Category: อื่นๆ

เที่ยว หนองคาย

หนองคาย “วีรกรรมปราบฮ่อ หลวงพ่อพระใส สะพานไทย-ลาว” เทศกาล/ประเพณี งานนมัสการหลวงพ่อพระเจ้าองค์ตื้อ จัดเป็นประจำทุกปีในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 4 (ประมาณเดือนมีนาคม) ณ วัดศรีชมภูองค์ตื้อ อ.ท่าบ่อ ประเพณีสงกรานต์อีสานหนองคาย จัดเป็นประจำทุกปีในช่วงวันที่ 13-15 เมษายน ณ วัดโพธิ์ชัย อ.เมือง เทศกาลออกพรรษา บั้งไฟพญานาค จัดเป็นประจำทุกปีในช่วงวันออกพรรษา วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 (ประมาณเดือนตุลาคม) ณ บริเวณลำน้ำโขง อ.เมือง อ.โพนพิสัย และอำเภอใกล้เคียง การเดินทาง รถทัวร์ จากสถานีขนส่งหมอชิต 2 มีรถเที่ยวเวลา 23:30-21:45 น. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 7 ชั่วโมง ค่าโดยสารประมาณ 380-760 บาท ข้อมูลเพิ่มเติมโทร 1490 รถไฟ จากสถานีรถไฟหัวลำโพง มี 3 ขบวน/วัน เวลา 18:35/20:00/20:45 […]

Read More

ปราสาทตะเปียงเตีย

ปราสาทตะเปียงเตีย หรือ ปราสาทตระเปียงเตีย ตั้งอยู่ในวัดปราสาทเทพนิมิต หมู่ที่ 3 บ้านยะสุข ที่บ้านหนองเกาะ ตำบลตะเปียงเตีย อำเภอลำดวน จังหวัดสุรินทร์ ตัวปราสาทมีลักษณะเป็นปรางค์ก่อด้วยอิฐ หันหน้าไปทางทิศตะวันออก มีแผนผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสซ้อนกัน 4 ชั้น ส่วนยอดทำเป็นรูปดอกบัวตูม มียอดปราสาท 5 ยอด เมื่อพิจารณาจากลัษณะสถาปัตยกรรม พบว่าเป็นแบบลาวร่วมสมัยกับอยุธยาตอนปลาย หรือรัตนโกสินทร์ตอนต้น ตระเปียงเตีย เป็นภาษาเขมรท้องถิ่น คำว่า “ตระเปียง” แปลว่าบ่อ สระ หนอง หรือหลุมที่มนุษย์ขุดขึ้น หรืออาจจะหมายถึงบารายที่ปราสาทขอมทุกแห่งมักจะมี หรืออาจจะเป็นแหล่งน้ำที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ส่วนคำว่า “เตีย” หมายถึง เป็ด แปลรวมกันได้ความว่า ตระเปียงเตีย แปลว่า หนองเป็ด ซึ่งเป็นไปได้ว่าในอดีตบริเวณดังกล่าวมีนกเป็ดน้ำอพยพย้ายถิ่นมาอาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าวก็เป็นได้ นอกจากนี้ภายในวัดยังมีอาคารสำหรับผู้ต้องการเลิกเหล้า ซึ่งวัดนี้มีชื่อเสียงในการบำบัดรักษาผู้ต้องการเลิกดื่มเหล้า ซึ่งในแต่ละปีจะมีผู้ไปรักษามากกว่าหนึ่งหมื่นคน [adsense-2] ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม สำนักงานจังหวัดสุรินทร์ (044) 512 039 ตำรวจท่องเที่ยว 1155 ตำรวจทางหลวง (045) 515 […]

