยู่โดดเด่นบริเวณปากอ่าวอันเป็นบริเวณที่เชื่อมต่อระหว่างทะเลอ่าวไทยและทะเลหลวงภายนอก จึงเปรียบเสมือนประตูผ่านเข้าอ่าวไทยจากทะเลใหญ่ และการเป็นสัญลักษณ์ของการมาถึง หรือออกจากประเทศไทย ในอดีตมีพระเจ้าแผ่นดินถึง 3 พระองค์ คือ รัชกาลที่ 4, รัชกาลที่ 5 และ รัชกาลที่ 6 เสด็จประพาสมาพักผ่อน และรัชกาลที่ 5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระราชฐานบนเกาะขึ้นเป็นแห่งแรก เพื่อเป็นสถานที่ประทับในฤดูร้อน และพระราชทานนามว่า “พระจุฑาธุชราชฐาน” ตามพระนามพระราชโอรสที่ประสูติ บนเกาะสีชังแห่งนี้ เกาะสีชังเป็นสถานตากอากาศที่มีชื่อเสียงมานานนับร้อยปีจนถึงปัจจุบัน มีธรรมชาติความงดงามแตกต่างไปจากสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ มีบรรยากาศที่สงบเงียบ อากาศบริสุทธิ์ มีสถานที่ ท่องเที่ยวอันงดงาม เป็นเกาะที่น่าท่องเที่ยวในบรรยากาศแบบท้องถิ่นซึ่งสามารถแวะ ท่องเที่ยวในวันเดียวหรือพักค้างคืนก็ได้ สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจบนเกาะสีชัง 1.พระจุฑาธุชราชฐาน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของเกาะสีชัง ห่างจากท่าเทววงศ์ลงมาทางใต้ของเกาะ สร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 เพื่อเป็นที่ประทับในฤดูร้อน มีสิ่งก่อสร้างตั้งอยู่ตามชั้นเนินเขาที่สูงต่ำลดหลั่นกันอย่างงดงามประกอบด้วยพระที่นั่ง 4 องค์ พระตำหนัก 14 หลัง ศาลา 1 หลัง มีสวนดอกไม้ สระ ธารน้ำ น้ำพุ ถ้ำและหน้าผา ภายในบริเวณมีสภาพ ภูมิทัศน์ที่งดงามตกแต่งตามลักษณะอุทยานในพระราชวังของ […]
Read Moreอู่ต่อเรือสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช สำหรับใครที่ชอบการท่องเที่ยวเชิงพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นห้ามพลาดที่นี่เลยนะคะ อู่ต่อเรือสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ตั้งอยู่ที่บ้านเสม็ดงาม ตำบลหนองบัว อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี อู่ต่อเรือแห่งนี้สันนิษฐานว่าเป็นสถานที่ซึ่งสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ใช้เป็นอู่ต่อเรือ เมื่อครั้งเตรียมยกทัพไปตีพม่าเพื่อกู้เอกราชชาติไทยเมื่อ พ.ศ.2310 ตามพงศาวดารธนบุรี ฉบับจันทนุมาส ระบุว่า ก่อนที่พระเจ้าตากจะยกทัพไปตีพม่า ได้มีการต่อเรือประมาณ 100 ลำที่เมืองจันท์ บริเวณวัดเสม็ดงามที่อยู่ไม่ไกลพบตอไม้ตะเคียนทองจำนวนมาก และยังได้มีคำบอกเล่าว่า มีคลองที่ขุดเพื่อที่จะใช้ลำเลียงซุงไม้ตะเคียนมายังอู่ต่อเรือ จึงสันนิษฐานว่าบริเวณนี้เคยเป็นอู่ต่อเรือของพระเจ้าตาก ก่อนหน้าจะมีการขุดค้นพบเรือต่างๆ บริเวณนี้ห่างจากปากแม่น้ำจันทบุรีไม่ไกลนัก ได้มีการค้นพบเรือสำเภาโบราณสมัยพระเจ้าตากซึ่งอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ที่สุดเท่าที่เคยพบมาในท้องทะเลอ่าวไทย และยังพบเรือขุดโบราณอันเป็นหลักฐานที่น่าสนใจที่ทำให้เห็นได้ว่า ที่นี่เป็นย่านการค้าทางทะเลในอดีต และมีการสันนิษฐานต่อมาอีกว่าน่าจะเป็นแหล่งต่อเรือสำเภาที่สำคัญของไทยแห่งหนึ่ง จากหลักฐานทางโบราณคดีที่ทำการสำรวจอู่ที่ 1 ครั้งที่ 1 ในปี 2524 – 2525 โดยหน่วยโบราณคดีใต้น้ำ กองโบราณคดี กรมศิลปากร ณ บริเวณอู่ต่อเรือพระเจ้าตาก ตามที่ชาวบ้านเกาะเสม็ดงามเล่าสืบกันว่า บริเวณนี้เคยเป็นที่ต่อเรือรบของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เมื่อครั้งเตรียมยกทัพไปตีพม่าเพื่อกู้เอกราชของชาติไทยในปี พ.ศ. 2310 การขุดค้นใช้วิธีกั้นเขื่อนสูบน้ำออก ขุดดินออก ฯลฯ ผลการสำรวจพบซากเรือสำเภาท้ายตัด สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นเรือสำเภาจีนแบบ “ฟูเจียน” ขนาดเล็ก มีใบสามเถาใช้หางเสือเรือ ความกว้าง 7 – 8 […]
Read More