Read More

หมู่บ้านท่าแร่

หมู่บ้านท่าแร่ ไปชมตึกและสิ่งก่อสร้างโบราณทรงยุโรปในหมู่บ้านคาทอลิกกันค่ะ หมู่บ้านท่าแร่ ตั้งอยู่ที่ ต.ท่าแร่ อ.เมือง จ.สกลนคร เป็นหมู่บ้านที่มีประชากรนับถือศาสนาคริสต์มากที่สุดในประเทศไทยค่ะ เป็นชุมชนที่เก่าแก่มีอายุกว่า 100 ปี ชาวบ้านแทบทุกหลังคาเรือนนับถือศานาคริสต์ ในอดีตประมาณปี พ.ศ.2427 ประชากรชาวท่าแร่เป็นคริตชน อพยพมาจากประเทศเวียตนามประมาณ 40 คน อาศัยอยู่ในตัวเมืองสกลนคร และมีบาทหลวงเกโก(มิชชั่นนารีชาวฝรั่งเศส) เป็นผู้ดูแลความเป็นอยู่ แต่เนื่องจากจำนวนประชากรเพิ่มขี้น กอปรกับมีปัญหากับเจ้าหน้าที่ของรัฐบางคน จึงได้ย้ายมาตั้งถิ่นฐานใหม่ที่บ้านท่าแร่ ซี่งเต็มไปด้วยป่าไม้ มีหินลูกรังทั่วไป และคนพื้นเมืองเรียก “หินแฮ่” สำหรับกิจกรรมท่องเที่ยวภายในหมู่บ้านท่าแร่นั้น นักท่องเที่ยวที่มาเยือนจะได้พบกับความสวยงามของบ้านโบราณอายุมากกว่า 100 ปี และยังเป็นที่ตั้งของอัครสังฆมณฑลท่าแร่ หนองแสง หรือสำนักมิสซังท่าแร่ฯ หมู่บ้านนี้มีผังเมืองเป็นรูปสี่เหลี่ยมตารางหมากรุก คล้ายกับบ้านเมืองในแถบประเทศตะวันตก โดยอาคารบ้านเรือนส่วนใหญ่ถูกสร้างขึ้นแบบตึกปูนทรงยุโรปในรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบฝรั่งเศสผสมเวียดนาม อาคารแต่ละหวังถูกสร้างขึ้นด้วยการใช้ภูมิปัญญาช่างและประสบการณ์การก่อสร้างบ้านแบบก่ออิฐฉาบปูนไม่มีช่างใดทำได้และไม่ค่อยพบเห็นที่ไหนอีกด้วย ปัจจุบันอาคารบ้านเรือนเกือบทุกหลังยังใช้เป็นที่อยู่อาศัยได้ และในตึกแต่ละหลังจะมีแท่นแม่พระทุกบ้านเพราะมีความเชื่อในแม่พระ นอกจากนี้ทางตอนท้ายของหมู่บ้านยังมีตึกร้างก่อด้วยอิฐฉาบปูน มีต้นโพธิ์ขึ้นปกคลุมอยู่ ตึกหลังนี้มีอายุประมาณ 90 – 100 ปี เป็นบ้านของนายหนูกัน และนางหนูนา โง่นคำ เป็นมรดกขององเฮียน แต่เดิมสร้างเป็นที่อยู่อาศัย ต่อมาในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 (สงครามอินโดจีน) ทางราชการสั่งปิดโบสถ์ไม่ให้ใช้ประกอบพิธีใดๆในทางศาสนา ด้วยเหตุนี้ชาวคริสต์จึงต้องหาสถานที่แห่งใหม่เพื่อใช้ประกอบพิธีกรรมต่างๆ เช่น […]

Read More

วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร

วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร ไปไหว้พระธาตุคู่บ้านคู่เมืองสกลนครกันค่ะ วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร ตั้งอยู่ที่ริมหนองหาน อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร เดิมมีชื่อเป็นครั้งแรกว่าวัดธาตุเชิงชุม ในสมัยเพี้ยครชุมเป็นหัวหน้าปฏิบัติพระธาตุเชิงชุม และมีพระหลักคำและสามเณรอยู่ที่วัดนี้ ต่อมาวัดร้าง และได้มีพระครูหลักคำ “พน” เป็นเจ้าอาวาส และได้เปลี่ยนชื่อสร้อยวัด จากวัดธาตุเชิงชุมมาเป็นวัดธาตุศาสดาราม ต่อมาในสมัยพระเทพวิมลเมธี เป็นเจ้าอาวาส ได้เปลี่ยนจากวัดธาตุศาสดารามมาเป็นวัดพระธาตุเชิงชุมและพร้อมได้ขอยกเป็นพระอารามหลวงชั้นชนิดวรวิหาร มีชื่อว่าวัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร ประวัติพระธาตุเชิงชุม พระพุทธเจ้าพร้อมด้วยพระอานนท์ ได้เสด็จจากพระวิหารเชตวัน เสด็จตามลำแม่น้ำโขง มีพระพุทธบาทบัวบก พระพุทธบาทโพนเพล พระพุทธบาทเวินปลา ภูกำพร้า เป็นที่ตั้งของพระธาตุพนม พระพุทธบาทที่ภูน้ำลอดเชิงชุม พระพุทธบาทของพระพุทธเจ้าพระนามกกุสันธะ พระพุทธบาทของพระพุทธเจ้าพระนามโกนาคมะ และพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้าพระนามกัสสปะ เมื่อพระเจ้าสุวรรณภิงคาระทรงทราบข่าว จึงได้เสด็จออกต้อนรับ พร้อมทั้งพระนางนารายณ์เจงเวงราชเทวี พระพุทธเจ้ามีพุทธประสงค์ให้พระเจ้าสุวรรณภิงคาระ ทรงเลื่อมใสในพระพุทธศาสนายิ่งขึ้น จึงทรงแสดงปาฏิหาริย์บันดาลให้มีดวงมณีรัตน์มีรัศมี พวยพุ่งออกจากพระโอษฐ์พร้อมกันสามดวง พระเจ้าสุวรรณภิงคาระทรงเห็นเป็นอัศจรรย์ก็บังเกิดศรัทธา เปล่งวาจาสาธุการด้วยความปิติ พระพุทธเจ้าได้ตรัสว่า ณ ที่นี้เป็นสถานที่อันอุดมประเสริฐ ที่พระพุทธเจ้าทั้งสี่พระองค์ จะได้มาประชุมรอยพระพุทธบาทไว้ เพื่อเป็นที่สักการะแก่เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย พระเจ้าสุวรรณภิงคาระ บังเกิดความปิติโสมนัส จึงได้ถอดพระมงกุฎทองคำของพระองค์ สวมบูชารอยพระพุทธบาท แล้วทรงสร้างเจดีย์ครอบไว้ จึงได้ชื่อว่า พระธาตุเชิงชุม ตามพงศาวดารลาว ในสมัยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช แห่งกรุงศรีสัตนาคนหุต […]

Read More

วัดถ้ำขาม

วัดถ้ำขาม  ไปเดินตามรอยบุญของหลวงปูฝั้นและหลวงปู่เทสก์กันค่ะ  วัดถ้ำขามหรือภูขาม  ตั้งอยู่ที่ อ.พรรณานิคม จังหวัดสกลนคร บนสันเขาภูพาน มีบรรยกาศร่มรื่นงดงาม เดิมเป็นที่ปฏิบัติธรรมของพระอาจารย์ฝั้น อาจาโร ท่านอาจารย์ฝั้นจำพรรษาอยู่ที่วัดนี้จนถึงประมาณ พ.ศ. 2507 ท่านอาพาธจึงได้ไปจำพรรษาที่วัดป่าอุดมสมพร ที่แห่งนี้มีเทสกเจดีย์ เทสรังสีอนุสรณ์ เป็นสถาปัตยกรรม แบบเจดีย์จตุรัสมุข ตามแนวศิลปกรรมอีสานผสมกับอยุธยา ภายในประดิษฐานรูปหล่อสำริดหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี และเก็บอัฐิของพระอาจารย์เทศก์ เทศรังสี ซึ่งมีผู้คนยังมาเดินทางมาสักการะบูชาอยู่เป็นประจำ วัดแห่งนี้พระอาจารย์เทศก์ เทศรังสี ได้มาจำพรรษาจนกระทั่งละสังขาร ณ ที่นี้ เมื่อปี พ.ศ. 2537 ปัจจุบันได้ทำหุ่นเหมือนหลวงปู่เทสก์ หล่อด้วยไฟเบอร์กลาส ในอิริยาบถนั่งเก้าอี้ในกฎิเพื่อจำลองเหตุการณ์ประหนึ่งว่าหลวงปู่ยังมีชีวิตอยู่  และภายในวัดยังมีกุฏิเดิมของหลวงปู่ฝั้น อาจาโร ที่เคยจำพรรษาอยู่ที่วัดแห่งนี้อีกด้วย ประวัติความเป็นมาของวัดถ้ำขาม ในปี พ.ศ. 2496 พระอาจารย์ฝั้น ยังคงจำพรรษาอยู่ที่วัดป่าภูธรพิทักษ์ ติดกับถนนเลี่ยงเมือง ทางไปจังหวัดกาฬสินธุ์และอำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม และวัดป่าภูธรพิทักษ์ยังติดอยู่กับวัดพระธาตุนารายณ์เจงเวงซึ่งตั้งอยู่ในเขตอำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร ในระหว่างตอนกลางพรรษา พระอาจารย์ฝั้น ได้ปรารภกับลูกศิษย์ท่านได้นิมิตเห็นถ้ำอยู่ทางทิศตะวันตกของเทือกเขาภูพาน ภายในถ้ำนั้นมีแสงสว่างเท่า ๆ กับตะเกียงเจ้าพายุ 2 […]

Read More

พระธาตุศรีมงคล

พระธาตุศรีมงคล ไปไหว้พระธาตุคู่บ้านคู่เมืองของชาวอำเภอวาริชภูมิขอพรเพื่อศิริมงคงในชีวิตกันค่ะ ตั้งอยู่ที่วัดพระธาตุศรีมงคล ตำบลบ้านธาตุ อำเภอวาริชภูมิ สกลนคร ลักษณะเป็นเจดีย์ฐานสี่เหลี่ยม ยอดแหลม ตกแต่งด้วยศิลปกรรมยุคใหม่ก่ออิฐถือปูนประดับด้วยลายปั้นดินเผา บริเวณฐานเป็นพุทธประวัติของพระพุทธเจ้าสร้างด้วยดินเผาที่สร้างขึ้นครอบพระธาตุองค์เดิม ซึ่งเป็นศิลาแลงที่ชำรุด การคมนาคมสะดวกรถยนต์สามารถเข้าถึงบริเวณวัด ประวัติความเป็นมาพระธาตุศรีมงคล บริเวณที่ตั้งบ้านธาตุแต่เดิมพื้นที่เป็นป่าดง ครั้งแรกได้มีบุคคลกลุ่มหนึ่งมีภูมิลำเนาเดิมอยู่ที่อำเภอวาริชภูมิปัจจุบันนี้ เดิมเรียกว่า “ เมืองวารี” มีนายเวียงแก โฮมวงศ์ เป็นหัวหน้า พร้อมด้วยหลวงสุวรรณราช (กะยะ) ต้นตระกูลของสกุล “บุญรักษา” นายจันทะ-เนตร โฮมวงศ์ นายเมืองกาง หัศกรรจ์ หลวงแก้ว (ไม่ทราบนามสกุล) นายบุตราช บุญรักษา และนายจันด้วง แก้วคำแสน ได้พากันออกมาหักร้างถางพงไพร เพื่อทำไร่ แต่พอถางลึกเข้าไปก็พบองค์พระธาตุร้างอยู่ในดง จึงชะงักการถากถาง เพราะกลัวอำนาจศักดิ์สิทธิ์ของพระธาตุนี้จะลงโทษ ดังนั้นได้จึงนิมนต์ท่านพระครูหลักคำ ประธานสงฆ์เมืองวารี มาพิจารณา ท่านเห็นว่าสถานที่บริเวณนี้เป็นมงคล เหมาะที่จะสร้างหมู่บ้านได้จึงได้พร้อมใจกันถากถางบริเวณพระธาตุร้างนี้พร้อมทั้งได้ทำบุญอุทิศส่วนกุศลแผ่ไปให้แก่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่รักษาองค์พระธาตุ และได้สร้างวัดตรงนั้น ท่านพระครูหลักคำได้ตั้งชื่อพระธาตุร้างนั้นว่า “พระธาตุศรีมงคล” ตั้งชื่อวัดว่า “วัดธาตุศรีมงคล” เมื่อประมาณ พ.ศ. 2444 และเรียกหมู่บ้านว่า “บ้านธาตุ” จนปัจจุบันนี้ […]

Read More

ศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำศรีสะเกษ

ศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำศรีสะเกษ ไปท่องโลกใต้น้ำแบบง่ายๆเดินชิลๆชมปลาในอุโมงค์แก้วใต้น้ำกันค่ะ ศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำศรีสะเกษ ตั้งอยู่ภายในสวนเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา (เกาะห้วยน้ำคำ) ถ.เลียงเมือง ต.หนองครก อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ เป็นอาคารแสดงพันธุ์สัตว์น้ำในการดูแลของเทศบาลเมืองศรีสะเกษ ซึ่งมีแนวคิดมุ่งเน้นการพัฒนาให้ความรู้ สร้างความเพลิดเพลิน ส่งเสริมการท่องเที่ยวแก่เยาวชน นักเรียน นักศึกษาและประชาชนทั่วไป นอกเหนือจากการเรียนรู้ในตำรา หรือในห้องเรียน ศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำศรีสะเกษ ใช้งบประมาณในการก่อสร้างประมาณ 100 ล้านบาทเศษ ใช้เวลาในการก่อสร้างกว่า 1 ปี เปิดให้เข้าชมครั้งแรกเมื่อวันที่ 8 มกราคม 2554 ซึ่งตรงกับวันเด็กแห่งชาติ จัดแสดงทั้งพันธุ์สัตว์น้ำจืดและน้ำเค็ม ภายในอาคารได้จัดโซนปลาทะเล ปลาน้ำจืด ปลาสวยงาม โดยมีปลาน้ำจืด 79 ชนิด และปลาทะเล 22 ชนิด จำนวนกว่า 4,000 ตัว ตกแต่งในบรรยากาศไดโนเสาร์โลกล้านปีที่แปลกใหม่ ทั้งยังมีอุโมงค์แก้วใต้น้ำที่มีความยาวถึง 24 เมตร ซึ่งจะทำให้ผู้ชมได้สัมผัสกับฝูงปลาที่แหวกว่ายได้อย่างใกล้ชิด อีกทั้งบริเวณภายในยังมีการจำลองอุทยานไดโนเสาร์โลกล้านปีในแบบแปลกใหม่อีกด้วยค่ะ [adsense-2] ช่วงเวลาที่เปิดให้เข้าชม  เปิดให้เข้าชมในวันอังคาร-วันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 10.00-16.00 น. ปิดทำการทุกวันจันทร์ […]

Read More

ถ้ำโพธิสัตว์

ถ้ำโพธิสัตว์ ไปชมควมงดงามของประติมากรรมธรรมชาติกันค่ะ ถ้ำโพธิ์สัตว์ หรือกุ้ยหลิน ตั้งอยู่ในบริเวณบ้านปวนพุ ตำบลปวนพุ อำเภอหนองหิน จังหวัดเลย ภายในถ้ำมีถ้ำเล็กถ้ำน้อยอยู่อีกมากมายเรียงรายอยู่ใต้ยอดเขาทั้งหมด 15 คูหา และแต่ละคูหามีชื่อเรียกต่างๆ กัน เช่น เขาวงกต ถ้ำลับแล สวรรค์ชั้นต่างๆ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีหินย้อยรูปร่างสวยงามแปลกตาให้เราได้ถ่ายภาพเก็บความสวยงามภายในถ้ำอีกด้วยค่ะ การเข้าชมนั้นควรติดต่อกับทางเจ้าหน้าที่ อบต.ก่อน เนื่องจากไม่มีไฟฟ้า และแเส้นทา่งการเดินในถ้ำวกวนมากอาจทำให้หลงทางได้ ใช้เวลาในการเดินชมอย่างน้อย 1 ชั่วโมงค่ะ ถ้ำโพธิสัตว์แห่งนี้ เดิมเชื่อว่าบริเวณนี้เป็นชายฝั่งทะเลติดกับแผ่นดินที่เป็นไหล่ทวีป มีอายุ 250-280 ล้านปี เป็นยุคเดียวกับเทือกเขาหิมาลัยและคุณหมินเมืองจีน ภายในถ้ำโพธิสัตว์ได้แบ่งออกเป็นคูหามากมาย บางคูหามีลักษณะผนังหินขรุขระสูงชัน ดูลึกลับ ตื่นเต้น น่าผจญภัย โดยมีชื่อเรียกต่างกันไป เช่น ท้องพระโรง หินนางเงือก เป็นต้น [adsense-2] ติตด่อสอบถามเพิ่มเติม สอบถามข้อมูลท่องเที่ยว 1672 ตำรวจท่องเที่ยว 1155 ตำรวจทางหลวง 1193 บริการแพทย์ฉุกเฉิน 1669 ประชาสัมพันธุ์จังหวัดเลย (042) 811258 เทศบาลเมืองเลย (042) 811324 ตำรวจภูธรจังหวัดเลย (042) 811254 […]

Read More

เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง

เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง ตั้งอยู่ที่ อ.ด่านซ้าย จ.เลย อยู่ในบริเวณท้องที่อำเภอวังสะพุง อำเภอภูเรือ อำเภอด่านซ้าย และอำเภอภูหลวง ภูหลวงมีความหมายว่าเขาที่สูงใหญ่ หรือหมายถึงภูเขาของพระเจ้าแผ่นดิน เกิดจากการยกตัวของพื้นผิวโลกและดินส่วนที่อ่อนพัดพาลงสู่พื้นที่ส่วนต่ำ ภูหลวงประกาศให้เป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2517 มีพื้นที่ประมาณ 560,593 ไร่สภาพทั่วไปเป็นพื้นที่ราบสูง อากาศเย็นตลอดปี ฤดูกาลบนภูหลวงมี 3 ฤดูเหมือนพื้นราบแต่ระดับอุณหภูมิต่างกัน ฤดูร้อนเริ่มตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์-เมษายน อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 20-24 องศาเซลเซียสจะมีดอกไม้ที่มีสีสันเจิดจ้าสวยงามเช่นเอื้องตาเหิน กล้วยไม้ป่าดอกขาว กุหลาบขาวและกุหลาบแดง ฤดูฝนอยู่ในช่วงเดือนพฤษภาคม-ตุลาคม อุณหภูมิใกล้เคียงหรือสูงกว่าหน้าร้อนเล็กน้อยจะมีดอกไม้ป่าดอกเล็กๆ สีชมพูอมม่วงขึ้นแซมตามทุ่งหญ้าและเทียนน้อย ฤดูหนาวอุณหภูมิลดลงมาก เฉลี่ย 0-16 องศาเซลเซียส ในช่วงเดือนพฤศจิกายน-มกราคม บางวันอุณหภูมิลดลงถึง –4 องศาเซลเซียสจะมีก่วมแดงหรือที่รู้จักกันว่าเมเปิ้ล จะเปลี่ยนสีแดง แล้วผลัดใบ ตามพื้นดินจะเห็นต้นกระดุมเงินและรองเท้านารีปีกแมลงปอขึ้นอยู่บนก้อนหินและตามพื้นป่าดิบเขา สิ่งที่น่าสนใจ อุณหภูมิของอากาศที่หนาวเย็นตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในฤดูหนาวอุณหภูมิจะลดลงใกล้ถึงจุดเยือกแข็งหรือต่ำกว่าจุดเยือกแข็งเกือบทุกปี เป็นแหล่งที่มีพืชพรรณไม้ในที่สูงที่อุดมสมบูรณ์มาก มีกล้วยไม้ป่ามากกว่า 160 ชนิด มีพืชพรรณ ไม้ที่หายากหรือมีที่ภูหลวงเพียงแห่งเดียวหรือพืชพรรณไม้ที่ไม่ค่อยจะพบเห็น สวนหินธรรมชาติที่ประกอบด้วยพืชพรรณไม้ดอกกล้วยไม้และพืชชั้นต่ำ เช่นลานสุริยัน และป่าหินภูเขา มีป่าหลากชนิด เช่น ป่าผลัดใบหรือป่าเบญจพรรณ […]

Read More

วัดสระเกตุ

วัดสระเกตุ ตั้งอยู่ที่ บ้านน้ำคำ ตำบลน้ำคำ อำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด ตามประวัติของกรมศิลปากรที่ได้บูรณะปฏิสังขรเขียนไว้ว่า วัดสระเกตุสร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนปลาย ช่วงที่เป็นกลุ่มชนวัฒนธรรมไท-ลาว เข้ามาตั้งถิ่นฐานอยู่ในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด บริเวณเมืองท่งหรือเมืองทุง หรืออำเภอสุวรรณภูมิในปัจจุบัน ที่วัดแห่งนี้มีสิ่งที่น่าสนใจคือ สิมคู่ คือ อุโบสถ 2 หลังสร้างคู่กัน หลังที่ 1 วิหารเดิมใช้เป็นสิม(อุโบสถ) เป็นอาคารทึบ ฐานเป็นแบบฐานเอวบัน มุขหน้าทำเป็นเครื่องไม้ประดับ แกะสลักรูปราหูอมจันทร์ และลายพรรณพฤกษาอย่างงดงามตามแบบพื้นถิ่น หลังที่ 2  สิม(อุโบสถ) ตั้งอยู่ทางทิศเหนือคู่กับวิหาร สร้างขึ้นในปลายสมัยรัชกาลที่ 4 ต้นรัชกาลที่ 5 เป็นอาคารโปร่ง ฐานสูง มุขหน้าแกะสลักลายเช่นเดียวกับวิหาร สิ่งที่น่าสนใจภายในวัด สิมคู่ เป็นสถานที่สำคัญแห่งความภาคภูมิใจหมู่บ้าน สิมแห่งนี้จริง ๆ ที่ได้เป็นสิมคู่ ตามประวัติที่เล่ากันมา ก็ด้วยเหตุโบสถ์เกานี้มีมานานแสนนานแล้ว (ตามที่กรมศิลปากรได้แจ้งไว้ประมาณราวปลายสมัยอยุธยาตอนปลาย) ชาวบ้านเกิดความไม่แน่ใจว่า เขาใช้ในพิธีกรรมอะไรบ้าง จึงไม่กล้าทำพิธีบวชให้กับพระที่โบสถ์เก่าหลังนี้ จึงได้ทำการสร้างโบสถ์ขึ้นมาใหม่อีกหลังหนึ่ง แต่ยังคงรูปแบบสถาปัตยกรรมไว้ดังเดิม และได้ใช้โบสถ์ใหม่นี้ในการทำพิธีบวชพระแทนโบสถ์หลังเก่าเคยได้ฟังผู้เฒ่าผู้แก่เล่าต่อๆ กันมาในตอนแรกๆ ที่มาพบกันตัวโบสถ์ยังไม่มีหลังคา มีเพียงฐานและพระประธานคือหลวงพ่อใหญ่ ระยะต่อมาจึงมีการสร้างเพิ่มเติมส่วนของหลังคาและมีการยกฐานสูงขึ้นมาอีก ระยะหลัง ๆ […]

Read More